ในอดีตที่ผ่านมา เกมเมอร์อย่างเราๆ อาจจะต้องผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำเล่ากับการที่ได้เห็นวงการภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดหยิบเอาเกมดังๆ มาทำเป็นหนังแล้วเจ๊งไม่เป็นท่าอยู่ร่ำไป ทั้งที่หลายๆ เรื่องเราย่อมรู้อยู่แก่ใจว่าทำเป็นหนังเวอร์ชั่นคนแสดงแล้วไม่น่าจะเวิร์คแน่นอน บางเรื่องเหมาะที่จะเอาไปทำเป็นการ์ตูนแอนิเมชั่นมากกว่า บางเรื่องก็เหมาะที่จะเป็นเพียงแค่เกมมากกว่า เป็นต้น แต่ถึงกระนั้น ก็ยังคงมีแฟนเกมเดนตายบางกลุ่มที่อยากจะลองทำภาพยนตร์โดยใส่รายละเอียด ตลอดจนองค์ประกอบต่างๆ ที่เคารพตัวเกมลงไปในหนังให้มากที่สุด ผลก็คือออกมาดีกว่าที่คิด แถมบางเรื่องยังถูกยกให้เป็นภาพยนตร์แฟนเมดจากเกมที่ควรมีเนื้อเรื่องอยู่ในไทม์ไลน์ของเกมเลยด้วยซ้ำ วันนี้ทีมงาน OS จะมาแนะนำ 5 ภาพยนตร์แฟนเมดจากเกมที่เพื่อนๆ ควรหามาดูอย่างแรงกันครับ ว่าจะมีเรื่องอะไรบ้าง!
-----------------------------------
1. Mortal Kombat: Rebirth
เผยแพร่ครั้งแรก: 8 มิถุนายน 2010
ถ้าใครอายุขึ้นเลข 3 แล้วน่าจะพอจำได้ว่า Mortal Kombat เคยถูกทำเป็นหนังแบบ Official อยู่ 2 ภาค ได้แก่ Mortal Kombat (1995) และ Mortal Kombat: Annihilation (1997) โดยภาคแรกนั้นกวาดรายได้ไปอย่างถล่มทลายจนเหมือนเป็นการปลดล็อคอาถรรพ์ว่าหนังจากเกมมักไม่รุ่งได้เสียที แต่จากกระแสตอบรับในภาค Annihilation ที่ตกลงไปมาก ก็เลยทำให้ประเด็นอาถรรพ์กลับมาอยู่ในลูปอีกครั้งหนึ่ง กระทั่งมีแฟนเกมนามว่า เควิน ตันเจริญ หนุ่มอเมริกันเชื้อสายไทยที่ได้ลองหยิบ Mortal Kombat มาทำเป็นหนังสั้นแบบแฟนเมดขึ้นมา แล้วส่งไปให้ทาง Warner Bros. ดูเพื่อให้เห็นถึงแนวทางในการทำหนังของเขา และแล้วฝันก็เป็นจริงเมื่อ Warner Bros. ให้ความสนใจและผุดเป็นโครงการทำหนัง Mortal Kombat ในลักษณะเว็บซีรีส์ (ดูเฉพาะบนเว็บเท่านั้น) พร้อมกับมอบตำแหน่งให้เควินเป็นผู้กำกับอีกด้วย โดยภาพยนตร์เว็บซีรีส์นั้นก็มีชื่อว่า Mortal Kombat: Legacy นั่นเอง
-----------------------------------
2. Street Fighter: Legacy
เผยแพร่ครั้งแรก: 6 พฤษภาคม 2010
ในตอนแรกนั้น Legacy เป็นหนังแฟนเมดที่ประกอบไปด้วยทีมโปรดักชั่นจำนวนไม่กี่ชีวิต แม้แต่ตัวผู้กำกับอย่าง โจอี้ อันซาห์ ก็ยังยอมลงทุนแสดงเป็น Akuma เองด้วย โดยเรื่องราวหลักๆ จะโฟกัสไปที่การต่อสู้ระหว่างริวกับเคนที่กินเวลานานพอสมควร ถึงแม้ว่าชื่อชั้นจะเป็นหนังแฟนเมด แต่เนื้องานที่ออกมาโดยเฉพาะคิวบู๊นั้นทำออกมาได้ดีกว่าที่หลายคนคิดไว้เสียอีก