รีวิว: Valerian and the city of a thousand planets - ตระการตามหาสนุก

แชร์เรื่องนี้:
รีวิว: Valerian and the city of a thousand planets - ตระการตามหาสนุก

     ขออภัยที่เลทไป (ไม่) หน่อยครับสำหรับบทรีวิวภาพยนตร์ Valerian and the city of a thousand planets ซึ่งทางผม (Dark_Librarian a.k.a ท่านหลอด) และเซียนโอ๊ตโตะได้ไปรับชมรอบสื่อกันมาเมื่ออาทิตย์ก่อนจากการเชิญของทาง มงคลเมเจอร์ อันนี้ต้องขอกราบขอบพระคุณสวยๆ ซะหนึ่งที

     อย่างไรก็ดี เพราะรู้ว่าผมจะช้าและเขียนไม่ทันอาทิตย์ก่อนแน่ๆ จึงได้ขึ้นมินิรีวิวซึ่งเป็นตัวเดียวกับที่ผมโพสต์หน้าวอลล์ตัวเองไปบนเพจของ OS ด้วยหลังจากรับชมภาพยนตร์จบสดๆ ร้อนๆ เลย แน่นอนว่ามีเกลาคำเพิ่มอีกเล็กน้อย แต่หลักใหญ่จะความอยู่ครบถ้วนเหมือนเดิม และคะแนนก็เป็นแบบเดิม เชียร์ให้ไปดูเหมือนเดิมเพราะผมประทับใจกับมันจริงๆ แต่ในบทควารีวิวนี้จะมาลงลึกในรายละเอียดกันอีกเล็กน้อยครับ

     หนึ่งในความประทับใจที่สุดในเรื่อง Valerian ยังไงก็ไม่พ้นเรื่องภาพแล้วงานวิชวลจริงๆ เพราะมันโดด มันเด่น มันว้าวมากครับ ในรอบสื่อที่ไปดูทางมงคลเมเจอร์จัดฉายแบบ 3 มิติเลย ซึ่งผมก็มีแอบคิดก่อนเข้าโรงแล้วแหละว่าเขาต้องมั่นใจกับศักยภาพ 3D ของเรื่องมากๆ จึงค่อนข้างคาดหวังตั้งตารอในระดับหนึ่ง ทว่าตัวภาพยนตร์กลับฉีกหนีความคาดหวังของผมไปด้วยความเร็วอวกาศที่ 3 เหนือลํ้ายิ่งกว่าสิ่งที่คาดจะได้เจอเสียอีก โดยเฉพาะฉากการแนะนำมหานครพันดาวเคราะห์ "อัลฟ่า" ที่เป็นการโชว์ของจากหลายๆ ฝ่ายที่แท้จริง ไม่ว่าจะเป็นตัวผู้กำกับ ลุค เบสชง เอง หรือทีมวิชวลเอฟเฟกต์ระดับท็อปของโลก 3 ทีมที่ผนึกกำลังเนรมิตอัลฟ่าออกมางามจนชวนนํ้าตาไหลมากๆ และต้องบอกว่าด้วยว่าไม่ใช่แค่สวย แต่รายละเอียดหรือดีเทลยิบย่อยซึ่งได้เห็นผ่านตา ก็ยังมีศักยภาพในการเล่าเรื่องราวในตัวของมัน คุณจะอดจินตนาการต่อไม่ได้ว่า เจ้าสิ่งที่เห็นอยู่นี้มันมีหน้าที่อะไรหรือมีความเป็นมายังไง เหนือสิ่งอื่นใดคือ 3D ทำหน้าที่ของมันได้เยี่ยมจริงๆ

Valerian and the city of a thousand planetsValerian and the city of a thousand planets

     ในเรื่องภาพและวิชวล เสียงตอบรับส่วนใหญ่ออกมาในแนวคล้ายๆ กัน แต่การเล่าเรื่องเดินเรื่องนี่แหละครับทำให้เสียงแตก อาจจะด้วยความที่ Original ของมันคือกราฟฟิคโนเวลอายุอานามปาเข้าไป 40 ปีแล้ว แถม ลุค เบสชง ผู้กำกับยังชอบเอามากๆ ถึงขนาดรอสร้างหนังเรื่องนี้มาทั้งชีวิต มันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่แกจะเลือกถ่ายทอดผลงานที่แกชอบที่สุดให้ออกมาในแนวทางที่เคยทำให้แกตกหลุมรักมันมากที่สุดมาแล้ว ดังนั้นเราจะได้เห็นความ Old School ในการเล่าเรื่องหลายๆ จุด เป็นรูปแบบจากปีมะโว้ที่จะพาให้เรารู้สึกเหมือนกลับไปดูหนังในช่วงอายุ 14 อีกครั้ง ดูๆ แล้วก็คอนทราสต์กันดีครับแบบว่าวิชวลลํ้าอนาคตโคตรๆ แต่กลับมีวิธีเดินเรื่องแบบโบราณกาล

