Diablo Immortal เป็นเกมที่ทาง Online Station เราเคยได้ทดลองเล่นเวอร์ชั่น Close Alpha มาแล้วนะครับ รวมไปถึงการนำเสนอข้อมูลเกมแบบ PVE ระดับหนึ่งซึ่งส่งตรงจากทีมพัฒนาเลย
อย่างไรก็ดีจากข้อมูลชุดที่แล้วได้มีการเกริ่นๆ ถึงโหมด PVP ในช่วง Endgame ที่ชื่อว่า Cycle of Strife ขึ้นมา ซึ่งผมจะไม่กล่าวเพิ่มเติมเพราะทีมงานเราได้ลงข้อมูลเบื้องต้นไปก่อนหน้าแล้ว สามารถตามไปอ่านกันได้ ที่นี่
สำหรับคราวนี้จะเป็นการให้สัมภาษณ์ถึงข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Cycle of Strife โดยเฉพาะ ซึ่งผู้มาให้ข้อมูลก็ได้แก่คุณ Scott Shicoff ตำแหน่ง Game Designer ดูแลในส่วนภาพรวมของโหมด Cycle of Strife ให้ทุกอย่างมันเข้ากัน และคุณ Kristopher Zierhut ตำแหน่ง Game Designer ดูแลในส่วนของ กฎการเล่นต่างๆ ค่าสเตตัส การต่อสู้ รวมไปถึงพวกอาวุธชุดเกราะ
เซสชั่นดำเนินไปแบบสัมภาษณ์ถามตอบซึ่งยาวมากๆ ดังนั้นผมขอย่อยสรุปรวมเป็นบุลเล็ตเพื่อการอ่านเข้าใจได้ง่ายที่สุดก็แล้วกันนะครับ และเพื่อไม่ให้เสียเวลาก็มาดูกันดีกว่าว่าโหมด Cycle of Strife นั้นเป็น PVP ที่มีรูปแบบพิเศษอย่างไร
Cycle of Strife สงคราม 2 ฝ่ายเมื่อ Immortal ปะทะ Shadow
- Cycle of Strife จะเป็นคอนเทนต์ในช่วง Endgame แต่คุณสามารถมีส่วนร่วมกับ PVP โหมดอื่นได้
- โหมดแรกคือ Ancient Arena ซึ่งจะเข้าได้ตอนราวๆ เลเวล 40 โหมดที่ 2 คือ Battlegrounds ที่เป็นโหมดอุ่นเครื่องฝึกฝนเตรียมความพร้อมเข้าได้ช่วงเลเวล 40 ต้นๆ
- ส่วน Cycle of Strife เข้าได้ตอนเลเวล 43 ซึ่งในตอนที่ Luanch ตัวเกมจริงๆ จะเลเวลตันที่ 60 ดังนั้นไม่ต้องเล่นจบ ไม่ต้องเล่นให้ตันก็สามารถเข้าร่วม PVP ได้ในช่วงครึ่งหลังของเกม
- ผู้พัฒนาพยายามรักษาบาลานซ์ของเกมโดยมองในภาพรวมก่อนว่าไม่มีคลาสไหนที่ครองเกมได้ฝ่ายเดียว ทุกๆ คลาสจะมีความสามารถที่แตกต่างกันออกไปในการส่งผลกับการต่อสู้ แต่การทำงานในส่วนนี้ที่จริงมันไม่มีที่สิ้นสุด พวกเขาต้องคอยเฝ้าดูและควบคุมอยู่เสมอ เมื่อมีอัปเดตอะไรใหม่ๆ เข้าไป ก็ต้องไปดูฟีดแบ็ค ถ้าเกิดมีคลาสไหนเริ่มแหลมขึ้นมาก็จะพยายามเทคแอคชั่นอย่างรวดเร็วที่สุด
- ฟีตแบคจากตอน Close Alpha ทำให้มีหลายๆ สิ่งถูกเพิ่มเข้ามา พวกเขาเปลี่ยนแปลงปรับปรุงกันอยู่ตลอดโดยดูจากฟีตแบค และตระหนักดีว่าที่ทำอยู่มันเป็นเพียงจุดเริ่มต้นในการรักษาประสบการณ์การเล่นเกมตลอดอายุขัยของมัน
