[รีวิว] Honkai: Star Rail 3.4 อีกหนึ่งการอัปเดตที่ใครหลายคนรอคอย มาร่วมสัมผัสเรื่องราวความลับของยุคนิรมิตใหม่ และต้อนรับการมาของ Phainon

แชร์เรื่องนี้:
[รีวิว] Honkai: Star Rail 3.4 อีกหนึ่งการอัปเดตที่ใครหลายคนรอคอย มาร่วมสัมผัสเรื่องราวความลับของยุคนิรมิตใหม่ และต้อนรับการมาของ Phainon

นับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเวอร์ชันที่ใครหลายคนต่างก็เฝ้ารอเลยทีเดียว! สำหรับ Honkai: Star Rail เวอร์ชัน 3.4 "เพราะตะวันจักพินาศ" การอัปเดตใหม่ล่าสุดของ Honkai: Star Rail เกมแนว Turn-Based RPG แนว Sci-Fi จาก HoYoverse ที่ไม่เพียงในเวอร์ชันนี้นั้นจะมาพร้อมด้วยเนื้อเรื่องที่จะให้เราได้ไปค้นพบกับความลับของยุคนิรมิตใหม่ใน Amphoreus แล้วก็ยังมาพร้อมตัวละคร Playable ใหม่อย่าง Phainon และยังมีในส่วนของการบัพและปรับปรุงตัวละครเก่า ๆ อีกด้วย!

และในบทความนี้ทางทีมงาน Online Station ก็อยากจะขอพาเพื่อน ๆ ไปชมและพูดถึงการอัปเดตในครั้งนี้กัน ว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง!  ว่าแล้วก็ไปดูกันเลย!

!!!!ก่อนอ่าน!!!!

  • เนื้อหาและรูปภาพภายในบทความนั้นมาจากเซิร์ฟเวอร์ประชาสัมพันธ์ เนื้อหาและภาพอาจแตกต่างจากเนื้อหาในเวอร์ชันสุดท้ายนะครับผม
  • รีวิวนี้ไม่มีการสปอยล์เนื้อเรื่องมากไปกว่าข้อมูลเนื้อเรื่องที่ทางออฟฟิศเชียลปล่อยพรีวิวบนบัญชีโซเชียลหรือช่องทางทางการ
  • ภาพประกอบบทความนี้จะไม่มีการสปอยล์เนื้อเรื่องมากไปกว่าข้อมูลที่ทางออฟฟิศเชียลปล่อยพรีวิวบนบัญชีโซเชียลหรือช่องทางทางการเช่นกัน
  • เนื้อหาจากเซิร์ฟเวอร์ประชาสัมพันธ์ที่ผู้เขียนได้ร่วมทดสอบจะไม่ครอบคลุมไปถึงคอนเทนต์คอลแลป Honkai: Star Rail × Fate/stay night [Unlimited Blade Works] นะครับ ดังนั้นจะขอพูดถึงแค่ในส่วนที่ได้ลองเท่านั้น
  • บทความนี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้น แต่ละคนอาจจะมีความรู้สึกที่แตกต่างกันไปนะครับผม

ก้าวสู่พื้นที่ใหม่และภารกิจบุกเบิกใหม่ ที่นำมาพร้อมเรื่องราวที่ทุกคนรอติดตาม

หลังจากที่ได้ดำเนินเรื่องราวบน Amphoreus มา ตอนนี้เหล่านักบุกเบิกก็ได้เริ่มเข้าใกล้สู่ความลับที่อยู่เบื้องหลังของยุคนิรมิตใหม่แล้ว ทั้งนี้ทางผู้เขียนจะขออนุญาตไม่กล่าวถึงในส่วนของเนื้อเรื่องหรือเรื่องราวในภารกิจบุกเบิก (เนื้อเรื่องหลัก) นะครับ เพื่อหลีกเลี่ยงการสปอยล์เรื่องราวใด ๆ 