     ในจุดนี้ทำให้บางคนอาจจะไม่ชอบใจนัก เพราะคาดหวังเทคนิคการเล่าเรื่องว่าจะออกมาหวือหวาอย่างไร พอมาเจอแบบที่เป็นอยู่ จะรู้สึกเฟลไปก็ไม่แปลกครับ ส่วนตัวผมรู้สึกว่าแม้มันจะไม่ว้าว แต่ก็ลื่นไหลดีไม่มีสะดุดอะไร เหมือนดูตัวเอก 2 คนรับเควสต์ไปตามลำดับพร้อมๆ คลี่คลายสถานการณ์ในเรื่องไปด้วย เอาจริงๆ จุดพีคของเรื่องก็ขึ้นไม่สุดนัก แต่ก็อย่างที่บอกครับงานวิชวลที่โหดทะลุปรอทนั้นช่วยทำให้หลายๆ ซีนที่อาจไม่มีอะไรมากกลายเป็นมี่ความน่าสนใจขึ้นมาเฉยเลย ตรงนี้ตอกยํ้าได้ชัดว่างานภาพที่ไม่ใช่แค่สวยทว่าเต็มเปี่ยมด้วยจินตนาการของเรื่องนี้นั้นยอดเยี่ยมเพียงใด

     ในส่วนของคู่พระนางทั้ง เดน ดีฮาน และ คาร่า เดอลาวีญ ก็เคมีพอไปกันได้อยู่ครับ อาจไม่ถึงกับฟินนํ้าบาน แต่ดูแล้วไม่ตะขิดตะขวงอะไร เพอร์ฟอแมนซ์แยกเป็นรายคนไปก็ไม่ขี้เหร่เท่าไหร่ครับ อย่าง เดน เองเราเห็นเขาเล่นหนังเรื่องอื่นมา ก็พอรู้ว่าเขามีของกว่านี้มาก แต่อาจจะด้วยบทไอ้ขี้เก็กของตัวละคร วาเลเรียน นั้นไม่เอื้อให้เขาได้พ่นไฟมากนัก ขณะที่ คาร่า กับบทบาท ลอเรลลีน ถือว่าเป็นพัฒนาการที่ดีของคาร่าเลยครับ เธอแสดงได้ดีขึ้นมาก เป็นสาวแกร่งที่แข็งแกร่งแต่มีมุมอ่อนหวานในทีได้โอเคทีเดียว ส่วนความสวยนั้นไม่ต้องพูดถึงออร่ากระจุยกระจายตั้งแต่ฉากแรกยันจบเรื่อง ส่วนตัวแล้วผมคิดว่าบทของลอเรลลีนนั้นเหมาะกับเธอจริงๆ ครับ

     สำหรับผม Valerian and the city of a thousand planets คือภาพยนตร์ที่ดีเยี่ยมโดนใจเรื่องหนึ่งของปี มันอาจไม่ได้มีจุดพีคที่ชวนให้ระทึกจนใจสะท้านมากมาย แต่การเล่าเรื่องการผจญภัยในแบบ Old School ก็มีความสนุกและบริบูรณ์ในแบบของมัน ถึงอย่างนั้นสำคัญที่สุดที่ไม่อยากให้พลาดเรื่องนี้จริงๆ สำหรับคอไซไฟก็คืองานวิชวลเหนือจินตนาการที่สามารถพูดได้เลยว่าผลักดันวงการภาพยนตร์ให้ก้าวไปอีกขั้น ไม่เสียแรงที่ระดมมาทั้ง ILM (Star Wars), Weta (The Hobbit, ไตรภาคใหม่ Planet of the Ape) และ Rodeo FX (Pacific Rim, Justice League) โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับฉากพาทัวร์อัลฟ่า ที่ถือว่าเป็นอาหารตาชั้นโอชาอย่างแท้จริง ถ้าจะไปดูแล้วทุนทรัพย์พอก็แนะนำว่าจัด 3D เลยครับคุ้มแน่นอน

Valerian and the city of a thousand planets

แชร์เรื่องนี้:

เรื่องที่คุณอาจสนใจ