ประเภท : ทริลเลอร์ / โรแมนติก
กำหนดฉาย : 29 มิถุนายน 2017
บริษัทจัดจำหน่าย : มงคลเมเจอร์
อำนวยการสร้าง : โจดี้ แมตเตอร์สัน (Razzle Dazzle, Down Under, Thunderstruck)
บรูซ เดวีย์ (Braveheart, Hacksaw Ridge, Apocalypto)
กำกับ : พอล เคอร์รี (One Perfect Day )
เขียนบท
เรื่องย่อ
ทุกสิ่งที่เห็นคือปริศนา
ทุกอย่างที่เกิดคือลางบอกเหตุ
ทุกภาพนำไปสู่สถานที่และห้วงเวลาเดียวกัน
2:22 (ทู ทเวนตี้ ทู) ความลับแห่งความตายกำลังสื่อสารกับ "เขาคนนี้"
ณ เวลา บ่าย 2 โมง 22 นาที “ดีแลน แบรนสัน” (มิเคียล ฮิวส์แมน จาก Game of Thrones, The Age of Adaline) มือดีที่สุดของกองควบคุมทางอากาศของสนามบิน JFK นิวยอร์กผู้คลั่งไคล้การจัดรูปแบบทุกอย่างให้กับชีวิต พบแสงประหลาดที่ทำให้เขากลายเป็นอัมพาตไปชั่วขณะจนเกือบทำให้เครื่องบิน 2 ลำชนกันกลางอากาศ....เขาถูกสั่งพักงานทันที
จากวันนั้นเขายังคงเห็นเหตุการณ์รูปแบบเดิมๆ ไม่ว่าจะเป็น นักธุรกิจอ่านหนังสือพิมพ์ คู่รักจูบกัน คนท้อง กระจกแตก เสียงเบรก ซึ่งทุกอย่างล้วนนำไปสู่สถานีรถไฟแกรนด์เซ็นทรัลทุกบ่าย 2 โมง 22 นาที นี่ไม่ใช่แค่เรื่องบังเอิญ แต่มันคือปริศนาแห่งเวลา 2:22 (ทู ทเวนตี้ ทู) ขณะเดียวกันเขาเริ่มมีความสัมพันธ์กับสาวสวยที่อยู่ในเครื่องบินที่เกือบตายยกลำในครั้งนั้นอย่าง “ซาร่า บาร์ตัน” (เทเรซ่า พาล์มเมอร์ จาก Warm Bodies, Lights Out, I am Number Four, Hacksaw Ridge) ซึ่งตกหลุมรักกันและกันตั้งแต่แรกเห็น
แต่แล้วการเห็นภาพซ้ำๆ ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ดีแลน ต้องใช้พรสวรรค์ที่มีอยู่หาคำตอบจากรูปแบบที่เขาเห็นและดึงตัวเองออกมาให้ได้ก่อนที่ห้วงเวลาแห่งความตายจะมาถึงตัว
นับถอยหลังสู่ 2:22 (ทู ทเวนตี้ ทู) เวลาเฉียดตาย
ผู้กำกับอย่าง พอล เคอร์รี ได้รู้จักกับปริศนาชวนหัวของ 2:22 (ทู ทเวนตี้ ทู) จากบทภาพยนตร์โดยฝีมือของ ทอดด์ สไตน์ “ทอดด์ สไตน์ มองโลกตามกฏแห่งกรรม” เคอร์รี กล่าว “ตอนเขาได้ไอเดียตั้งต้นเรื่องนี้ตอนเขามีปัญหาด้านสุขภาพ ทำให้มีความคิดที่จะเขียนเรื่องนี้ต่างออกไป ทันทีที่ผมได้อ่านบทผมคิดว่า ‘นี่เป็นสิ่งที่มันฝังอยู่ใน DNA ในฐานะผู้กำกับของผม’ บทของ ทอดด์ มันดาร์กแต่ผมว่าสิ่งที่แฝงอยู่ในความเขย่าขวัญนั้นมันเกี่ยวกับเวลา เป็นความรักผ่านห้วงเวลาซึ่งมันเป็นอะไรที่ต่อยอดได้อีกมาก”