นอกจากส่วนของภารกิจเนื้อเรื่องหลักแล้วในไลฟ์สตรีมเวอร์ชัน 3.4 ของทางทีมงานและคลิปตัวอย่างและเนื้อหาพรีวิวต่าง ๆ ที่ได้ถูกปล่อยออกมานั้นเราจะได้เห็นว่าการอัปเดตในครั้งนี้ นอกจากจะมีเนื้อเรื่องใหม่แล้ว ยังมีในส่วนของพื้นที่ใหม่อย่าง "Elysiae" สถานที่ซึ่งเป็นบ้านเกิดของตัวละคร Phainon และยังเป็นสถานที่สำคัญที่เราจะได้ไปเรียนรู้เรื่องราวของเขากันด้วย

หลังจากที่ได้ลองไปวิ่งเล่นและสัมผัสพื้นที่ใหม่แล้ว ส่วนตัวนั้นผู้เขียนค่อนข้างประทับใจมาก โดยพื้นที่ใหม่นั้นไม่ได้กว้างขวางอะไรเหมือนกับพื้นที่อื่นใน Amphoreus แต่ก็เป็นพื้นที่ที่มีความสวยงามมาก ๆ ทั้งแสงสี และเสียงรวมถึงเพลงประกอบที่ตัวเกมสร้างขึ้นและออกแบบให้กับพื้นที่นั้น ก็ได้นำเสนอเสน่ห์และบรรยากาศของพื้นที่ออกมาได้เป็นอย่างดีเลย นับเป็นอีกพื้นที่ที่น่ามาเดินเล่นและดื่มด่ำไปกับบรรยากาศมาก ๆ อีกพื้นที่หนึ่ง


ตัวเลือกการปรับแต่งระหว่างการนำเสนอเรื่องราวที่เพิ่มขึ้น

ตามที่ได้มีการประกาศในไลฟ์สตรีมนั้นเกมเวอร์ชันนี้ก็ได้มีการเพิ่มนำตังเลือกการปรับแต่งในการเสนอและการเล่าเรื่องราวภายในเกมเข้ามา ซึ่งนอกเหนือจากการเพิ่มปุ่ม Skip เข้ามาภายในเกมในเวอร์ชันนี้แล้วนั้น ก็ยังมีส่วนของการปรับแต่ง การตั้งค่าภาษาและเสียงพากย์ในระหว่างดำเนินเรื่องด้วย! โดยก่อนหน้านี้ระหว่างที่เรากำลังดำเนินเนื้อเรื่องนั้นจะสามารถตั้งค่าหรือปรับได้แค่ระดับเสียงเท่านั้น 

ซึ่งส่วนตัวแล้วนั้นสำหรับผู้เขียนรู้สึกว่าการเพิ่มตัวเลือกแบบนี้เข้ามาในระหว่างการดำเนินเนื้อเรื่องนั้นค่อนข้างเป็นส่วนที่ชอบเลยทีเดียว เพราะนอกจากจะช่วยให้ผู้เล่นควบคุมจังหวะการดำเนินเรื่องราวของตัวเองได้มากขึ้น ยังช่วยเพิ่มอรรถรสในการอ่านและติดตามเรื่องราวได้ด้วย เพราะผู้เล่นจะได้มาเพลิดเพลินกับเรื่องราวในภาษาที่แตกต่างกันไป รูปแบบการเล่าเรื่องราวและนำเสนอของตัวเกมแม้จะยังคงเรียบง่ายและไม่ได้หวือหวาแต่การค่อย ๆ เพิ่มสิ่งต่าง ๆ ให้ผู้เล่นได้ปรับแต่งแบบนี้ก็ช่วยให้การดื่มด่ำเรื่องราวมีสีสันมากขึ้น


เหล่าตัวละครเก่าที่ได้รับการบัพ!

