เข้าโรงภาพยนตร์บ้านเรากันเรียบร้อยแล้วนะครับสำหรับภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่เรื่องที่ 4 จากจักรวาลภาพยนตร์ DC Universe ที่ดูเหมือนว่าในที่สุดก็มีหนังที่ "ปัง" อย่างจริงจังในแง่คำวิจารณ์เสียที ซึ่งก็ไม่ใช่ใครที่ไหน Wonder Woman ของสาว Gal Gadot นั่นเอง รายนี้เรียกว่าเกิดตั้งแต่โผล่ไปช่วย Batman v Superman (ในหลายๆ ความหมาย) แล้ว พอมาถึงครามหนังเดี่ยวของตัวเองก็ยังทำได้ดีอีก ก็เลยกลายเป็นเดอะแบกของ DC อย่างจริงจังไปโดยปริยายครับ แต่ในอนาคตก็ไม่แน่ว่าอาจมีหนังที่ดีกว่าก็ได้ เพียงแต่ในยามนี้ทุกๆ เสียงต่างก็ยืนยันในทีว่า Wonder Woman คือหนังของ DC ที่ดีที่สุด นับตั้งแต่ไตรภาค The Dark Knight เป็นต้นมาเลยทีเดียว
ดังนั้นเราจึงมารวบรวมเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยแนวๆ "รู้ไปก็เท่านั้น" มาให้คุณๆ ผู้อ่านทุกท่านก่อนไปดูภาพยนตร์กันจริงๆ อาจจะหนักหัวบ้าง เบาสมองบ้าง แต่ก็น่าจะทำให้สามารถรับชมภาพยนตร์ได้เต็มอรรถรสมากยิ่งขึ้นนะครับ เอาล่ะ เริ่มเลยดีกว่า!
ในส่วนของเนื้อเรื่องนั้น... (ส่วนนี้มีสปอยล์นิดๆ ใครไม่อยากรู้ข้ามไปก่อนได้เลยครับ)
- ตัวหนังเริ่มขึ้นในช่วงยุคปัจจุบัน แต่ก็เพียงครู่เดียวเท่านั้น เพราะสาว Diana Prince หรือ Wonder Woman จะเล่าย้อนสู่อดีตของตัวเองในยุคเก่าก่อน
- ตัวหนังจะให้ผู้ชมเห็นภาพการเติบโตตั้งแต่วัยเด็กของ Diana ณ เกาะลึกลับ Themiscyra
- ในช่วงย้อนอดีตผู้ชมจะได้รับรู้ถึงการถือกำเนิดของชนเผ่า Amazon ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขากับ Zeus และ Ares รวมถึงเหตุผลว่าทำไมพวกเขาถึงยังตัดสินใจซ่อนตัวจากมวลมนุษยชาติ
- ราชินี Hippolyta แม่ของ Diana นั้น แรกเริ่มเดิมทีก็ไม่ได้อยากให้ชีโตขึ้นไปกลายเป็นนักรบ ทว่าด้วยความห้าวเป้ง Diana แอบฝึกฝนตัวเองกับนายพล Antiope ป้าของเธออย่างลับๆ กระทั่งท้ายที่สุด Hippolyta ก็จำใจยอมรับในสิ่งที่ลูกต้องการจะ
เป็น
- เมื่อสายลับอเมริกัน Steve Trevor เครื่องบินตกแถวๆ เกาะ Themiscyra Diana ก็จะลงไปช่วยเขาอย่างที่เราเห็นกันในเทรลเลอร์นั่นแหละ แต่นั่นจะนำมาซึ่งการต่อสู้ซีนแรกของเรื่อง ระหว่างทหารเยอรมันที่ตามมายังเกาะ กับเหล่านักรบหญิงแกร่งแห่ง Amazons
- ภายหลังการต่อสู้จบลง Trevor ได้บอกเล่าถึงมหาสงครามซึ่งกำลังจะเข้าสู่ช่วงสงบศึก ทว่าเขาดันไปรับรู้แผนการลับที่จะทำลายการสงบศึกที่ว่าพลางพาโลกเข้าสู่สงครามอีกครั้ง และเมื่อเขากำลังจะกลับไปยังลอนดอน Diana ตัดสินใจเดินทางไปกับเขาด้วยเนื่องจากเธอมีความเชื่อว่า Ares คือตัวการผู้อยู่เบื้องหลังสงครามโลกครั้งที่ 1
- แน่นอนว่าก่อนออกจากเกาะ Themiscyra Diana ก็ได้แฮบเอาชุดเกราะ, ปลอกแขน, โล่ห์ และดาบติดตัวไปด้วย
- เมื่อเข้าสู่ลอนดอน ตัวเนื้อเรื่องจะโฟกัสไปที่ความเปิ่นของ Diana ที่เพิ่งเคยเห็นโลกภายนอกเป็นครั้งแรก เธอจะมีความไร้เดียงสา, โลกสวย และตื่นตาตื่นใจกับ "โลกในยุคปัจจุบัน" เป็นอย่างมาก
- ตัวร้ายหลักของเรื่องคือนายพลจอมเถื่อนชาวเยอรมัน Ludendorff และ Dr. Maru นักวิทยาศาตร์ผู้คิดค้นยาพิษขึ้นมาหลายตัว
