Free Fire ร่วมกับ YouTube เปิดตัวแคมเปญ ‘Spark Your Fire’ ชวนแฟนเกมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประกวดคอนเทนต์ 4 หัวข้อ

Free Fire ร่วมมือกับ YouTube เปิดตัวแคมเปญ Spark Your Fire หรือการประกวดคอนเทนต์ระดับภูมิภาคที่ใหญ่ที่สุดในปัจจุบัน เปิดพื้นที่ให้แฟน ๆ และผู้เล่นจากกลุ่มคอมมูนิตี้ในประเทศอินโดนีเซีย มาเลเซีย ไทย และเวียดนาม ได้ปลดปล่อยความคิดสร้างสรรค์และแบ่งปันเรื่องราว Free Fire ที่เป็นเอกลักษณ์ผ่านคอนเทนต์ในแบบของตัวเอง โดยการประกวดจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท

• การประกวดคลิป Shorts ส่งผลงานได้ตั้งแต่ 15 กันยายน – 13 ตุลาคม 2566
• การประกวด Video on Demand (VOD)
ส่งผลงานได้ตั้งแต่ 2 – 30 ตุลาคม 2566

ส่วนผู้ตัดสินจะเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านต่าง ๆ เช่น เกม แฟชั่น นักแสดงตลก และการท่องเที่ยวนั่นเอง

การประกวดคลิป Shorts มีรางวัลมูลค่ารวมกว่า 614,400 ดอลลาร์สหรัฐ แบ่งเป็น 4 หมวดหมู่หลัก
1.) Fashion (การแต่งตัวที่ดูมีสไตล์ที่สุด)
2.) Fails (Shorts ที่แม้จะพ่ายแพ้แต่สนุกที่สุด)
3.) Fame (การเอาชนะที่น่าประทับใจและน่าทึ่งที่สุด)
4.) Fun (ฉากสถานที่ที่น่าดึงดูดและสวยที่สุด)

นอกจากนี้ ครีเอเตอร์ที่ส่งผลงานเข้าประกวดมากที่สุดและได้รับยอดวิว Shorts สูงสุด จะได้รับรางวัลมูลค่าสูงถึง 12,000 ดอลลาร์สหรัฐ ทั้งยังมีรางวัลปลอบใจรวม 264 รางวัลในแต่ละหมวดหมู่ให้แก่ครีเอเตอร์อีกด้วย
ระยะเวลาการส่งผลงาน: 15 กันยายน – 13 ตุลาคม 2566
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับแคมเปญ Spark Your Fire และลงทะเบียนสมัครได้ที่ Shorts contest website

การประกวด Video on Demand (VOD) แบ่งเป็น 4 หมวดหมู่พร้อมรางวัลมูลค่ารวมกว่า 880,000 ดอลลาร์สหรัฐ ได้แก่
1.) Rusher and Sniper สำหรับผู้เล่นที่มีทักษะทางด้านการโจมตีในระยะใกล้และไกล
2.) Solo สำหรับผู้เล่นที่เล่นในโหมด หมาป่าเดียวดาย
3.) Grenadier สำหรับผู้เล่นที่มีทักษะในการปาระเบิด
4.) Entertainer สำหรับคลิปที่ทำออกมาได้สนุกสนานมากที่สุด

นอกจากนี้ยังมี รางวัล MVP มูลค่าสูงสุด 20,000 ดอลลาร์สหรัฐ ให้แก่ครีเอเตอร์ที่ส่งผลงานเข้าประกวดทั้ง 5 หมวดหมู่ได้ดีที่สุด
ระยะเวลาการส่งผลงาน: 2 – 30 ตุลาคม 2566

สายคอนเทนต์ครีเอเตอร์ห้ามพลาดกิจกรรมปัง ๆ แบบนี้ สามารถติดตามการอัปเดตเกี่ยวกับการประกวด Video on Demand (VOD) จาก Free Fire ได้ที่ Official Channel ของ Free Fire ทั้ง Facebook และ YouTube

สามารถดาวน์โหลดเกม Free Fire ได้สองช่องทางดังนี้ Apple iOS App และ Google Play store


[ข่าวประชาสัมพันธ์]

คำที่เกี่ยวข้อง

สมัครรับข่าว OS

คุณอาจสนใจเรื่องนี้