เคอร์รี ต้องการถ่ายทอดมันออกมาผ่านมุมมองที่ไม่เหมือนใคร ผมบอก ทอดด์ ว่า “ผมพร้อมทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ทำหนังเรื่องนี้ทุกวิถีทาง เราอินกับไอเดียและแก่นหลักของเรื่องมาก และนั่นคือจุดเริ่มต้นของโปรเจคต์นี้”
เคอร์รี กล่าวต่อ “จากครั้งแรกที่ผมได้อ่านบท ผมรู้ทันทีว่า 2:22 (ทู ทเวนตี้ ทู) จะเป็นหนังกระแสหลักที่สมบูรณ์ในหลายแง่ ผมเสนอมุมมองในฐานะผู้กำกับให้ ทอดด์ ฟัง ถ้าให้สรุปง่ายๆ มันคือการทำหนังเขย่าขวัญโรแมนติคไฮคอนเซปต์สุดล้ำ มันเป็นหนังที่ทำให้คุณตื่นตะลึงด้วยงานภาพ ขบคิดไปกับปริศนา พาคนดูให้ได้ร่วมลุ้นไปตั้งแต่เฟรมแรกที่ปรากฏไปจนเฟรมสุดท้าย”
ผู้ร่วมเขียนบท นาธาน ปาร์คเกอร์ เข้ามาร่วมโปรเจคต์ในขั้นตอนสำคัญของการพัฒนาพอดี เขาช่วยเราออกแบบตัวละครเพื่อให้มันสนองกับพล็อต นาธาน เป็นนักเขียนมากฝีมือ ซึ่งเขาพิสูจน์ตัวเองมาแล้วจากหนังอินดี้อย่าง Moon นาธาน เป็นหมากสำคัญที่ช่วยเราพัฒนาโครงสร้างของเรื่องและเปลี่ยนเอาการควบคุมการจราจรทางอากาศให้กลายเป็นภาพยนตร์ จากมุมมองของนักเขียนและผู้กำกับผมรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ทำงานกับสองคนทำงานที่ทุ่มเทและเปี่ยมไปด้วยความสามารถ”
ช่วงปลายปี 2013 สตีฟ ฮูเทนสกี้ ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาให้หนัง และเข้าร่วมทีมเป็นโปรดิวเซอร์ด้วย เช่นเดียวกับ เคอร์รี ฮูเทนสกี้ หลงใหลในปริศนาและความเป็นเอกลักษณ์ของ 2.22 (ทู ทเวนตี้ ทู) โจดี้ แมตเตอร์สัน เข้าร่วมโปรเจกต์ในฐานะโปรดิวเซอร์ แมตเตอร์สัน จำได้ว่า “เมื่อ สตีฟ และ พอล ส่งบทมาให้ฉัน ฉันชอบไอเดียที่จะทำหนังเขย่าขวัญที่แกนหลักมันคือความโรแมนติกและนั่นคือสิ่งที่ฉันคิดว่าทำให้ให้ 2:22 (ทู ทเวนตี้ ทู) ต่างจากหนังแนวนี้เรื่องอื่นๆ ฉันคิดว่ามันเป็นคอนเซปต์ที่น่าสนใจในการต่อยอด งานของเราคือต้องคิดว่า เราจะทำหนังเรื่องนี้ออกมายังไงให้ฉลาดและนอกกรอบมากที่สุด?’”