นับเป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญในการอัปเดตนี้เลยก็ว่าได้ กับการเสริมความแข็งแกร่งหรือบัพให้กับตัวละครเก่า ๆ โดยสำหรับเวอร์ชันนี้นั้นตัวละครที่จะได้รับการบัพก็มี Silver Wolf , Blade , Kafka และ Jingliu ด้วยกัน 

ในหน้าตัวละครที่ได้รับการเสริมแร่งนั้นก็จะมีปุ่มรูปกล้ามโผล่ขึ้นมา ซึ่งเมื่อเรากดเข้าไปก็จะพบกับหน้าต่างใหม่ที่จะให้เราได้สามารถสลับเปิดปิดการบัพตัวละครได้ (หลังอัปเดตตัวละครทั้ง 4 จะถูกตั้งค่าให้เสริมแกร่งโดยอัตโนมัติ) และก็จะมีการโชว์รายละเอียดโดยย่อว่าตัวละครนั้น ๆ มีการปรับเปลี่ยนอะไรบ้างและเราก็สามารถอ่านคำอธิบายรายละเอียดแบบเต็ม ๆ ได้ในหน้า "รายละเอียดการปรับปรุง" ซึ่งจะมีการบอกเล่าอย่างละเอียดตั้งแต่ส่วนของสกิล / Eidolon ตัวละครก่อนปรับปรุง ไปจนถึงช่วงหลังการปรับปรุง

ทั้งนี้ความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนรู้สึกประทับใจกับทิศทางของทางทีมงานที่ได้มีการหยิบตัวละครเก่า ๆ มาบัพหรือปรับปรุง เพราะอย่างที่เราทราบกันว่าในช่วงหลัง ๆ นั้นคอนเทนต์ End Game หลาย ๆ อย่างค่อนข้างที่จะมีการพึ่งพาเกมเพลย์ของตัวละครใหม่ ๆ  และก็อาจจะมีปัจจัยอื่น ๆ ที่ไม่ว่าจะด้วยเกมเพลย์ที่ไม่ได้หวือหวาเท่า หรือจะด้วยสกิลที่อาจจะไม่ได้โดดเด่นเท่าตัวละครใหม่ ๆ ทำให้ในบางครั้งบทบาทของตัวละครเก่า ๆ บางตัวก็ค่อย ๆ จางหรือน้อยลงไปอย่างน่าเสียดาย  ดังนั้นการที่มีการหยิบตัวละครเก่ามาบัพหรือปรับสกิลและ Eidolon ก็นับเป็นการเพิ่มโอกาสให้ผู้เล่นสามารถใช้งานตัวละครเก่าได้มากขึ้น

อย่างไรก็ดีการปรับเปลี่ยนบางอย่างและบางตัวละครนั้นก็ค่อนข้างส่งผลกับอุปกรณ์สวมใส่(รีลิกส์)เช่นกัน ทำให้สำหรับใครที่เคยบิลด์ตัวละครมาแล้วก่อนหน้านี้ก็อาจจะต้องเสียเวลาบิลด์หรือฟาร์มหาของใหม่ ยกตัวอย่างเช่นอาจารย์ Jingliu ที่จากเดิมสกิลจะสร้างดาเมจตาม ATK แต่หลังจากได้รับการบัพ สกิลของอาจารย์จะเปลี่ยนไปทำดาเมจตาม HP สูงสุดแทน ทำให้เซ็ตที่เคยใส่ให้กับตัวละครอยู่แล้วก็อาจจะต้องมาไล่เปลี่ยนเช่นกัน แต่ส่วนตัวแล้วผู้เขียนมองว่าแม้จะต้องเสียเวลาไปบ้าง แต่ถ้าทำให้ตัวละครเก่า ๆ ที่มีสามารถมาโลดแล่นได้บ้างก็นับว่าคุ้มค่านะครับ (ผู้เขียนชอบอาจารย์ Jingliu มาก และรู้สึกดีใจที่อาจารย์ได้บัพแม้จะต้องเปลี่ยนรีลิกส์ยกเซ็ตก็ตามที /ซับน้ำตาใส่เซ็ต Hunter) 