- Diablo Immortal เป็นเกมขนาดใหญ่และมีความหลากหลายในการเล่นมากๆ ทีมผู้พัฒนาบอกว่าไม่รู้ว่าแบบไหนคือทางที่ถูกต้องในการเล่น แค่รู้สึกว่าถ้าผู้เล่นทำแบบไหนแล้วสนุกก็ทำไปเถอะ เล่นในแบบที่เป็นตัวเอง เล่นให้สนุก ไม่ว่าจะมองหาอาวุธในตำนานหรือพยายามสร้างชื่อเสียงให้ตัวเอง ชอบลงดันฯ หรือไปทำอย่างอื่น ก็สามารถทำได้อย่างอิสระ และมันยอดเยี่ยมทั้งหมด ไม่มีผิดถูก
- สาเหตุหนึ่งที่สร้างโหมด Cycle of Strife ขึ้นมาเพราะว่าอยากให้มันมีโหมดเพิ่มเติมที่ผู้เล่นสามารถมีส่วนร่วมกันได้อย่างกว้างขวางนอกจากเกมเพลย์ตามปกติ และโหมดนี้นอกจากเลเวลแล้ว ก็ไม่มีข้อกำหนดอื่นใดที่ห้ามไม่ให้เข้าร่วมพวกเขาอยากให้ผู้เล่นสนุกไปกับเกมครับในแบบของตัวเอง
- ถ้าผู้เล่นไม่อยากเข้าร่วม Cycle of Strife ก็ไม่จำเป็นต้องเข้าร่วม เพราะอาวุธดีๆ ไอเทมเด่นๆ ที่มีดรอปในโหมดนี้ ก็มีให้ตามล่าในทุกๆ ที่ของตัวเกมอยู่แล้ว แม้แต่อาวุธในตำนานก็เช่นกัน พวกเขาย้ำอีกครั้งว่าอยากให้ผู้เล่นได้เล่นในแบบของตัวเอง
- Cycle of Strife ประกอบไปด้วยฟีเจอร์หลายๆ ส่วนมารวมกัน ในการอยู่ฝั่ง Shadow ถ้าทั้ง House แกร่ง Faction แข็ง ตัวผู้เล่นก็จะแกร่งไปด้วย ส่วน Immortal แถวหน้าๆ ก็ต้องเป็นพวกฮาร์ดคอเกมเมอร์อยู่แล้วถึงตรากตรำไปอยู่ในจุดนั้นได้ แต่มันก็ยังมีพื้นที่ให้ผู้เล่นแคชชวลอยู่ดีประเด็นหลักของเกมนั้นเน้นที่การได้มีส่วนร่วมของผู้เล่นมากกว่า
- สเป็คมือถือถ้าผ่านขั้นต่ำ ก็สามารถสนุกกับโหมด PVP ได้อย่างเท่าเทียม
- เมื่อถูกถามถึงความแตกต่างที่จะได้พบบนเวอร์ชั่นมือถือ ทีมพัฒนาตอบว่า - ผู้คนมากมายหลงรัก Diablo พวกเขาจะมาจากทุกทิศทุกทาง และพวกเขาก็อาจจะไม่เคยเล่น Action RPG ดีๆ ที่มีความเฉพาะตัวบนมือถือ ดังนั้นถ้าพวกเขาทำได้สำเร็จ มันจะเป็นครั้งแรกที่ผู้เล่น Diablo จะไม่ต้องรัวปุ่ม และอาจจะมาจากการสไลด์นิ้วบนจอแทนจนผู้เล่นอาจรู้สึกว่า "เขร้! เนี่ยแหละ Diablo ล่ะ"
- พวกเขาคิดว่าโลกทุกวันนี้หลายๆ คนไม่สามารถนั่งหน้าจอ PC หรือคอนโซลได้นาน บางคนอาจต้องไปเรียน ไปทำงาน เดินทาง หรือทำธุระ ด้วยมือถือ Diablo สามารถตามไปให้เล่นได้ทุกที่ นอกจากนี้ก็คาดหวังว่าจะได้ผู้เล่นใหม่ๆ อีกด้วย