ปริศนาแห่ง 2:22 (ทู ทเวนตี้ ทู) เวลาเฉียดตาย
ทุกวัน ณ บริเวณโถงกลางของสถานีรถไฟแกรนด์เซ็นทรัล ดีแลน แบรนสัน เห็นนักธุรกิจอ่านหนังสือพิมพ์ที่เคาท์เตอร์ขายตั๋ว คู่รักจูบกัน เด็กนักเรียน 6 หกคน และผู้หญิงท้องแก่ยืนอยู่ใต้นาฬิกาที่เป็นสัญลักษณ์ประจำสถานี มันอาจจะเปลี่ยนคนไปแต่ยังคงรูปแบบนี้ไว้ตลอด
ช่วงเวลาก่อนหน้านั้นรูปแบบพวกนี้ยังคงหลอน ดีแลน ไม่ว่าจะเป็น เครื่องบินบินผ่านหัว เสียงกระจกแตก เสียงเบรก จนเขาได้รู้ว่ามันพยายามสื่อสารอะไรกับเขาอยู่ เหตุการณ์ที่เป็นแบบแผนแบบนี้เกิดขึ้นในเมืองใหญ่ที่วุ่นวายโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับตัวเขาย่อมไม่ใช่แค่เรื่องบังเอิญและนี่คือปริศนาแห่ง 2:22 (ทู ทเวนตี้ ทู)
พอล เคอร์รี ผู้กำกับ “หนังเรื่องนี้คือปริศนาความรัก หนังทริลเลอร์โรแมนติคเกี่ยวกับชายคนหนึ่งที่มีพรสวรรค์ที่อาจจะทำให้เขากลายเป็นอัจฉริยะไม่ก็คนเสียสติ พรสวรรค์ที่ซ่อนความลับสุดอันตรายที่ต้องแก้ปริศนาเพื่อที่จะหยุดยั้งประวัติศาสตร์แห่งความวิปโยคไม่ให้ซ้ำรอยเดิม”
บรรดาตัวละคร
“มิเคียล ฮิวส์แมน” รับบท ดีแลน แบรนสัน
ครั้งแรกที่เราได้รู้จักกับ ดีแลน แบรนสัน เขาเป็นคนเก็บตัว เขาดูเป็นคนที่ไม่ค่อยกล้าฉีกออกไปจากชีวิตประจำวันเขาเท่าไหร่ เขากลืนไปกับจังหวะชีวิตของเมืองจากอพาร์ตเมนท์ในอีสท์วิลเลจไปจนถึงถนนในแมนฮัตตันสู่ใจกลางสถานีแกรนด์เซ็นทรัล เขาทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ควบคุมการจราจรทางอากาศแห่งสนามบินเจเอฟเค ระหว่างอยู่ในหอควบคุมจิตใจของ ดีแลน เปี่ยมด้วยสมาธิ ความแม่นยำของเขาไร้ที่ติ จนกระทั่งวันหนึ่ง ณ เวลา บ่าย 2.22 เมื่อจู่ๆเหมือนสติของเขาไม่อยู่กับเนื้อกับตัวจนเกือบเป็นต้นเหตุของความหายนะ เขาถูกพักงานนั่นหมายถึงสมาธิของเขาหลุดลอยไปเช่นกัน เขาเหมือนใช้ชีวิตไปวันๆ จนกระทั่งได้พบกับ ซาร่า ผู้ที่เขารู้สึกมีความผูกพันธ์กับเธออย่างน่าประหลาดแม้จะรู้จักกันแค่เพียงไม่นาน
นักแสดงหนุ่ม มิเคียล ฮิวส์แมน ผู้รับบท ดีแลน รู้สึกว่า “เมื่อมองในมุมหนึ่ง ชีวิตของ ดีแลน เหมือนควบคุมไม่ได้เพราะเขาต้องเจอกับเรื่องพวกนั้นซึ่งมันเริ่มคุกคามเขาขึ้นเรื่อยๆ ส่วนอีกมุมคือเขาไม่เคยรู้สึกว่ามีความกระหายในชีวิตมากเท่านี้มากก่อนตั้งแต่รู้จักกับ ซาร่า เมื่อแพทเทิร์นที่เขาพยายามไขความลับเริ่มเป็นภัยกับเขาขึ้นเรื่อยๆ ดีแลน ตระหนักได้ว่าเขาต้องทำอะไรซักอย่าง เขาต้องนำมันไปก้าวหนึ่งเพื่อให้ ซาร่า และตัวเขาเองปลอดภัย”
