ตลาดเกมบนเครื่องมือถือนั้นมีแนวโน้มเติบโตขึ้นมาอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว ซึ่งนับตั้งแต่ปี 2012 เป็นต้นมา โพลสำรวจจาก NPD Group ที่เป็นบริษัทสำรวจความต้องการของผู้บริโภคในตลาดก็พบว่าทั้งจำนวนและเวลาที่ใช้ในการเล่นเกมมือถือของเหล่าเกมเมอร์นั้นสูงขึ้นจริงๆ
ข้อมูลเปรียบเทียบเกี่ยวกับผู้เล่นเกมบนมือถือในช่วงปีที่ผ่านมา
ซึ่งจากการสำรวจในกลุ่มตัวอย่าง 5,566 คนที่เป็นเกมเมอร์สายเกมมือถือในตลอดสองปีนั้น ผลปรากฏว่าพวกเขามีค่าเฉลี่ยในการเล่นเกมมือถือต่อวันมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด จากวันละ 20 นาทีกลายมาเป็น 1ชั่วโมงภายในระยะเวลาสองปี ซึ่งเหตุผลในเรื่องนี้ Liam Callahan นักวิจัยการตลาดจาก NPD กล่าวว่า "ในปัจจุบันนี้ การเติบโตของเกมแนว Free to Play มีแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างมาก และการที่เกมมีรูปแบบการเล่นแบบนี้ทำให้เป็นการกระตุ้นผู้เล่นให้อยากเอาชนะมากขึ้น เพราะมันต้องอิงกับค่าพลังงานในเกมเป็นหลักจึงจะสามารถเล่นต่อได้ และถ้าหากจะเล่นต่อก็ต้องจ่ายเงินเพิ่ม และด้วยเหตุนี้ ทำให้มีการเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วภายในระยะเวลาไม่กี่ปี"
แนวโน้มที่ผู้เล่นจะเติมเงินเพื่อเล่นเกมแบบ Free to Play ในมือถือนั้นมีมากขึ้นเรื่อยๆ แม้ผู้เล่นเหล่านั้นจะถูกตราหน้าว่าเป็นผู้เล่นแบบ Casual Player หรือพวกที่เล่นแต่เกมง่ายๆ ไม่ซับซ้อน แต่เพราะความที่มันเข้าถึงได้ง่ายและไม่ซับซ้อนนี่เอง ทำให้มีผู้คนจำนวนมากเล่นเกมเยอะขึ้น ซึ่งแน่นอนว่าพวกเขาเหล่านี้หลายๆคนยอมที่จะจ่ายเงินเพื่อเล่นเกมอย่างต่อเนื่องโดยที่ไม่ต้องรอเวลาอีกด้วย แต่จากการศึกษาเพิ่มเติมก็พบว่า ผู้เล่นเกมมือถือจำนวนถึง 1ใ น 5 คนนั้นเป็นผู้เล่นเกมบน PC และ Console ด้วย
ส่วนการใช้จ่ายเงินสำหรับการเล่นเกมนั้น ในช่วงอายุ 25 - 44 ปี จะมีการจับจ่ายมากที่สุด ส่วนในช่วงวัย 2 - 12 ปีนั้นมากเป็นอันดับสอง(ซึ่งก็อนุมานได้ว่า วัยนี้ยังไม่มีกำลังซื้อมากพอ แต่ก็มาจากเงินของผู้ปกครองนั้นเอง) นอกจากนั้น วัย 2 - 12 ปีนั้นจะใช้เวลาในการเล่นเกมมากที่สุดมากกว่าทุกวัยอีกด้วย
แม้ตลาดเกมแนว Free to Play จะเติบโตขึ้นอย่างไม่หยุด แต่ตลาดเกมแบบซื้อขาดนั้นก็ยังคงอยู่ได่ในทางตัวเอง
ที่มา ign.com