สวัสดีเพื่อนๆ ชาว OS ทุกคนครับ เมื่อวันอังคารที่ 19 กันยายนที่ผ่านมา ทางมงคลภาพยนตร์ก็ได้จัดงานฉายภาพยนตร์รอบสื่อเรื่อง Mary and the witch's flower ซึ่งเป็นอีกหนึ่งภาพยนตร์แอนิเมชั่นที่ได้รับการจับตามองอย่างมากขึ้นที่ SF World Cinema ชั้น 7 Central World ครับ และงานนี้ทาง OS ของเราก็ได้รับเชิญไปชมด้วย งานนี้ต้องขอบคุณทางมงคลภาพยนตร์มา ณ ที่นี้ครับ
โดยก่อนที่จะถึงเวลาภาพยนตร์ฉาย ทางมงคลภาพยนตร์ก็รู้ใจเราและอีกหลายๆ คนเหลือเกินด้วยการเชิญน้องๆ วง BNK48 6 คน มาทำการแสดงและร่วมพูดคุยเกี่ยวกับตัวภาพยนตร์ ซึ่งแน่นอนว่ามีผู้คนสนใจมากมายจนพื้นที่จัดงานเต็มไปด้วยผู้คนและพื้นที่ดูคับแคบไปถนัดตา ซึ่งหลังจากกิจกรรมบนเวทีเสร็จสิ้น น้องๆ BNK48 ก็เข้าโรงไปร่วมชมภาพยนตร์กับสื่อมวลชนและผู้โชคดีด้วยเช่นกัน งานนี้บอกเลยว่าฟิน 2 ต่อจ้า
เอาล่ะ ทีนี้ก็มาเข้าเรื่องรีวิวภาพยนตร์กันเลยดีกว่าครับกับเรื่อง Mary and the witch's flower: แมรี่ผจญแดนแม่มด งานแอนิเมชั่นทรงดีจาก Studio Ponoc สตูดิโอที่ก่อตั้งโดยอดีตทีมงานของทีมในตำนานอย่าง Studio Ghibli นั่นเอง โดยแม้เรื่องนี้จะถือเป็นงานแรกในฐานะ Studio Ponoc แต่ด้วยดีกรีผู้ก่อตั้งค่ายจากที่ทำงานเดิม ทำให้ Mary and the witch's flower ถูกคาดหวังอย่างมาก โดยที่พวกเราอาจลืมไปนี่เป็นเพียงงานแรกของสตูดิโอที่เพิ่งก่อตั้งเท่านั้น
Mary and the witch's flower เล่าเรื่องของ Mary เด็กสาวผมยุ่งหัวแดงที่ทำอะไรไม่เคยดีสักอย่าง กระทั่งวันหนึ่งจับพลัดจับผลูไปเจอกับดอกไม้แม่มดซึ่ง 7 ปีจะบานสักครั้ง และจากนั้นชีวิตของน้องก็ต้องไปพัวพันกับเรื่องเวทมนต์สุดคาดคิดจนชีวิตไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป... ความโดดเด่นอย่างหนึ่งของเรื่องนี้ที่ต้องยอมรับคืองานภาพที่มาในแนวๆ ยุคเก่าหน่อยๆ แต่ดูแล้วสบายตา เฟรมเรตลื่นไหลไม่ขี้เหร่ อาจไม่ได้ใช้เอฟเฟกต์อลังการอะไรนัก แต่โดยรวมก็สมกับเป็นภาพยนตร์จอเงินดีครับ
อีกส่วนหนึ่งที่ชอบของเรื่องนี้คือการออกแบบโลกแม่มดและเวทมนตร์ครับ รู้สึกว่ามีความสร้างสรรค์ใช้ได้ แม้ในหลายๆ ส่วนจะพอดูออกว่าได้รับแรงบันดาลใจมาจากภาพนตร์และการ์ตูนอีกหลายๆ เรื่อง ทว่าในภาพรวมมันก็สร้างความตื่นตาตื่นใจใช้ได้อยู่เหมือนกัน
ตัวหนังใช้วิธีเล่าเรื่องไม่เริ่งร้อน ไม่เร่งเร้า ค่อยๆ ไปตามสเต็ป เข้าช่วงไคลแมกซ์และจบลงอย่างละมุนละม่อม ในแง่หนึ่งหากมองว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ดูง่ายๆ สบายๆ เหมาะกับการพักผ่อนในวันหยุด ก็พอได้อยู่ครับหลายๆ คนอาจจะชอบแบบนั้น ทว่าหากใครที่ต้องการดูการผจญภัยในโลกแม่มดสุดเข้มข้นของ Mary หรือหวังกับปริศนาทับซ้อนชวนเซอร์ไพรส์ในเนื้อเรื่อง น่าจะผิดหวังกันหน่อยล่ะครับ ว่ากันง่ายๆ ตรงๆ เลยคือ "ยืดยาดในส่วนที่ควรกระชับ แต่ดันมากระชับในส่วนที่ต้องขยี้" อย่างช่วงองค์แรกของเนื้อเรื่องที่ค่อยๆ เล่าเรื่องไปเรื่อยๆ ไม่มีรีบ แต่พอเข้าช่วงไคลแมกซ์ดันเร่งรัด ตัดกระชับฉับไว ทั้งๆ ที่หากเลือกจะขยี้อีกสักหน่อย ตัวภาพยนตร์จะโอเคกว่านี้มาก
อย่างไรก็ดีเมื่อมันเป็นงานแรกของ Studio Panoc ก็อดคิดไม่ได้เช่นกันว่าตัวภาพยนตร์โดนจำกัดงบรึเปล่า คือจังหวะเล่นใหญ่แทบไม่มีเลย พอจะใหญ่ก็ไม่สุดจนรู้สึกราวกับภาพยนตร์มันกั๊กๆ ไปสักหน่อย คู่พระนาง Mary กับ Peter ก็ยังไม่รู้สึกว่าเคมีสปาร์คกันขนาดนั้น กระนั้นก็ไม่ใช่รู้สึกเหมือนโดนยัดเยียดนะ อาจเพราะตัวละครที่มีแอร์ไทม์ออกมาปฏิสัมพันธ์กันมันไม่ได้มากมายอะไร คนดูจึงรู้สึกได้ประมาณว่า "อืม... ก็คงต้องเป็นหมอนี่ (Peter) ล่ะนะ"
ด้วยความละมุนละไมจนเกินไปสำหรับวัยผม Mary and the witch's flower จึงไม่ใช่หนังที่ทำให้ผมฮือฮานัก แต่ก็ไม่ผิดหวังนะ ในทางกลับกันก็อย่างที่บอกครับ ถ้าชอบการ์ตูนละเมียดๆ ดูสบายๆ เนื้อเรื่องไม่ซับซ้อน ภาพสวยไร้ความรุนแรง เรื่องนี้เป็นตัวเลือกต้นๆ ในยามปัจจุบันที่คุณควรตีตั๋วเข้าไปดูเลยครับ โดยเฉพาะน้องๆ เด็กๆ เล็กๆ ผมว่ามีแววจะถูกใจอยู่มากเลยล่ะ
ป.ล. แมว 2 ตัวทั้งทิปและกิ๊บส์น่ารักมาก
ป.ล.2 แต่เฌอปรางน่ารักที่สุด lol