สำหรับการเตรียมรับบทเป็น ดีแลน ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่สุดของเรื่อง ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสำหรับ ฮิวส์แมน นักแสดงหนุ่มกล่าว “หนึ่งในเหตุผลที่ผมอยากแสดงบทนี้เพราะมันมอบโอกาสให้ผมได้เข้าสู่โลกของตัวละคร ยกตัวอย่างเช่นโลกของการควบคุมการจราจรทางอากาศ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมไม่เคยรู้จักมาก่อน ผมขึ้นเครื่องบินเกือบทุกอาทิตย์ ไปทำงานหลายประเทศทั่วโลกแต่ผมไม่เคยรู้เลยว่ามีคนกี่คนอยู่เบื้องหลังเครื่องบินขึ้นลงแต่ละครั้ง”
เช่นเดียวกับการฟังวิทยุจราจรทางอากาศ ฮิวส์แมน ใช้เวลากว่าสองวันศึกษาการควบคุมการจราจรทางอากาศ รวมทั้งศึกษาการทำงาน กรอบความคิด และการทำงานร่วมกันเป็นทีม “ในที่สุดผมก็ถึงจุดที่สามารถเข้าใจทุกสิ่งที่ผมพูดในหนัง นั่นเป็นก้าวแรกแห่งการเข้าถึงตัวละครคร ทุกเช้าตอนแต่งหน้าผมไล่อ่านหมายเลข เครื่องบิน ซ้ำแล้วซ้ำอีก พอเวลาถ่ายเสร็จผมเหมือนจะฝันเป็นมันเลยเพราะ ดีแลน คงฝันเห็นเลขพวกนี้เหมือนกัน”
เทเรซ่า พาล์มเมอร์ รับบท ซาร่า บาร์ตัน
ทำงานเป็นภัณฑารักษ์ในแกลเลอรีสุดหรูใจกลางแมนฮัตตัน เมื่อเธอได้พบ ดีแลน ที่โชว์บัลเล่ต์พวกเขาตกหลุมรักกันทันที พวกเขาแบ่งปันความรัก รอยแผลในอดีต และความฝันให้กันและกัน
เทเรซ่า พาล์มเมอร์ ที่รับบทนี้กล่าวว่า “ซาร่า เป็นคนซับซ้อน ชอบเก็บตัว เธอกำลังผ่านช่างชีวิตที่ค่อนข้างลำบาก เธอโตมาในโลกของศิลปะแต่เธอฝันอยากจะเป็นนักเต้นมาตลอด เธอรู้สึกเหมือนว่าเธอไม่ได้ใช้ชีวิตแบบที่เธอวาดฝันไว้ซึ่งนั่นเป็นบ่อเกิดแห่งอารมณ์ที่ซับซ้อน เมื่อเธอได้พบกับ ดีแลน มันเหมือนว่าเขาคือชิ้นส่วนที่หายไปในตัวเธอ คุณอาจจะพบคนที่เข้ากันกับคุณขนาดนี้ได้แค่ครั้งเดียวในชีวิต”
ซาร่า ทำให้ชีวิตของ ดีแลน กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งหลังจากที่พบกับประสบการณ์ร้ายๆ ที่ทำให้เขาต้องถูกพักงาน ไม่นานความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นจากอุบัติเหตุของเขาเริ่มที่จะหลอกหลอนพวกเขาด้วยพลังบางอย่าง มันเหมือนกับว่าวิญญาณของพวกเขาเคยพบกันมาก่อน