- โดยรวมแล้วผู้ชมสามารถมองได้ว่าตัวหนังนั้นคือผลลัพธ์ของส่วนผสมระหว่าง Thor และ Captain America: The First Avenger เพราะหลายๆ ส่วนมีความตล้ายคลึง
ในส่วนของตัวภาพยนตร์
- ถ่ายทำด้วยกล้อง 35 มม. หาใช่ IMAX
- คอมตูมแม้จะมองจากไกลๆ ก็ยังดูดี
- มีส่วนที่ถ่ายทำกับ Green Screen อยู่มาก
- ผู้กำกับ Jenkins ตะโกนว่า "Bang! Block!" ขณะที่สาว Gal แสดงท่าทางปัดป้องกระสุนที่ไม่มีอยู่จริง
ในส่วนของนักแสดงนำ Gal Gadot
- เธอบอกว่าสิ่งที่ยอดเยี่ยมที่สุดในการแสดง Wonder Woman คือมันเป็นบทบาทของตัวละครที่เธออยากเล่นมาตลาดนับตั้งแต่ก้าวเข้าสู่วงการครั้งแรกเมื่อ 8 ปีก่อน คือเป็นหญิงแกร่งและรักความเป็นอิสระ
- เธอรักในทุกอย่างที่ Diana เป็น "เธอมีหัวใจที่เป็นมนุษย์ แต่ก็มีพลังแห่งเทพเจ้า และเปี่ยมด้วยสติปัญญาลํ้าเลิศ" Gal กล่าว
- ตัวละคร Wonder Woman และ Steve Trevor นั้นก่อเกิดความสมดุลย์ซึ่งกันและกัน Steve เข้าใจในด้านมืดของมนุษย์ ส่วน Diana ยึดมั่นกับโลกในอุดมคติ ดั้งนั้นทั้งคู่จึงให้ความช่วยเหลือกันอยู่ตลอด เขาช่วยให้เธอเห็นโลกในความเป็นจริง ขณะที่เธอนำความหวังที่ขางไปกลับมาสู่ใจเขา
- ขณะที่ Wonder Woman ที่เราเห็นจาก Batman v Superman นั้นจะดูมีความเป็นผู้ใหญ่สูง แต่กับเวอร์ชั่นนี้ตัวเธอจะยังเต็มไปด้วยความเดียงสาและโลกสวยอยู่หน่อยๆ
- ตัวของ Wonder Woman ไม่เข้าใจในความแตกต่างของบทบาทระหว่างชายกับหญิงในยุคสมัยนั้น
- เธอรู้สึกดีอย่างมากที่หนังเรื่องนี้ถูกสร้างขึ้น เพราะทำให้ลูกเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ เช่นลูกสาวของเธอได้มีตัวตนที่เปรียบประหนึ่งไอคอนในใจ เฉกเช่นเดียวกับที่เด็กผู้ชายมี Superman หรือ Batman นั่นเอง
- ก่อนจะทำการแคสบท Wonder Woman ครั้งแรก เธอได้ย้อนกลับไปดู Wonder Woman ช่วงปี 70 ซี่ง Lynda Carter ได้ฝากฝังการแสดงเอาไว้
- Gal บัญญัติศัพท์ที่ใช้เรียกรูปแบบการต่อสู้ของ Wonder Woman ไว้ว่า "WonderFu"
ในส่วนของคอสตูม
- ชุดเกราะของ Wonder Woman มีส่วนที่แตกต่างไปจากเวอร์ชั่นที่ปรากฎใน Batman v Superman เล็กน้อย
- ชุดเกราะของชาว Amazon ได้รับแรงบันดาลใจจากวัฒนธรรมชาวกรีกโบราณ
- คอสตูมของ Wonder Woman มีประมาณ 8 เวอร์ชั่น และต้องทำเผื่อไว้ราวๆ 20-30 ชุดเพื่อเหล่าสตั๊นและสแตนด์อิน
ในส่วนของผู้กำกับ Patty Jenkins
- เป็นผู้หญิงคนแรกที่กำกับหนังซูเปอร์ฮีโร่
- เธอไม่อยากให้มอง Wonder Woman ว่าเป็นหนังของผู้หญิง แต่ต้องการให้มองว่ามันเป็นเหมือนหนังซูเปอร์ฮี่โร่อื่นๆ ที่มีผู้ชายเป็นตัวเอก
- ในวัยเด็ก ภาพยนตร์ Superman ของ Richard Donner มีอิทธิพลกับเธอมากกว่า Star Wars
- การไม่ได้ร่วมแคสต์นักแสดงบท Wonder Woman ทำให้เธอวิตกนิดหน่อย แต่ทันทีที่เธอได้พบกับ Gal ความกลัวทุกอย่างของเธอก็มลายหายไป
- เธอไม่เคยดู Batman v Superman จนกระทั่งการถ่ายทำ Womder Woman เสร็จสิ้นไปแล้วกว่าครึ่ง
จริงๆ แล้วยังมีอีกหลายข้อในบทความต้นทางที่ไม่ได้แปลมาครับ ใครสนใจก็ตามเข้าไปอ่านได้ครับ สุดท้ายก็หวังว่าบทความนี้จำให้เพื่อนๆ ไปดุหนังได้สนุกขึ้นเด้อ! ส่วนภาพยนตร์ Wonder Woman ก็เข้าฉายแล้ววันนี้ทั่วประเทศจ้า!
Credit: Collider