ซึ่ง Capcom ก็ถึงกับประทับใจกับความพยายามของทีมงาน และอนุญาตอย่างเป็นทางการให้สานต่อโปรเจ็กต์ต่อไปได้ เลยออกมาเป็นหนังแบบเว็บซีรีส์เรื่อง Street Fighter: Assassin's Fist ตรงนี้เพื่อนๆ เชื่อมั้ยครับว่า งบประมาณเริ่มแรกของโปรเจ็กต์ Assassin's Fist เนี่ยมีเพียง 100 เหรียญสหรัฐฯ เท่านั้น เนื่องจากตัวของโปรดิวเซอร์อย่างโจอี้ อันซาห์ นั้นเป็นคนไร้บ้าน (Homeless) ที่มีฐานะยากจน แถมบรรดานักแสดงที่ไปเกณฑ์มาก็ล้วนเป็นเพื่อนฝูงของเขาทั้งสิ้น พวกเขาเลยไประดมทุนผ่าน Kickstarter กันเอง ไม่นานนัก โปรเจ็กต์ระดุมทุนก็ยกเลิกไป เนื่องจากมีผู้ใจดีออกค่าใช้จ่ายสำหรับสร้างหนัง Assassin's Fist ให้ทั้งหมด พอหนังออกแพร่ภาพปุ๊บ ก็ได้รับคำชมจากแฟนๆ อย่างล้นหลาม บ้างถึงกับสรรเสริญเลยว่านี่เป็น Street Fighter ที่ใส่จิตวิญญาณโดยแฟนเกมอย่างแท้จริง!
-----------------------------------
3. Portal: No Escape
เผยแพร่ครั้งแรก: 23 สิงหาคม 2011
หนังสั้นแฟนเมดจากเกมดังของค่าย Valve ความยาวประมาณ 7 นาที ที่ใช้ทุนสร้างไม่กี่พันเหรียญ แต่ได้ยอดผู้ชมบนอินเตอร์เน็ตไปสูงถึงกว่า 20 ล้านวิว คุณภาพที่จ่ายน้อยได้มากขนาดนี้ ทาง New Line Cinema เลยมาทาบทาม แดน ทรัชเทนเบิร์ก ให้ไปกำกับหนัง Y: The Last Man ในเวลาต่อมา แหม่ หนังดี...ผู้กำกับก็เลยได้อานิสงฆ์ไปด้วยในพริบตา
-----------------------------------
4. Dead Space: Chase to Death
เผยแพร่ครั้งแรก: 12 เมษายน 2013
Chase to Death เป็นผลงานหนังสั้นแฟนเมดที่จำลองบรรยากาศความสยองขวัญบนสถานีอวกาศ ที่หากใครเคยเล่นเดโมเกม Dead Space ของแต่ละภาคมาก็น่าจะพอจำได้บ้างว่าในตอนท้ายนั้นลงเอยเป็นอย่างไร ซึ่งสิ่งที่ทางผู้กำกับต้องการนำเสนอก็คือบรรยากาศล้วนๆ อีกทั้งตลอดทั้งเรื่องก็ไม่มีบทพูดใดๆ เลยด้วย แต่พอได้เห็นเป็นเวอร์ชั่นคนแสดงแบบนี้แล้วเลยยิ่งคิดถึงตัวเกมสมัยออกมาใหม่ๆ เลยทีเดียวละ
-----------------------------------
5. The Last of Us
เผยแพร่ครั้งแรก: 25 กรกฎาคม 2013
สำหรับหนังแฟนเมดนี้ ต้องถือว่าเป็นความประทับใจหลังเล่นหมาดๆ ของทีมสร้างเลยครับ เพราะมีการทำและเผยแพร่หลังจากเกมวางจำหน่ายไปเพียง 1 เดือนเท่านั้น แถมคุณภาพที่ออกมาก็ดูมีความตั้งใจทั้งเรื่องแอ็กติ้ง เมคอัพ ตลอดจนโลเคชั่นที่ถ่ายทำด้วย หากใครที่เคยประทับใจเนื้อเรื่องของเกมแล้ว ลองชมบทบู๊จากหนังสั้นในคลิปนี้ดูน่าจะเพลินไม่น้อยเลยล่ะ
-----------------------------------
เครดิต: Gamingbolt / Tribecafilm