มิเคียล ฮิวส์แมน กล่าวถึงการเล่นเป็นคู่รักบนจอ “เมื่อ เทเรซ่า กับผมลองวิเคราะห์ดูมันพบว่ามันมีซีนที่จะปูความสัมพันธ์ที่พิเศษระหว่าง ดีแลน และ ซาร่า อยู่แค่ห้าหกฉากเท่านั้น หลังจากนั้นทุกสิ่งเหมือนเริ่มพินาศ เรารู้สึกว่าภายในห้าหกซีนเรานั้นเราต้องแสดงความรัก ความผูกพัน ความหลงใหลของทั้งคู่ออกมา และเรารู้ว่าวิธีที่ดีสุดคือแสดงสิ่งที่ลึกซึ้งว่าที่หน้ากระดาษเขียนไว้ออกมาซึ่งบ้างครั้งมันเกิดขึ้นเองโดยไม่ต้องพยายามอะไร”
แซม รีด รับบท โจนาส เอ็ดแมน
โจนาส เป็นศิลปินมัลติมีเดียที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงคนหนึ่ง เขาเป็นศิลปินขาประจำที่แกลเลอรี่ที่ ซาร่า ทำงาน เขากำลังเตรียมผลงานชิ้นใหม่ที่ต้องอาศัยเทคโนโลยีสุดล้ำ ซาร่า และ โจนาส เคยเป็นคู่รักกันมาก่อน ที่ถึงแม้จะเลิกรากันไปแล้วแต่ความรู้สึกยังคงค้างอยู่ในหัวใจของทั้งคู่ โจนาส ที่มองเผินๆ ดูเหมือนเป็นเพลย์บอยรู้ดีว่าสำหรับเขาแล้วไม่อาจมีใครแทน ซาร่า ได้
แซม รีด ผู้ที่รับบทตัวละครนี้กล่าว “โจนาส ยังคงอมทุกข์หลังจากเลิกกับ ซาร่า เขาค่อยๆ ถูกกลืนลงไปในคำสาปแห่งห้วงเวลาเช่นเดียวกันกับ ดีแลน ต่างกันตรงที่เขาปล่อยตัวไม่ขัดขืน จนในที่สุดอดีตก็เริ่มหลอกหลอนเขา”
ในการเตรียมตัวเพื่อรับบทนี้ รีด กล่าว “พอล เคอร์รี และผมคิดว่ามันเป็นเรื่องพิ้นฐานมากที่ผมต้องเข้าใจงานศิลปะที่ตัวละครของผมทำขึ้น ผมใช้เวลาไม่น้อยไปกับทีมที่สร้างงานนี้ขึ้นมาเพื่อถ่ายทำโดยเฉพาะ ผมดูพวกเขาทำมันขึ้นมา ผมถามเขาว่าโปรแกรมมันทำงานยังไง ผมเคยเรียนโรงเรียนศิลปะตอนอายุ 19 ดังนั้นผมเลยเข้าใจว่าศิลปินไฟแรงอุดมไอเดียเขารู้สึกอย่างไรซึ่งผมเอาประสบการณ์เหล่านั้นมาปรับใช้ในการแสดงด้วย”
เทเรซ่า พาล์มเมอร์ คิดว่า “เมื่อ ดีแลน เข้ามาในชีวิต ซาร่า เขากลายมาเป็นขวากหนามของ โจนาส แต่ไม่ได้ว่าทั้งสองจะเป็นศัตรูกันอย่างสิ้นเชิง จนกระทั่ง โจนาส เริ่มรู้สึกว่าเขากำลังจะเสียซาร่าไปตลอดกาล ซึ่งมันทำให้เขาเปราะบางอย่างมาก”
การคัดเลือกนักแสดง
การเลือกสามนักแสดงหลักที่จะมาเล่าปริศนาอันซับซ้อนของ 2:22 (ทู ทเวนตี้ ทู) เป็นขั้นตอนที่ต้องใส่ใจมาก สตีฟ ฮูเทนสกี้ โปรดิวเซอร์ คิดว่าหนังเรื่องนี้ได้สามนักแสดงหลักมากคุณภาพที่ร่วมงานกันที่จุดอันเหมาะสมในเส้นทางอาชีพของแต่ละคนพอดี “เราต้องหาคนที่ใช่ในเวลาที่ถูก นักแสดงมากความสามารถที่สามารถทำงานร่วมกันกับคนอื่นได้ ซึ่งผมคิดว่าเราโชคดีมากที่ได้พวกเขามาร่วมงาน”
