ในช่วงระยะหลัง เส้นทางของซีรีส์ RPG ชื่อดังจากญี่ปุ่นอย่าง Final Fantasy ยังคงถูกตั้งคำถามจากแฟนๆ อยู่เรื่อยๆ ว่าทีมงานจะมีแนวทางอย่างไรที่จะให้ซีรีส์นี้ยืนระยะต่อไปได้เรื่อยๆ และล่าสุดทางคุณโยชิโนริ คิตาเสะ อดีตผู้กำกับของเกม Final Fantasy ภาค 5-8 และภาค 10 ก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับประเด็นนี้ไว้อย่างน่าสนใจทีเดียวครับ
โดยคุณคิตาเสะกล่าวว่า ก่อนที่ตัวเขาจะได้มานั่งแท่นเป็นโปรดิวเซอร์ให้กับเกม Mobius Final Fantasy ที่เป็นเกมมือถือนั้น เขาเองได้ใช้เวลานานกว่า 20 ปีในโลกของการพัฒนาเกมคอนโซล ได้มีโอกาสกำกับเกม RPG ระดับตำนานอย่าง Final Fantasy VI และ Final Fantasy VII อีกทั้งยังเป็นที่ปรึกษาให้กับทีมงาน Final Fantasy มาทุกภาคนับจากนั้น โดยเมื่อสมัยที่เขาและทีมงานยังทำเกมลงเครื่องคอนโซลอยู่ มันต้องใช้เวลาประมาณ 2-3 ปีถึงจะสร้างขึ้นมาได้สักเกมนึง และพอเราจะมารวบรวมฟีดแบ็คของเกมดังกล่าว ก็ต้องรออีกประมาณ 2-3 ปีถึงจะแสดงให้ผู้เล่นเห็นและรับรู้ได้ว่าทีมงานได้ทราบเรื่องและรับฟังไว้แล้วนะ แต่สำหรับเกมมือถือเนี่ย เรามีการอัพเดตกันตลอดทุกเดือน เราก็เลยทราบฟีดแบ็คผู้เล่นได้รวดเร็วกว่าเดิมมาก ทำให้สามารถนำฟีดแบ็คเหล่านั้นไปหาทางปรับปรุงแก้ไขและทำให้เกมมันเดินหน้าต่อได้ ซึ่งเขาเองกำลังคิดหาทางทำให้เกมเวอร์ชั่นเครื่องคอนโซลทำเช่นนั้นได้บ้าง แต่ก็อยากให้มีการพูดคุยสนทนาในเรื่องนี้กันก่อน และถึงตอนนั้นก็อาจจะพอมีวิธีรับฟีดแบ็คเพื่อใช้ในการพัฒนาเกมในอนาคตก็ได้
ทั้งนี้ เกม Final Fantasy XV ที่กำกับโดยคุณฮาจิเมะ ทาบาตะ ก็ได้เปิดรับฟีดแบ็คจากผู้เล่นที่ได้สัมผัสเดโมทั้งตัวที่เป็น Episode Duscae และ Platinum Demo ซึ่งถูกปล่อยมาให้ลองเล่นก่อนหน้าที่เกมจะวางขายประมาณหลายเดือน และหลังจากที่เกมวางจำหน่ายเรียบร้อย คุณทาบาตะก็ได้ปล่อยแพตช์แก้ไขข้อบกพร่องต่างๆ ในเกม รวมถึงอัพเดตรายละเอียดเข้าไปเพิ่มเติมด้วย ทำให้ผู้เล่นยังคงมีการแวะเวียนกลับมาเล่นเกมนี้อยู่กันเป็นระยะจนถึงทุกวันนี้
และจากฟีดแบ็คที่รวบรวมมา เขาจึงตัดสินใจพอร์ตเกม Final Fantasy V และ Final Fantasy VI ลงบนมือถือและสตีมไปด้วย โดยเวอร์ชั่นดังกล่าวมีการปรับโฉมดีไซน์ตัวละครใหม่หมด ตรงจุดนี้แม้ว่าผู้เล่นในญี่ปุ่นจะค่อนข้างโอเคกับดีไซน์ใหม่ แต่ผู้เล่นฝั่งอเมริกากลับไม่ปลื้มและพึงพอใจที่จะเล่นเวอร์ชั่นดีไซน์ดั้งเดิมสมัยเครื่อง Super Famicom หรือ Game Boy Advance บนเครื่องคอนโซลยุคปัจจุบันมากกว่า ซึ่งคุณคิตาเสะก็น้อมรับฟีดแบ็คเหล่านี้กลับไปพิจารณา เพื่อหาทางตอบสนองผู้เล่นที่มาจากต่างภูมิภาคด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม คุณคิตาเสะก็ยังมีอีกความเชื่อนึงว่า การที่ Mobius Final Fantasy ได้รับความนิยมจะเป็นสิ่งที่บ่งชี้ว่าเกมมือถือและเกมคอนโซลจะเติบโตไปพร้อมกันในลักษณะคู่ขนาน แม้ว่าตลาดเกมบนสมาร์ทโฟนจะพุ่งแรงกว่าแพลตฟอร์มอื่นๆ ก็ตาม เขายังอยากจะให้ซีรีส์ Final Fantasy เป็นเกมที่อยู่ในความทรงจำของผู้เล่นไปอีกนานไม่ว่าจะย้ายไปอยู่คอนโซลไหน เมื่อไหร่ก็ตามที่มีเครื่องคอนโซลใหม่เปิดตัว เขาก็อยากให้ Final Fantasy ตามไปลงให้กับเครื่องนั้นๆ ด้วย หากให้เปรียบเปรยก็ประมาณว่า ตัวคุณคิตาเสะอยากให้ผู้เล่นทุกคนเมื่อมองย้อนกลับไปในอดีตแล้วมองเห็น Final Fantasy อยู่ในนั้น และเมื่อไหร่ที่รู้สึกว่าวิถีหรือไลฟ์สไตล์การเล่นเกมของเราได้เปลี่ยนไป เราก็จะยังเห็น Final Fantasy อยู่คู่กับเกมเมอร์เสมอมาครับ
เครดิต: Kotaku