Dragonica Battlemage ก็แรง Acolyte ก็เทพ มาดูว่าอาชีพไหนดี

หลังจากที่ในครั้งที่แล้วได้พูดถึงอาชีพสาย Warrior กันไปแล้วในคราวนี้ก็เป็นทีของอาชีพที่หลายคนชื่นชอบอาชีพหนึ่งเลยทีเดียวนั้นก็คือสายอาชีพ Mage โดยในสายอาชีพนี้ก็จะแบ่งออกเป็นสองสายก็คือ Battlemage และ Acolyte ซึ่งทั้งสองก็มีข้อแตกต่างกันออกไปแล้วแต่ความชอบของแต่ละคนซึ่งเราจะมาดูกันว่าทั้งสองอาชีพต่างกันยังไงและควรจะอัพอะไรดีนะ อย่ารอช้าเรามาดูกันเลยดีกว่า

Battlemage
ว่าด้วยเรื่องของคลาส Battlemage เป็นคลาสที่เน้นไปที่การทำความเสียหายมากกว่าสาย Acolyte โดนตัว Battlemage ก็สมชื่อคือเน้นบู้สุดๆแต่ถึงกระนั้นก็เป็นคลาสที่เล่นไม่ยากเหมาะกับคนชอบความรุนแรงของตัวสกิลและมีสกิลที่ใช้ไม่ต้องเยอะมากเท่าไหร่เอาเป็นว่าเรามาดูสกิลของอาชีพนี้กันเลยดีกว่าและควรจะอัพอะไรบ้าง
Mana Shield: เมื่อกดใช้จะร่ายเกราะขึ้นมาเพื่อลดความเสียหายที่ได้รับซึ่งจะใช้ MP ในการรับความเสียหาย ซึ่งถือเป็นจุดแข็งของอาชีพนี้เลยก็ว่าได้ เพราะจะทำให้ตัว Battlemage อึดสุดๆเลยก็ว่าได้แต่และไม่ต้องพกยา HP ที่เยอะเกินควรแต่ไปเน้นที่ยา MP แทน (อัพเต็ม 5) 
Fire Emblem: เมื่อกดใช้สกิลนี้จะปล่อยลูกบอลพลังงานออกไปใส่ศัตรูและสร้างความเสียหายจำนวนมาก โดยสกิลนี้ถือเป็นอีกหนึ่งสกิลหากินของ Battlemage เลยก็ว่าได้เพราะนอกจากจะทั้งแรงแล้วตัวสกิลก็มีคูลดาวน์ที่ไม่นานสามารถหยิบมาใช้ได้ยันท้ายเกมเลยทีเดียว (อัพเต็ม 5)
Energy Condensation: สกิลนี้เป็นสกิลติดตัว โดยสกิลนี้จะเพิ่มความสามารถให้กับสกิล Fire Emblem ซึ่งเราใช้เป็นหลักอยู่แล้วจึงไม่มีเหตุผลอะไรเลยที่จะไม่อัพสกิลนี้ (อัพเต็ม 5)
Magic Missile: สกิลนี้เมื่อกดใช้จะเป็นการยิงมิซไซล์ออกมาจากไม้เท้าเป็นจำนวนมากโดยจะทำความเสียหายใส่ทั้งศัตรูที่ยื่นอยู่บนฟ้าและกำลังล้มอยู่ ซึ่งเป็นอีกสกิลที่มีประโยชน์สุดๆ เมื่อต้องทำความเสียหายใส่ศัตรูที่ล้มหรือแม้กระทั่งศัตรูที่ยื่นเป็นสกิลที่สร้างความเสียหายได้สูงและสามารถใช้สลับกับ Fire Emblem ได้ (อัพเต็ม 5)
Tornado: เมื่อกดใช้สกิลนี้จะเป็นการเรียกทอนาโดออกมาข้างหน้าทำให้ศัตรูที่โดนลอยขึ้นไปบนฟ้า ซึ่งเอาจริงเราไม่ค่อยจะได้ใช้งานสกิลนี้เสียเท่าไหร่เพราะสกิลที่เราสามารถใช้งานคอมโบได้ก็จะมีเพียง Magic Missile ฉะนั้นจึงอัพไว้เป็นแค่ทางผ่านไปสกิล Blizzard ก็พอ (อัพแค่ 2)
Blizzard: สกิลนี้เมื่อกดใช้จะเป็นการเรียกฝนน้ำแข็งตกลงมาใส่ศัตรูซึ่งสร้างความเสียหายสูงมากและที่สำคัญคือยังมีโอกาสทำให้ศัตรูติดสถานะแช่แข็งอีกด้วย สกิลนี้จึงเป็นสกิลหากินของสายอาชีพนี้เลยทีเดียวสามารถที่จะใช้ไปได้ยาวๆเลย (อัพเต็ม 5)
 