เทเรซ่า พาล์มเมอร์ นักแสดงสาวชาวออสซี่เข้ามาร่วมโปรเจคต์นี้ตั้งแต่เธอได้อ่านบทครั้งแรกและพบกับ พอล เคอร์รี เมื่อปี 2011 พาล์มเมอร์ กล่าว “ฉันอึ้งไปเลยเมื่อรู้ถึงโครงเรื่องสุดล้ำ มันเป็นอะไรที่น่าติดตามมาก ฉันพบกับ พอล และเขาเอาตัวอย่างที่เขาตัดให้ฉันดู ฉันรู้ตั้งแต่ตอนนั้นเลยว่าฉันอยากได้งานนี้” การออดิชั่นของ พาล์มเมอร์ เตะตา เคอร์รี ตั้งแต่แรกเห็นแม้จะเป็นวิดีโอจากมือถือถ่ายในห้องของเธอเองก็ตาม เคอร์รี พบว่าทุกอย่างมันตรงใจเขาไปเสียหมด
พอล เคอร์รี กล่าว “เทเรซ่า เป็นนักแสดงหญิงที่ทั้งสวยและสง่า เธอเล่นบทได้หลากหลายและพร้อมรับทุกสถานการณ์ สิ่งที่ผมชอบเกี่ยวกับ เทเรซ่า คือเธอไม่เคยกลัวที่ต้องลองอะไรใหม่ๆ การแสดงเธอลื่นไหลได้ตลอดเวลา”
มิเคียล ฮิวส์แมน พูดถึง พาล์มเมอร์ ว่า “ผมชอบทำงานกับ เทเรซ่า ฉันพอใจกับงานของเราและผมก็ภูมิใจมากที่เราทั้งคู่ค้นพบหัวใจหลักของ ดีแลน และ ซาร่า และทำให้มันมีชีวิตบนจอได้”
มิเคียล ฮิวส์แมน ตัวละครที่หานักแสดงมาเล่นได้ยากที่สุดสำหรับ พอล เคอร์รี แล้วคือ บท ดีแลน แม้ว่าจะมีนักแสดงชื่อดังหลายคนมาให้พิจารณาแต่สิ่งแรกคือเขาคนนั้นต้องเป็นนักแสดงที่สามารถรับบทซับซ้อนได้
พอล เคอร์รี กล่าว “สตีฟ และ บรูน่า (พาพานเดรีย, ภรรยาของฮูเทนสกี้ซึ่งเป็นโปรดิวเซอร์แถวหน้าของ(ฮอลลีวู้ด) เพิ่งเสร็จจากหนังเรื่อง WILD ที่ มิเคียล ร่วมแสดง และ บรูน่า ชมเขาไม่หยุดปาก เธอบอกผมว่า “พอล หนุ่มคนนี้เล่นดีมาก ตัวจริงคนหนึ่งของวงการเลย เขาน่ารักเข้ากับทีมงานได้สบาย’”
ฮิวส์แมน ได้บทกลับไปอ่านก่อนที่ เคอร์รี จะติดต่อไปทางสไกป์ซึ่งต่อมา เคอร์รี เผยว่า “เขาอินกับบทมาก”
ฮิวส์แมน จำได้ว่า “ผมโชคดีที่ได้บทเรื่องนี้มาอยู่ในมือ ผมรู้สึกว่าการทำงานร่วมกับ พอล เป็นอะไรที่สนุกมาก เป็นโอกาสที่ให้ผมได้ใส่ความคิดตัวเองลงไปในงานและผมตื่นเต้นมากที่ได้โอกาสนั้น ขอบคุณพระเจ้า ขอบคุณพอลด้วยเช่นกัน และ เพื่อให้คนดูสัมผัสประสบการณ์แบบที่ทีมงานตั้งใจจะนำเสนอ ผมต้องทำให้แน่ใจว่าตัวเองเข้าใจพล็อตเรื่องทุกซอกทุกมุม รู้ประวัติตัวละคร ดีแลน อย่างละเอียด เพราะถ้ามีวันไหนระหว่างถ่ายทำที่เรารู้สึกตันไปต่อไม่ถูก เรากลับมาหวนคิดถึงสิ่งที่เราเคยคุยกันในสไกป์ซึ่งอาจจะมีอะไรที่ทำให้เราเดินหน้าต่อได้”
ฮิวส์แมน รู้สึกว่า “ผมไม่เคยมีอิสระที่จะได้พูดกับผู้กำกับว่า ‘เราคุยเรื่องนี้ซีนนี้มาหลายรอบแล้ว แต่พอเล่นจริงแล้วมันไม่ใช่ ลองแบบนี้ได้ไหม คุณเห็นด้วยหรือเปล่า และส่วนใหญ่ พอล จะตอบว่า ผมว่าคุณพูดถูก เอาเลยทำงานกับเขาสนุกมาก”
แซม รีด นักแสดงชาวออสซี่ที่มาโด่งดังในอังกฤษ แซม รีด ได้อ่านบท 2:22 (ทู ทเวนตี้ ทู) ก่อนการถ่ายทำเริ่มขึ้นเกือบปี เขาติดโปรเจคต์อื่นที่วันถ่ายทำชนกัน แต่ระหว่างการพัฒนาโปรเจคต์และได้พูดคุยกับ พอล เคอร์รี
