ดูเหมือนว่าบริษัท CTW ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มเกม G123 จะเจองานเข้าเสียแล้ว หลังจากถูกหน่วยงานกำกับดูแลโฆษณาของสหราชอาณาจักร (ASA) ตรวจสอบโฆษณาเกม High School D×D Operation Paradise Infinity บน YouTube เนื่องจากมีผู้ร้องเรียนเข้ามาว่าโฆษณาดังกล่าวมีการนำเสนอตัวละครที่ดูเหมือนอายุต่ำกว่า 18 ปีในลักษณะที่ส่อไปในทางเพศ ซึ่งดูไม่มีความรับผิดชอบและน่าเกลียด

หลังจากที่ทาง ASA เริ่มดำเนินการสอบสวน ทาง CTW ก็ได้ถอดโฆษณาดังกล่าวออกไป พร้อมยอมรับว่าโฆษณาเหล่านั้นไม่สอดคล้องกับ "มาตรฐานโฆษณาและความคาดหวังของสังคม" ในสหราชอาณาจักร และให้คำมั่นว่าจะเสริมสร้างกระบวนการตรวจสอบและอนุมัติให้รัดกุมยิ่งขึ้นในอนาคต อย่างไรก็ตาม CTW ก็ได้ชี้แจงว่าเดิมทีพวกเขาตั้งใจจะนำเสนอโฆษณาให้มีโทนล้อเลียนและขี้เล่นเหมือนกับในอนิเมะต้นฉบับ โดยใช้คำตลก ๆ ที่แปลมาอย่าง “boobtastic” (มหึมา) หรือธีมฮาเร็มเพื่อสะท้อน "โทนคอเมดี้" ของตัวอนิเมะ ไม่ได้มีเจตนาจะ sexualize เนื้อหาแต่อย่างใด แต่ก็ยอมรับว่าการนำเสนอแบบนี้อาจไม่เป็นที่ยอมรับในวัฒนธรรมของสหราชอาณาจักร
สำหรับโฆษณาที่เป็นประเด็นนั้นมี 3 ชิ้น โดยมีรายละเอียดคือ ชิ้นแรกมีภาพสาวอนิเมะสองคนมองข้ามไหล่ที่เปลือยเปล่าพร้อมข้อความเชิญชวนเข้าสู่ "ฮาเร็มของสุภาพบุรุษ" ชิ้นที่สองมีสาวอนิเมะสามคนพร้อมข้อความว่า "boobtastic game" และ "Get your hands full!" (เล่นให้เต็มไม้เต็มมือ!) และชิ้นที่สามเป็นภาพสาวอนิเมะที่เห็นหน้าอกส่วนหนึ่ง บั้นท้าย และกางเกงในแบบจีสตริง


ทาง ASA ได้สรุปว่าโฆษณาดังกล่าวมีการนำเสนอตัวละครที่อายุต่ำกว่า 18 ปี โดยอ้างอิงจากคำว่า "high school" ในลักษณะทางเพศอย่างชัดเจนผ่านคำพูดและภาพที่ล่อแหลม ชี้ว่าโฆษณาเหล่านี้แสดงภาพตัวละครเป็น "วัตถุทางเพศ" (stereotypical sex objects) สร้าง "ความรู้สึกน่าเกลียด" (offensive) และ "มีภาพเหมารวมทางเพศที่เป็นอันตราย" (harmful gender stereotype) ดังนั้น ASA จึงตัดสินว่า CTW ได้ละเมิดกฎ CAP Code ของสหราชอาณาจักรในหลายข้อหา
ท้ายที่สุด CTW จึงถูกตักเตือนให้ระมัดระวังและรับรองว่าโฆษณาในอนาคตจะต้องมีความรับผิดชอบต่อสังคม ไม่ก่อให้เกิดความรู้สึกน่าเกลียดในวงกว้าง ไม่นำเสนอภาพเหมารวมทางเพศที่เป็นอันตรายโดยทำให้ผู้หญิงกลายเป็นวัตถุทางเพศ และที่สำคัญคือต้องไม่นำเสนอตัวละครที่อายุต่ำกว่า 18 ปีในลักษณะทางเพศอีก ประเด็นนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ CTW เพิ่งเข้าตลาดหุ้น Nasdaq และระดมทุนได้ 12 ล้านดอลลาร์เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา โดยมีเป้าหมายหลักคือการขยายตลาดไปทั่วโลกเพื่อช่วยให้นักพัฒนาเกมสามารถสร้างรายได้จาก IP อนิเมะญี่ปุ่น

งานนี้จึงกลายเป็นบทเรียนสำคัญสำหรับบริษัทในการปรับตัวให้เข้ากับมาตรฐานของทางประเทศตะวันตกไป เนื่องจากปัจจุบันมีความเข้มงวดมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะกับประเด็นที่ล่อแหลม
แปลและเรียบเรียงจาก
Anime Corner
ติดตามข่าวเกมมือถืออื่นๆ ได้ที่ Online Station