Diablo Immortal เปิด Closed Beta แล้ว พร้อมข้อมูลใหม่ก่อนตัวเต็มเปิดปีหน้า

Play Video

สำหรับใครที่ติดตาม Online Station มาอย่างต่อเนื่องก็น่าจะได้เห็นการรายงานข้อมูลของ Diablo Immortal ที่เราได้รับเชิญไปฟังการบรรยายและให้สัมภาษณ์จาก Blizzard เพื่อมารายงานให้ทุกคนได้ทราบกันมาโดยตลอด และในครั้งล่าสุดนี้ ทางทีมงานก็ยืนยันแล้วว่าตัวเกมจะเปิดให้บริการพร้อมกันทั่วโลกทั้งบน iOS และ Android ภายในช่วงครึ่งแรกของปีหน้า

แต่จะมี Closed Beta สำหรับแพลตฟอร์ม Android มาให้ทบสอบกันในวงกว้างขึ้นตั้งแต่ช่วงเช้าของวันที่ 29 ตุลาคมเป็นต้นไปตามเวลาในประเทศไทย ต่อเนื่องเป็นเวลาหลายสัปดาห์ โดยจะมีเซิร์ฟเวอร์อยู่ที่แคนาดาและออสเตรเลียในช่วงแรก ก่อนที่เกาหลี ญี่ปุ่น และจีน จะเปิดตามมาในภายหลัง

โดยนอกเหนือจากการปรับสมดุลด้านต่าง ๆ ของทั้ง PVE และ PVP ที่พัฒนาขึ้นจากการทดสอบรอบก่อนแล้ว เบต้าครั้งนี้ยังจะมีคลาส Necromancer เพิ่มเข้ามาให้เลือกเล่น รองรับการควบคุมด้วยคอนโทรลเลอร์ และจะมีระบบใช้เงินจริงมาให้ทดลองเติมกันด้วย

Diablo Immortal
Necromancer กับบรรดาลูกสมุนโครงกระดูก

จอยหรือคอนโทรลเลอร์แบบไร้สายที่ Diablo Immortal จะรองรับในเบต้าครั้งนี้ก็ได้แก่คอนโทรลเลอร์ของ PS4, Xbox One, Xbox Series X, และ Razer Kishi โดยที่ผู้เล่นสามารถตั้งปุ่มตามความถนัดของแต่ละคนได้ แต่มันก็จะใช้ได้แค่ควบคุมการเคลื่อนไหวของตัวละคร รวมถึงการต่อสู้ด้วยท่าโจมตีและกดใช้สกิลทุกรูปแบบเท่านั้น เรายังไม่สามารถใช้คอนโทรลเลอร์กับหน้าจอเมนูต่าง ๆ ได้อย่างเต็มรูปแบบ

Diablo Immortal
ยิ่งเล่นความยากระดับสูง ของรางวัลก็ยิ่งคุ้มค่ามากขึ้น

ดังที่ได้กล่าวไปในข้างต้นว่าผู้เล่นสามารถจ่ายเงินจริงในเบต้าครั้งนี้ได้ ซึ่งตัวเกมจะมีสิ่งต่าง ๆ มาให้เลือกซื้ออย่าง Empowered Battle Pass และ Legendary Crest ที่ใช้เป็นตัวเพิ่มเงื่อนไขแบบสุ่มให้ดันเจี้ยน Elder Rift มีความยากมากขึ้นหรือง่ายลงแต่ผู้เล่นก็จะได้ของรางวัลในการเคลียร์ที่มากกว่า

รวมไปถึงการจ่ายแบบรายเดือนเพื่อวัตถุดิบโบนัสในแต่ละวัน เป็นต้น และแม้ว่าเซิร์ฟเวอร์จะถูกรีเซ็ตหลังเบต้านี้จบลง แต่จำนวนเงินที่เราได้จ่ายไปก็จะยังคงถูกเก็บเอาไว้ในบัญชีของผู้เล่น (คนละส่วนกับเงินในบัญชี Battle.net) และจะสามารถนำมาใช้ได้อีกครั้งเมื่อเกมเปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบ

แต่ถึงจะมีช่องทางในการจ่ายเงินมาให้เลือกมากแค่ไหน ทางทีมงานก็ยืนยันว่า การจะปั้นตัวละครใน Diablo Immortal ให้เก่งได้ ผู้เล่นจะต้องเล่นเพื่อหาอุปกรณ์สวมใส่และเลือกสายการเล่นด้วยตัวเองเท่านั้น การจ่ายด้วยเงินจริงจะเป็นเพียงทางเลือกให้ประหยัดเวลา จะไม่มีการจ่ายเพื่อซื้อความเก่งโดยตรงอย่างการซื้ออุปกรณ์สวมใส่หรือตัวทวีคูณค่าประสบการณ์แน่นอน