รีด ยังจำได้ว่า “พอล กับผมคลิกกัน เราตะโกนใส่กันสองชั่วโมงหลังจากคุยเสร็จผมคิดว่า พระเจ้า ฉันต้องเล่นหนังเรื่องนี้ ตอนที่ผมเดินออกมา บาร์บาร่า กิ๊บส์ ไลน์โปรดิวเซอร์ จู่ๆ ก็โทรมานัดวันฟิตติ้ง ตอนผมวัดตัวลองเสื้อผ้าผมยังไม่รู้เลยว่าคิวจะลงตัวหรือเปล่า แต่กลายเป็นว่าทุกอย่างกลับลงล็อค”
ในช่วงสัปดาห์ก่อนที่การถ่ายทำจะเริ่ม รีด ทำงานอยู่ทิ่นิวออร์ลีน เขาสไกป์ซ้อมบทกับ เทเรซ่า พาล์เมอร์ ผู้ที่เขาต้องเข้าฉากด้วยเกือบตลอด รีด กล่าว “โจนาส เป็นบทที่ซับซ้อนเพราะเหมือนเป็นคนสองบุคลิก การรับบทนี้มันทั้งน่าตื่นเต้นและท้าทาย”
พอล เคอร์รี ผู้กำกับกล่าวว่า “แซม เป็นนักแสดงที่ฉลาด เขาสามารถมอบมิติให้ตัวละครได้ และในบางมุมบท โจนาส นั้นเป็นตัวละครที่เล่นยากที่สุดในเรื่องเพราะเขามีความรู้สึกให้ ซาร่า และต้องเก็บเอาไว้เข้าใน ฟังดูเก็บกดพอสมควร”
งานภาพสุดตระการตาของ 2:22 (ทู ทเวนตี้ ทู) เวลาเฉียดตาย
จักรวาลใน 2:22 (ทู ทเวนตี้ ทู) ไม่เหมือนเรื่องไหนที่คุณเคยเห็นมาก่อน เหตุการณ์ที่เกิดรอบตัว ดีแลน เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนกลายเป็นวงจรที่สามารถคาดการณ์ได้ ทีมงานได้เพิ่มความเข้มข้นด้วยดนตรี เสียงประกอบ และเทคนิคพิเศษด้านภาพ เคอร์รี กล่าว “เราเปิดหนังช่วงแรกให้จังหวะไม่ค่อยปะติปะติดจากนั้นมันจะเริ่มเป็นจังหวะไปเรื่อยๆ จนทุกอย่างสอดคล้องกันในช่วงท้ายเรื่อง เทคนิดการถ่ายและการออกแบบช็อตถูกใช้เพื่อมอบประสบการณ์ให้คนดูรู้สึกเหมือนเป็นตัว ดีแลน ทั้งด้านความคิดและความรู้สึก”
ความท้าทายครั้งยิ่งใหญ่: การจำลองสถานีแกรนด์เซ็นทรัลขึ้นมาใหม่
โลเคชั่นสำคัญของเรื่องทั้งด้านภาพและเนื้อเรื่องคือสถานีแกรนด์เซ็นทรัลแห่งมหานครนิวยอร์ก ตัวสถานีสำคัญพอกับตัวละครในเรื่อง มันเต็มไปด้วยความงามแฝงด้วยความอันตราย เป็นสถานีอันทรงเสน่ห์ แต่มันเป็นงานช้างของทีมงานที่ต้องจำลองสถานีนี้ขึ้น
พอล เคอร์รี กล่าว “สถานีรถไฟที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกแน่นอนย่อมคือสถานีรถไฟแกรนด์เซ็นทรัล มันเป็นหนึ่งในไม่กี่สถานีในโลกที่ผู้คนไม่รีบก้มหน้าเดินแต่หยุดดื่มด่ำไปกับความงาม หน้าต่างของสถานีไม่เหมือนกันเลยซักบานมันงดงามมาก เหมือนกับโบสถ์เลยล่ะ ความท้าทายของเราคือจะจำลองสถานีแกรนด์เซ็นทรัลให้เหมือนจริงได้ไหม?”
