แม้ว่าบริษัท Nianctic Inc. จะมีชื่อเสียงและประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้นจากเกม Augmented Reality หรือ AR บนมือถืออย่าง Pokémon Go ที่สร้างกระแสจนฮิตไปทั่วบ้านทั่วเมืองตั้งแต่ปีพ.ศ. 2559 แต่ดูเหมือนว่าอนาคตของบริษัทกลับดูไม่สดใสอย่างที่ควรจะเป็น เพราะไม่สามารถนำสูตรสำเร็จดังกล่าวไปปรับใช้กับเกมอื่น ๆ ได้ ส่งผลให้ต้องยกเลิกเกมไปถึง 4 โปรเจกต์และเลิกจ้างพนักงานไปประมาณ 85-90 คน
โดยสำนักข่าว Bloomberg อ้างอิงถึงอีเมลที่คุณ John Hanke ซึ่งเป็น CEO ของ Niantic ส่งให้กับพนักงานในบริษัท ซึ่งกล่าวอย่างน่าเศร้าสลดว่าทางบริษัทกำลังเผชิญกับความยากลำบากทางเศรษฐกิจ และบริษัทได้ทำการลดค่าใช้จ่ายในหลาย ๆ ด้านไปเรียบร้อยแล้ว ทว่าคุณ Hanke กล่าวว่าบริษัทนั้นจำเป็นต้อง "ปรับให้กิจการมีความคล่องตัวมากยิ่งขึ้นไปอีก" (ลดจำนวนลูกจ้างและโปรเจกต์นั่นเอง) เพื่อให้บริษัทนั้นสามารถฝ่าฟันผ่านวิกฤติทางเศรษฐกิจที่อยู่ในภายภาคหน้าไปได้
โปรเจกต์เกมต่าง ๆ ที่ถูกยกเลิกนั้นประกอบด้วยเกม Heavy Metal ซึ่งเป็นเกมในแฟรนไชส์ Transformers ที่ประกาศไปเมื่อปีก่อน เกม Hamlet ซึ่งเป็นโปรเจกต์ร่วมระหว่างทาง Niantic และ Punchdrunk ซึ่งเป็นบริษัททำธุรกิจโรงละครสัญชาติอังกฤษ และเกมอีกสองโปรเจกต์ชื่อว่า Blue Sky และ Snowball
Niantic นั้นเป็นสตูดิโอพัฒนาเกมที่มุ่งเน้นไปทางด้าน AR หรือ Augmented Reality เป็นหลัก และมีโปรเจกต์เกมหลายโปรเจกต์ที่ใช้เทคโนโลยีดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็น Ingress, Pokémon Go หรือ Harry Potter: Wizards Unite แต่หลาย ๆ เกมดูเหมือนจะไม่ค่อยประสบความสำเร็จเท่าที่ควร แม้แต่เกม Wizards Unite ก็ไม่เปรี้ยงปร้างในหมู่แฟน ๆ ชาวพ่อมดแม่มดหลังจากทำเงินไปได้เพียง 40 ล้านเหรียญ ซึ่งนับว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับรุ่นพี่อย่าง Pokémon Go ที่ปีเดียวก็ทำเงินไปมากถึงพันล้านเหรียญ จนต้องปิดตัวไปตอนต้นปีนี้
ขณะที่ Pikmin Bloom ก็ไม่ประสบความสำเร็จมากนัก หนำซ้ำปัญหาวิกฤติ COVID-19 ก็ทำให้หลาย ๆ เกมที่เน้นการเดินสำรวจพื้นที่ต่าง ๆ ต้องเป็นอัมพาตจนเจ๊งกันไปตาม ๆ กันเพราะมาตรการล็อคดาวน์ ทำให้ผู้เล่นไม่สามารถออกไปไหนได้
อย่างไรก็ดี Niantic ยังคงมีโปรเจกต์อื่น ๆ ที่กำลังอยู่ในขั้นตอนพัฒนาเช่นเกมบาสเกตบอล NBA All-World ที่ผู้เล่นสามารถค้นหา ท้าทายและแข่งกับนักกีฬา NBA ในพื้นที่ของตนได้ ตัวแทนของบริษัทจะยังกล่าวด้วยว่าจะยังคงเดินหน้าพัฒนาเกมต่าง ๆ รวมถึง Pokémon Go ต่อไป เราคงได้แต่หวังว่า Niantic จะฝ่ามรสุมต่าง ๆ เหล่านี้ไปได้ในที่สุดครับ
ที่มา: Bloomberg
ติดตามข่าวสารอื่น ๆ ภายในเว็บไซต์ Online Station ได้ที่ https://www.online-station.net