Diablo Immortal
อยากได้ของดีต้องฟาร์มเอาเอง ไม่มีให้ซื้อ

อีกสิ่งที่เพิ่มเข้ามาก็คืออุปกรณ์สวมใส่แบบเป็นเซ็ตที่รูปแบบการใช้งานดูจะมีความหลากหลายมากขึ้นพอสมควร เพราะอุปกรณ์สวมใส่ของ Diablo Immortal จะถูกแยกออกเป็นประเภทหลัก และประเภทเสริม โดยที่ไอเทมแบบเซ็ตจะอยู่ในรูปแบบของอุปกรณ์เสริมเท่านั้น คือ สร้อยคอ แหวนสองวง ถุงมือ เข็มขัด และรองเท้า

โดยแต่ละเซ็ตจะมีโบนัสให้ทั้งการสวมใส่แบบสามชิ้นและหกชิ้น ซึ่งอุปกรณ์แต่ละเซ็ตก็จะถูกกำหนดให้ดรอปเฉพาะในบางดันเจี้ยนเท่านั้นเพื่อเป็นตัวช่วยประหยัดเวลาในการฟาร์มให้กับผู้เล่น

และเมื่อเซ็ตจะมีให้ใส่เฉพาะกับสล็อตของอุปกรณ์เสริม ก็เท่ากับว่าเรายังจะใส่อุปกรณ์หลักระดับ Legendary พร้อมกันได้อีกหกชิ้นคือ หมวก เสื้อ กางเกง เกราะไหล่ อาวุธในมือหลัก และอุปกรณ์ในมือรอง ที่จะมาพร้อมกับค่าสถานะพิเศษเฉพาะของตัวเอง

Diablo Immortal
โบนัสของอุปกรณ์แบบเซ็ต

นอกเหนือจากระบบ PVP ชื่อ Cycle of Strife ที่เป็นการสู้กันระหว่างผู้เล่นฝั่ง Immortal และผู้เล่นฝั่ง Shadow ที่เราได้บรรยายถึงรายละเอียดต่าง ๆ ไปในครั้งก่อนแล้ว คราวนี้ระบบ PVP ของเกมก็จะมีรูปแบบการเล่นใหม่เพิ่มเข้ามาด้วย นั่นคืออีเวนต์รายสัปดาห์ที่ผู้เล่น Immortal อันดับ 1 ของเซิร์ฟเวอร์จะกลายร่างเป็นบอสขนาดใหญ่ที่มีท่าโจมตีและสกิลพิเศษ รอให้ผู้เล่นฝ่าย Shadow จำนวน 30 เข้ามารุม

ซึ่งหากผู้เล่นที่เป็นบอสถูกล้ม ผู้เล่น Shadow จำนวน 30 คนนั้นก็จะต้องสู้กันเองอีกครั้งแบบ Battle Royale เพื่อชิงตำแหน่ง Immortal ที่จะสามารถเข้าไปเล่นในดันเจี้ยนที่มีของรางวัลพิเศษรออยู่ได้ แต่หากในกรณีที่ผู้เล่นที่เป็นบอสของฝ่าย Immortal ไม่มาสู้ตามกำหนดเวลา หรือหลุดการเชื่อมต่อไประหว่างการต่อสู้ ตัวเกมก็จะถือว่าฝ่าย Shadow ชนะไปโดยปริยาย โดยที่พวกเขาเหล่านั้นก็จะได้ไปสู้กันเองเพื่อชิงตำแหน่ง Immortal ต่อทันที

Diablo Immortal
ผู้เล่นกลายร่างเป็นบอสยักษ์

Closed Beta ครั้งนี้จะเน้นส่งเสริมการเล่นร่วมกันใน Helliquarry ที่เป็นดันเจี้ยนสำหรับบอสพิเศษตามช่วงเวลามากขึ้น อย่างก่อนที่จะเข้าไปลุย ตัวเกมจะมีหน้าต่างให้กดชวนผู้เล่นให้เข้าไปช่วยกันสู้ได้พร้อมกันสูงสุดถึงแปดคน และจะมีตัวเลขเรตพลังโจมตีและพลังป้องกันที่แนะนำสำหรับบอสตัวนั้น ๆ ด้วย

ทั้งนี้ก็เพื่อความสะดวกของผู้เล่นที่จะได้รู้ว่าตนเก่งพอที่จะล้มบอสตัวนี้ได้หรือยัง ไม่ใช่ลองกดเข้าไปดูแบบไม่รู้อะไรเลยแล้วก็โดนตบตายง่าย ๆ ได้เหมือนการทดสอบรอบก่อนในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ขณะเดียวกัน ตัวเกมก็จะมีการจัดอันดับในโซน PVP ให้ผู้เล่นได้สู้กันเพื่อไต่แรงก์แลกของรางวัลได้แล้วด้วย