ทีมสร้างต้องศึกษาแปลนของสถานีโดยละเอียดถึงระดับมิลลิเมตรเพื่อใส่ข้อมูลลงไปในโปรแกรมปั้นโมเดลแบบดิจิตอล ที่ พอล เคอร์รี และทีมงานใช้ออกแบบภาพของฉากนี้ เคอร์รี กล่าวว่า “ทุกอย่างในฉากแกรนด์เซ็นทรัลมันตรงกับของจริงมาก โทนสีโดยรวม ทิศทางแสง วัสดุ พิ้นผิว ไปจนถึงรายละเอียดที่เล็กที่สุดของการออกแบบ”
มิเชลล์ แม็คกาเฮย์ นักออกแบบงานสร้างของเรื่องกล่าว “เดวิด เอ็กบี้ ผู้กำกับภาพของเราจัดแสงได้งดงาม ปลุกบรรยากาศแบบฟิลม์นัวร์อย่างที่ พอล ต้องการทำในหนังเรื่องนี้”
ทีมออกแบบศิลป์และทีมกล้องร่วมกันหาภาพอ้างอิงเพื่อใช้ในการสร้างคอนเซปต์อาร์ตในเรื่อง เดวิด เอ็กบี้ กล่าว “ทุกคอนเซปต์อาร์ตที่ผมเห็นมันมีลวดลายสวยงามอย่างกับวิหารน็อทร์-ดาม มันมีแสงสองผ่านหน้าต่างที่สูงจากพื้นหกสิบ มันอาจจะมีแสงข้างในสถานีจะโคมระย้าซึ่งเป็นแสงสังเคราะห์ พอล อยากให้งานภาพของเรามีสไตล์โดดเด่นเล่นแสงและเงา”
สตีฟ ฮูเทนสกี้ โปรดิวเซอร์ เอ่ยปากชมงานของ มิเชลล์ แม็คกาเฮย์ “มิเชลล์ และทีมงานของเธอสุดยอดมาก ผมเดินผ่านสถานีแกรนด์เซ็นทรัลเกือบตลอดเวลายี่สิบปีและตอนที่ผมเดินผ่านฉากที่เราสร้างขึ้นมันรู้สึกเหมือนคุณกลับไปยังสถานีนั้นเลย ผมว่าฉากนี้ทำให้หนังเราดูมีคุณค่าขึ้นเยอะ”
เมื่อ ชะตาชีวิต และ ความรัก ของพวกเขาล้วนถูกกำหนดไว้ร่วมลุ้นไปกับ ดีแลนและซาร่า
ในภาพยนตร์ทริลเลอร์โรแมนติกไอเดียใหม่ อย่าง 2:22 (ทู ทเวนตี้ทู) เวลาเฉียดตาย พร้อมกัน 29 มิถุนายนนี้ทุกโรงภาพยนตร์
2:22 - Official Trailer (ตัวอย่าง ซับไทย) :
ข่าวประชาสัมพันธ์