Acolyte
ในส่วนของอาชีพ Acolyte ก็จะสวนทางกับตัว Battlemage อยู่นิดหน่อยแต่ก็ไม่มากนักตรงที่ตัว Battlemage จะหนักไปที่การทำดาเมจล้วนๆ แต่ตัว Acolyte สามารถที่จะช่วยเหลือฟื้นฟูพลังชีวิตให้กับเพื่อนในทีมได้และสามารถทำความเสียหายได้ไปพร้อมกัน ถึงจะไม่หนักเท่ากับตัว Battlemage แต่ก็ไม่ได้น้อยหน้าไปกว่ากันเลย ในส่วนของสกิลที่แนะนำให้อัพก็จะเป็นไปตามนี้
Casting Acceleration: สกิลนี้เมื่อกดใช้จะเป็นการลดระยะเวลาในการร่ายสกิลต่างๆของตัวเราเองและเพื่อนในปาร์ตี้ ซึ่งถือเป็นสกิลที่ดีเลยทีเดียวเพราะทำให้เราใชสกิลได้เร็วขึ้นและที่สำคัญคือแสดงผลทั้งปาร์ตี้ด้วย (อัพเต็ม 5)
Diffusion Cannon: สกิลนี้เมื่อกดใช้จะทำให้การโจมตีปกติมีจำนวนที่เยอะขึ้น ซึ่งสกิลนี้จะเป็นสกิลโจมตีหลักของเราจนถึงเลเวล 40 ซึ่งการที่ฮิตโจมตีเพิ่มขึ้นต่อการโจมตีหนึ่งครั้งจะทำให้เรามีดาเมจที่เยอะมากๆเลย (อัพไว้ 5 จนกระทั่งเลเวล 40 รีเซตให้เหลือแค่ 2)
Lightning Strike: สกิลนี้เมื่อกดใช้จะเป็นการพุ่งชาจเข้าไปโจมตีศัตรู ซึ่งเราไม่จำเป็นจะต้องเอาตัวเข้าไปแลกสกิลนี้จึงอัพไว้แค่เป็นทางผ่าน (อัพแค่ 1)
Rain of Fire: สกิลนี้เมื่อกดใช้จะเป็นการเรียกฝนลูกไฟลงมาจากฟ้าสร้างความเสียหายจำนวนมากและมีโอกาสทำให้ศัตรูติดสถานะไฟไหม้ สกิลนี้เป็นอีกหนึ่งสกิลโจมตีหลักของสายอาชีพนี้ซึ่งสามารถใช้ได้ดีทั้ง PVE และ PVP (อัพเต็ม 5)
Detection: สกิลนี้เมื่อกดใช้จะลดพลังป้องกันเวทย์ของศัตรูและทำให้เห็นศัตรูที่ล่องหนซึ่งใช้งานได้ดีใน PVP แต่สำหรับ PVE ถือเป็นเรื่องที่ไม่จำเป็นจึงอัพไว้เป็นทางผ่านสกิลต่อไปก็พอ (อัพไว้ 1)
Barbarian: สกิลนี้เมื่อกดใช้จะเรียกตาลุงออกมาทำให้ศัตรูติดสถานะแช่แข็งสามารถใช้ได้ดีทั้งใน PVP และ PVE ถือว่าเป็นสกิลที่น่าใช้มากๆ สกิลหนึ่งเลยฉะนั้นอัพเต็มแน่นอน (อัพเต็ม 5)
Witch's Curse: สกิลนี้เมื่อกดใช้จะเปลี่ยนศัตรูให้กลายเป็นกบและอยู่ในสถานะที่ต่อสู้ไม่ได้ซึ่งใช้งานได้ดีสำหรับ PVP แต่สำหรับ PVE ไม่ค่อยจะจำเป็นนักขึ้นอยู่กับการใช้งานของผู้เล่น (อัพไว้ที่ 0 หรือ 5 ก็ได้)
HP Recovery Increase: สกิลนี้เมื้อกดใช้จะเป็นการเพิ่มอัตราการฟื้นฟูพลังชีวิต ซึ่งเรามีสกิลฟื้นฟูพลังชีวิตที่มากพอสกิลนี้จึงไม่จำเป็นอัพไว้แค่เป้นทางผ่านพอ (อัพไว้ 1)
Wide-Heal: เมื่อใช้จะร่ายเวทย์ระยะเวลาหนึ่งจากนั้นก็จะเรียกคุณพยาบาลออกมาฟื้นฟูพลังชีวิตให้กับคนในปาร์ตี้ ซึ่งสกิลนี้ไม่ถือว่าสกิลฮิลหลักของเราด้วยการที่มีระยะเวลาในการร่าย แต่ด้วยเรื่องของการใช้งานก็แล้วแต่คนว่าจะเน้นมากเท่าไหร่ แต่แนะนำให้ไว้แค่ทางผ่านก็พอ (อัพไว้ 1 หรือแล้วแต่ชอบ)
Sanctuary:  เมื่อกดใช้จะเป็นการเรียกเสาฮิลออกมาทำให้คนที่อยู่ข้างในได้รับการฟื้นฟูพลังชีวิตระดับหนึ่งซึ่งไม่ค่อยจะจำเป็นมากเพราะเรามีสกิลฮิลที่ดีกว่าแล้ว แต่อัพไว้ก็ไม่เสียหายอะไร (อัพไว้ 1)
Instant Heal: สกิลนี้เมื่อกดใช้จะฟื้นฟูพลังชีวิตให้กับตัวเองและเพื่อนในปาร์ตี้รอบๆทันทีและสกิลนี้ถือเป็นหัวใจหลักของอาชีพนี้เลยก็ว่าได้และยังเป็สกิลฮิลหลักอีกด้วย ด้วยการที่สกิลมีคูลดาวน์ที่ไม่นานและร่ายทันทีที่กดใช้อัพเต็มแบบไม่ต้องคิดเลย (อัพเต็ม 5)
Resurrection: สกิลนี้เมื่อกดใช้จะเป็นการชุบชีวิตเพื่อนในปาร์ตี้ขึ้นมา ซึ่งสามารถใช้ได้ดีใน PVE และการอัพเยอะๆก็ไม่ช่วยอะไรมากหนักจึงไว้ใช้งานแค่ 1 ก็เพียงพอ (อัพไว้ 1)

บทความจาก OS Magazine ฉบับที่ 651

คำที่เกี่ยวข้อง

สมัครรับข่าว OS

คุณอาจสนใจเรื่องนี้