Diablo Immortal
ช่วยกันสู้บอสใน Helliquarry

เมื่อเคลียร์เควสต์เนื้อเรื่องหลักไปเรื่อย ๆ รวมไปถึงเมื่อเคลียร์กิจกรรมต่าง ๆ ของเกมไปถึงจุด ๆ หนึ่ง ผู้เล่นจะได้รับไอเทมพิเศษคล้ายกับเป็นรางวัลจากการปลดล็อก Achievemtnt ซึ่งเราสามารถนำเอาไอเทมเหล่านี้ไปใส่ใน Horadric Shrine เพื่อเพิ่มค่าสถานะโบนัสต่าง ๆ ให้กับตัวละคร

โดยไอเทมเหล่านี้จะใช้วัตถุดิบจากดันเจียนพิเศษประจำวันมาเพื่ออัปเกรดเพิ่มความแรงได้ด้วย อีกฟีเจอร์หนึ่งที่จะเป็นตัวเพิ่มโบนัสทางสถานะให้กับผู้เล่นก็คือ Legendary Gem ที่นอกจากจะใช้ติดตั้งลงไปในอุปกรณ์สวมใส่แล้ว หากอัปเกรดเจมเม็ดนั้น ๆ ไปจนถึงขั้นที่ 10 ซึ่งเป็นเลเวลสูงสุดแล้ว รูปลักษณ์ของอุปกรณ์ชิ้นนั้น ๆ ก็จะเปลี่ยนไปในทางที่ดูน่าเกรงขามมากขึ้นด้วย

ส่วนเจมเม็ดไม่ถูกติดตั้งลงไปในอุปกรณ์สวมใส่ก็ใช่ว่าจะหมดประโยชน์ เพราะตัวเกมจะมีระบบ Resonance ที่จะให้เราพก Legendary Gem เม็ดที่เหลือติดตัวไว้พร้อมกับได้โบนัสสถานะของมันมาด้วย เพียงแต่ค่าสถานะที่เพิ่มขึ้นอาจไม่ได้มาแบบเต็ม ๆ เหมืออนกับเจมเม็ดที่เราติดตั้งมันไว้กับอุปกรณ์สวมใส่

Diablo Immortal
รูปลักษณ์ของอุปกรณ์จะเปลี่ยนไปเมื่ออัปเกรดเจม

เช่นเดียวกับ Diablo III ที่หลังจากเลเวลหลักเต็มแล้ว ผู้เล่นจะสามารถเก็บเลเวล Paragon เพื่ออัปเกรดค่าสถานะต่าง ๆ ของตัวละครต่อไปได้ ซึ่งการทดสอบรอบก่อน ๆ ของ Diablo Immortal ก็มีการเผยให้เห็นพัฒนาการอีกขั้นของระบบ Paragon ที่เหนือกว่าของต้นฉบับนั่นก็คือผู้เล่นจะสามารถเลือกสาย Paragon ที่กลุ่มของค่าสถานะที่อัปเกรดได้จะแตกต่างไปตามแนวทางการเล่นที่แต่ละคนต้องการ

และใน Closed Beta นี้ก็จะมีระบบ World Paragon เพิ่มเข้ามาด้วย ซึ่งมันก็คือตัวกำหนดเลเวล Paragon มาตรฐานของเซิร์ฟเวอร์ที่จะเพิ่มขึ้นทุก ๆ วัน วันละสองเลเวล จาก 0 ไป 2, 4, 6… โดยผู้เล่นคนไหนที่มีเลเวลต่ำกว่า World Paragon ก็จะได้รับบัฟเป็นทวีคูณค่าประสบการณ์และไอเทมวัตถุดิบต่าง ๆ ทั้งนี้ก็เพื่อความสมดุลของเซิร์ฟเวอร์ ไม่ให้เกิดความเหลื่อมล้ำระหว่างผู้เล่นที่เล่นวันละหลายชั่วโมงและผู้เล่นที่เล่นวันละนิดวันละหน่อยมากจนเกินไป

นอกจากนี้ ตัวเกมก็จะกำหนดขีดจำกัดของการเก็บค่าประสบการณ์ด้วย แต่กว่าจะไปถึงจุดนั้นได้ ทางทีมงานกล่าวว่าเราต้องเล่นอย่างน้อยวันละสี่ชั่วโมงขึ้นไปกว่าจะไปแตะเพดานนั้นได้

Diablo Immortal
เก็บเลเวล Paragon กันไปยาว ๆ

อย่างไรก็ตาม Closed Beta ของ Diablo Immortal ครั้งนี้จะสามารถเล่นได้บนแพลตฟอร์ม Android เท่านั้น เนื่องจากระบบทดสอบของเกมบน iOS จะไม่อนุญาตให้มีการใช้จ่ายด้วยเงินจริง แต่เมื่อตัวเกมถึงกำหนดเปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบภายในช่วงครึ่งแรกของปีหน้า เราจะสามารถเล่นมันได้พร้อมกันทั้งบน iOS และ Android


เรียบเรียงโดย อาร์ม Pirawits

คำที่เกี่ยวข้อง

สมัครรับข่าว OS

คุณอาจสนใจเรื่องนี้