Apple เปิดตัวไอโฟน 11 / 11 Pro / 11 Pro Max วางขาย 20 กันยายนนี้

เมื่อคืนนี้ (10 กันยายน) ทาง Apple ได้จัดงานแถลงเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ จำนวน 3 รุ่น ได้แก่ ไอโฟน 11, ไอโฟน 11 Pro และ ไอโฟน 11 Pro Max โดยมีรายละเอียดของแต่ละรุ่นดังนี้ครับ

iPhone 11

จอแสดงผลแบบ LCD Liquid Ratina ขนาด 6.1 นิ้ว
กล้องหลังคู่มีความละเอียด 12 ล้านพิกเซล เป็นแบบ Ultra Wide และ Wide โดยสามารถถ่ายคลิปวิดีโอด้วยความละเอียดระดับ 4K และเฟรมเรต 60 FPS พ่วงด้วยโหมดถ่ายวิดีโอแบบ Cinematic รวมถึงโหมด Slo-mo ด้วย
กล้องหน้ามีความละเอียด 12 ล้านพิกเซล (TrueDepth 12) ซึ่งสามารถถ่ายวิดีโอแบบ Slo-mo ได้เหมือนกล้องหลัง
มีระบบ QuickTake ที่ผู้ใช้สามารถสลับไปมาระหว่างโหมดถ่ายวิดีโอและถ่ายภาพนิ่งได้แบบฉับไว
ใช้ชิพประมวลผล A13 Bionic ที่ทาง Apple เคลมว่าเป็น CPU ที่ทรงประสิทธิภาพที่สุด ณ ปัจจุบัน
มีสีให้เลือก 6 สี ได้แก่ ขาว, ดำ, แดง, เหลือง, เขียว และ ม่วง
แบตเตอรี่ความจุ 3110 mAh (อึดกว่า iPhone XR ประมาณ 1 ชั่วโมง) นอกจากนี้ยังรองรับระบบ Fast Charge และชาร์จแบบไร้สายด้วย ซึ่ง Fast Charge จะมีความเร็วในการชาร์จสูงสุด 50% ภายใน 30 นาที
ราคาเปิดตัว 699 เหรียญสหรัฐฯ ส่วนราคาไทยเริ่มต้นที่ 24,900 บาท
มีให้เลือกทั้งแบบรุ่น HDD 64 GB, 128 GB และ 256 GB
เริ่มวางจำหน่าย 20 กันยายนปีนี้
ตัวเครื่องถูกออกแบบมาให้สามารถกันน้ำและกันฝุ่นได้ (ระดับ IP68)
ระบบปฏิบัติการ iOS 13

(ล่าง) คลิปเปิดตัว iPhone 11

iPhone 11 Pro / iPhone 11 Pro Max

จอแสดงผลแบบ OLED Super Ratina XDR ขนาด 5.8 นิ้ว (11 Pro) และขนาด 6.5 นิ้ว (11 Pro Max) รองรับระบบภาพ HDR
กล้องหลัง 3 ตัวแบบ Ultra Wide, Wide และ Telephoto ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล
กล้องหน้าความละเอียด 12 ล้านพิกเซล และรูรับแสงขนาด ƒ/2.2
iPhone 11 Pro ราคาเปิดตัวอยู่ที่ 999 เหรียญสหรัฐฯ ส่วนราคาไทยเริ่มต้นที่ 35,900 บาท
iPhone 11 Pro Max ราคาเปิดตัวอยู่ที่ 1,099 เหรียญสหรัฐฯ ส่วนราคาไทยเริ่มต้นที่ 39,900 บาท
มีสีให้เลือก 4 สี ทั้งรุ่น 11 Pro และ 11 Pro Max ได้แก่ สีทอง, สีเทาสเปซเกรย์, สีเงิน และ สีเขียวมิดไนท์กรีน
มีให้เลือกทั้งแบบรุ่น HDD 64 GB, 256 GB และ 512 GB
แบตเตอรี่ของ iPhone 11 Pro มีความจุ 3190 mAh หรืออึดกว่า iPhone XS ประมาณ 4 ชั่วโมง รองรับระบบ Fast Charge และชาร์จไร้สาย
แบตเตอรี่ของ iPhone 11 Pro Max มีความจุ 3500 mAh หรืออึดกว่า iPhone XS ประมาณ 5 ชั่วโมง รองรับระบบ Fast Charge และชาร์จไร้สาย
ทั้ง iPhone 11 Pro และ iPhone 11 Pro Max จะแถมอะแดปเตอร์ Fast Charge ขนาด 18 วัตต์มาให้ด้วย
ตัวเครื่องถูกออกแบบมาให้สามารถกันน้ำและกันฝุ่นได้ (ระดับ IP68)
ระบบปฏิบัติการ iOS 13
เริ่มวางจำหน่าย 20 กันยายนปีนี้