และอีกส่วนที่ผู้เล่นค่อนข้างชอบเลยคือ เกมทำให้การเปลี่ยนแปลงเข้าใจง่าย เนื่องจากในการเปลี่ยนแปลงยิ่งโดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงที่มีผลกระทบกับเกมเพลย์นั้นมีความจำเป็นต้องใช้เวลาในการทำความเข้าใจ แต่ตัวเกมก็ได้พยายามนำเสนอให้เข้าใจง่ายทั้งจะด้วยการสรุปโดยย่อว่าสิ่งที่เปลี่ยนแปลงหลัก ๆ ของแต่ละตัวละครมีอะไรบ้าง ทั้งในการนำเสนอแบบเปรียบเทียบที่ทำให้เห็นภาพชัดเจนว่าก่อนที่จะปรับและหลังปรับนั้นแตกต่างกันอย่างไร ซึ่งตรงนี้ส่วนตัวแล้วผู้เขียนคิดว่าเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับผู้เล่นอีกรูปแบบนึงเหมือนกัน (แต่อย่างไรเพื่อความเข้าใจที่ชัดเจนก็คิดว่าอ่านรายละเอียดเต็ม ๆ ประกอบด้วยจะดีครับ)

*ทั้งนี้เนื่องจากนี่เป็นการลองเล่นจากเซิร์ฟเวอร์ประชาสัมพันธ์ ดังนั้นเนื้อหาอาจจะมีการปรับปรุงหรือแตกต่างในเซิร์ฟเวอร์จริงเลยขออนุญาตไม่รีวิวเจาะลึกตัวละครนะครับ ป้องกันข้อมูลคลาดเคลื่อนหรือทำให้เกิดความเข้าใจผิดใด ๆ 


Phainon ตัวละครสำคัญที่ใครหลายคนต่างรอคอย

นับเป็นอีกหนึ่งตัวละครที่ใครหลาย ๆ คนต่างก็ตั้งตารอคอยที่จะกดหากันก็ว่าได้ สำหรับ Phainon ตัวละคร DPS กายภาพระดับ 5 ดาว Path ทำลายล้าง ที่นอกจากจะเป็นตัวละครหน้าตู้แล้วก็ยังสำคัญของเรื่องราวในการอัปเดตเวอร์ชันนี้อีกด้วย

ความรู้สึกส่วนตัวหลังจากที่ได้ลองใช้พ่อหนุ่มผู้กอบกู้คนนี้ของผู้เขียนก็คือ... แอนิเมชันต่อสู้นั้นสุดจะอลังการ จัดเต็มทั้งแสงสีเสียงและเอฟเฟกต์ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าตัวละครอื่น ๆ ไม่อลังอะไรนะ (ผู้เขียนยังชอบแอนิเมชันอันติของ Anaxaเลย) แต่อาจจะด้วยระยะเวลากับจำนวนแอนิเมชันที่มีมากกว่าด้วยเลยทำให้แอนิเมชันของ Phainon นั้นค่อนข้างโดดเด่น

ส่วนเกมเพลย์ของตัวละครเองก็นับได้ว่ามีความน่าสนใจ การสะสมหน่วย/พลังงานในการเปิดอันติของ Phainon จะคล้ายกับตัวละครบางตัวเช่น Acheron , Castorice ที่จะมีรูปแบบการเก็บพลังงานเปิดใช้งานอันติด้วยวิธีที่ต่างจากปกติ และหลังจากที่เปิดอันติแล้ว Phainon ก็จะแปล่งร่างและเปิดพื้นที่พิเศษที่มีเฉพาะตัวละคร Phainon กับศัตรู (ไม่เชิง 1v1 เพราะฝั่งศัตรูจะเข้ามาในพื้นที่นี้ทั้งหมดไม่ใช่ตัวใดตัวนึง) พร้อมกับได้รับเทิร์นพิเศษหลายเทิร์นและในขณะที่อยู่ในร่างนี้นั้นก็จะมีสกิลให้เลือกใช้แตกต่างจากร่างปกติด้วย 

ซึ่งจากที่ลองนั้นผู้เขียนรู้สึกเลยว่า Phainon นั้นเป็นตัวละครที่ทำดาเมจได้เยอะและสามารถทำดาเมจใส่ศัตรูได้หลายตัวด้วยการใช้อันติ แถมผนวกกับการต้านทานสถานะและการโจมตีถึงตายในระหว่างเปิดอันติแล้วยิ่งทำให้ตัวละครมีความแข็งแกร่งมาก ๆ นับเป็นอีกหนึ่งตัวละคร DPS ที่น่าจับตามองอีกตัวเลย!

