หลังจาก Fortnite ได้เปิดให้ทุกคนได้เล่นกันบนระบบ iOS เกมนี้ก็ได้ทำเงินจากระบบ iOS ไปถึง 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 3,200 ล้านบาท) ภายในระยะเวลาเพียง 90 วันตามที่ข้อมูลของบริษัท Sensor Tower รายงาน ซึ่งทำให้การลงทุนครั้งนี้ของบริษัท Epic ผู้สร้างเกม Fortnite ประสบความสำเร็จอย่างมาก โดย Fortnite ทำเงินร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐได้ช้ากว่าเพียงแค่เกม Clash Royale เกมเดียวเท่านั้นซึ่งทำเงินไปได้ถึง 1.2 พันล้านบาทภายในปี 2017
สาเหตุที่บริษัท Epic ทำรายได้จากเกม Fortnite ได้อย่างมหาศาลนี้มาจากการขายของตกแต่งที่ไม่ต้องสุ่มแต่จำกัดเวลาและ Seasonal Battle Pass แทนวิธีสุ่มที่โดนต่อว่าอย่างหนักในช่วงนี้อย่าง Loot Box การที่เกม Fortnite สามารถทำรายได้จากระบบนี้ดูเหมือนจะทำให้วิธีดังกล่าวเป็นที่นิยมขึ้นมาด้วย เพราะว่าเกมอย่าง Rocket League และแม้แต่ PUBG ก็กำลังทำระบบแบบนี้ออกมา อาจจะเป็นไปได้ว่าหลังจากที่ระบบ Loot Box ถูกต่อต้านอย่างมาก ระบบ Pass และของตกแต่งที่ไม่สุ่มแต่จำกัดเวลาจะขึ้นมาเป็นที่นิยมแทน
แต่ถึงอย่างไรถ้าไม่นับรายได้จาก Battle Pass เกม Fortnite ก็ยังสามารถเติบโตอย่างต่อเนื่องในฐานะเกมที่เป็นที่ชื่นชอบของคนทั้งโลกและยังไม่มีวี่แววว่าจะชลอตัวลงด้วย แถมทางบริษัท Sensor Tower ยังรายงานเพิ่มอีกด้วยว่าเกม Fortnite จะยังสามารถเติบโตได้อีกมากเพราะว่าเกมนี้ยังอยู่เพียงอันดับ 5 ใน 10 อันดับของ Top-Ten App Store Revenue List อีกทั้งบริษัท Tencent ก็กำลังจะนำเกมนี้ไปเผยแพร่ในประเทศจีนอีกด้วย
ที่มา: PC Gamer