- ความแตกต่างที่สำคัญที่สุดคือในกรณีนี้คือถ้าผู้อยากเล่น Diablo ก็แค่ล้วงกระเป๋าเอามือถือขึ้นมา
- โหมด Cycle of Strife จะให้บริการตั้งแต่วันแรกที่เกมให้บริการเลย เพราะทีมงานอยากให้ผู้เล่นได้สัมผัสเกมนี้แบบเต็มๆ ตั้งแต่แรก
- ไอเทมที่มีค่ามากๆ เช่นอาวุธในตำนาน สามารถลุ้นดรอปได้จากศัตรูแทบทุกตัวและทุกโหมดในเกม
- ผู้เล่นที่เป็น Immortal สามารถเลือกกลับเป็น Adventurer ธรรมดาๆ ได้ตามต้องการ แต่เกมก็มีระบบที่ถ้าหาก Immortal คนนั้นไม่ได้มีส่วนร่วมกับเกมที่มากพอก็จะถูกคัดออกกลับไปเป็น Adventurer อัตโนมัติเช่นกัน
- ใน Faction จะมีการแบ่ง Rank มีระดับขั้น ยิ่งระดับสูงก็จะสามารถเข้าถึงผลประโยชน์ได้มากขึ้นเช่นบัฟหรือสกิลพิเศษ ผู้เล่นที่มีระดับสูงในบางตำแหน่งสามารถเลื่อนขั้นให้เมมเบอร์ธรรมดาได้ ส่วนเหล่า Immortal ยิ่งระดับสูงก็ยิ่งแข็งแกร่ง
- ตัวเกมมีระบบ PVP แบบอื่นอีกมากมายที่กำลังถูกพัฒนาอยู่และจะตามมาในอนาคตอย่างแน่นอน
- พวก Immortal จะมีไอเทมคอสเมติกพิเศษไว้สวมใส่เพื่อโชว์ความ Elite ของตัวเอง ส่วนตัวผู้นำของ Immortal ก็จะมีรูปปั้นเป็นของตัวเองตั้งอยู่ในเมือง West March อันดับรองๆ ลงมาจะอยู่ใน Wall of Honor ของ West March เช่นกัน นอกจากนี้ Immortal ทุกคนยังมีผ้าคลุมเรืองแสงสวมกันอีกด้วย
- ขณะที่ Shadow จะไม่มีอะไรแบบข้างต้น แต่จะมีคอนเทนต์เกมเพลย์ที่ต่างออกไปเช่นความสามารถในการลอบบุก Vault แล้วขโมยของ เป็นต้น
- ผู้พัฒนาอยากเห็นผู้เล่นเรียนรู้ระบบเกมแล้วเฝ้าดูว่าผู้เล่นจะใช้ความแตกต่างที่มีของทั้ง 2 ฝ่ายนั้นสู้กันยังไง อยากเห็นผู้เล่นฝ่าย Shadow วางแผนบุก Vault หรือฝั่ง Immortal จะรับมือการบุกอย่างไร แล้ว Immortal ชุดแรกจะยืนยงได้นานขนาดไหน เมื่อไหร่ที่พวกเขาจะถูกโค่น และมันเป็นไปได้อย่างไร มีเรื่องน่าสนุกมากมายที่อยากจะเห็นเมื่อเกมเปิดให้บริการ
- ไม่มีแผนที่จะทำให้ผู้เล่น PVP กันตอนไหนก็ได้ แต่ถ้าอยากซัดกันจริงๆ ก็มีพื้นที่ให้ใน Ancient Arena ที่นั่นสามารถฆ่ากันได้ทุกคนทุกนาที
ประมาณนี้ครับสำหรับสรุปรวมข้อมูลของโหมด Cycle of Strife ซึ่งเป็นการต่อสู้กันของฝ่าย Immortal และ Shadow ต้องบอกว่ามีรายละเอียดค่อนข้างเยอะและยังน่าสนใจมากทีเดียว เอาเป็นว่าถ้าอยากลองก็อดใจกันสักนิดหนึ่งครับสำหรับ Diablo Immortal ไม่นานเกินรอแน่นอน!