 

*ทั้งนี้เนื่องจากนี่เป็นการลองเล่นจากเซิร์ฟเวอร์ประชาสัมพันธ์ ดังนั้นเนื้อหาอาจจะมีการปรับปรุงหรือแตกต่างในเซิร์ฟเวอร์จริงเลยขออนุญาตไม่รีวิวเจาะลึกตัวละครนะครับ ป้องกันข้อมูลคลาดเคลื่อนหรือทำให้เกิดความเข้าใจผิดใด ๆ 


สรุป

หากไม่นับรวมคอนเทนต์คอลแลปที่ผู้เขียนยังไม่มีโอกาสสัมผัส การอัปเดตเวอร์ชันนี้นั้นก็นับว่าเป็นการอัปเดตที่ค่อนข้างใหญ่อีกเวอร์ชันก็ว่าได้ ซึ่งตัวคอนเทนต์ที่เพิ่มเข้ามานั้นก็มีความน่าสนใจและตัวละครที่เชื่อว่าเป็นที่หลาย ๆ คนรอคอยแล้วก็ยังมีการปรับปรุงบางอย่างภายในเกมทั้งในด้านระบบ เสริมแกร่งตัวละคร มีการเพิ่มสิ่งใหม่ ๆ เข้ามาทั้งไลท์โคน วัสดุและจักรวาลประดับใหม่ อีเวนต์(ที่แม้จะเป็นอีเวนต์เก่าแต่ก็มาพร้อมสีสันที่มากกว่า!) รวมไปถึงชุดใหม่ของตัวละคร Firefly 

ส่วนตัวแล้วผู้เขียนรู้สึกค่อนข้างชอบการอัปเดตในเวอร์ชันนี้เลย ทั้งทิศทางที่ทีมงานเลือกหยิบตัวละครเก่า ๆ มาบัพ การปรับเปลี่ยนการดำเนินเรื่องราวที่เปิดให้ผู้เล่นสามารถควบคุมจังหวะในแบบของตัวเองได้มากขึ้น ในเวอร์ชันนี้มันอาจจะไม่ได้ชัดเจน แต่ก็รู้สึกได้ถึงความพยายามที่จะปรับปรุงตัวเกมตามฟี้ดแบ็คของผู้เล่น  นอกจากนั้นแล้วก็ยังมีคอนเทนต์ใหม่ ๆ ที่น่าตื่นเต้นอย่างคอนเทนต์การคอลแลปส์ที่จะเข้ามาในตัวเกมภายหลังด้วย เป็นการอัปเดตที่อาจจะไม่ได้ใหญ่เบิ้มเหมือนตอนเปิดตัวดาว แต่ก็เข้มข้นและน่าประทับใจหลายส่วนเลยล่ะ

อนึ่งบทความรีวิวนี้ไม่ได้พูดถึงสิ่งใหม่ ๆ ของเวอร์ชัน 3.4 ที่ได้ถูกเพิ่มเข้าในเกมเกมทั้งหมด เนื่องจากพยายามในการไม่ให้ติดเนื้อหาสปอยล์ใด ๆ ซึ่งนอกเหนือจากเนื้อหาภายในบทความนี้แล้ว ก็ยังมีอีกหลายสิ่งภายในเกมที่รอให้ทุกคนได้เข้าไปค้นพบอยู่อีกนะ!


ติดตามข่าวเกมมือถืออื่นๆ ได้ที่ Online Station


ติดตามข่าวสารและอัปเดตต่าง ๆ ของตัวเกม Honkai: Star Rail เพิ่มเติมกันได้ที่ช่องทางด้านล่าง

สำหรับใครที่สนใจ หรือมองหา บทความ ไกด์ ทริค เทคนิค รวมไปถึงข่าวสาร อื่น ๆ ของตัวเกม Honkai: Star Rail ก็สามารถกดเข้าไปดูหน้ารวมบทความทั้งหมดที่ชื่อเกมได้เลย !

Honkai: Star Rail

First Released:
26 เม.ย. 23
Platforms:
iOS Android PS5 PC
Developed by:
Published by:
Genre(s):
RPG
แชร์เรื่องนี้:
Makoto
About the Author

Makoto

นี่มันกาชา หรือถุงเกลือ

เรื่องที่คุณอาจสนใจ