King Power แนะนำอาชีพสายนักเวทย์

แชร์เรื่องนี้:
King Power แนะนำอาชีพสายนักเวทย์

อีกอาชีพหนึ่งที่หลายๆ คนสนใจ เพราะไม่ว่าจะเป็นเกมไหนๆ อาชีพจอมเวทก็มีจุดเด่นที่มีสกิลเวทที่รุนแรงและสกิลหมู่ที่ทรงพลัง สำหรับเกม King Power เมื่อเลเวล 20 เราจะเลือกอาชีพได้สองสาย มาดูกันดีกว่าว่าแต่ละสายอาชีพในขั้นที่สองมีสกิลไหนเด็ดๆ กันบ้าง

อาชีพเริ่มต้น
นักเวทย์ (Mage)

อาวุธที่ใช้ : คทาเวทย์
เกราะที่ใช้ : เกราะผ้า
สามารถใช้เวทมนตร์ได้จากในระยะไกลแล้วยังมีสกิลโจมตีเป็นกลุ่มตั้งแต่ช่วงแรก จึงเป็นอาชีพที่ลุยง่าย เนื่องจากตอนก่อนเลเวล 20 ศัตรูยังโจมตีเบามาก จึงไม่ต้องกังวลเรื่องปล่อย AI ลำบาก ผ่านคนเดียวได้สบาย

เปลี่ยนอาชีพครั้งที่ 1
เมื่อเลเวล 20 จะเลือกอาชีพครั้งแรกได้ และจะเปลี่ยนอาชีพครั้งที่ 2 ได้ตอนเลเวล 50

นักเวทย์ไฟ (Fire Mage)
อาวุธที่ใช้
: คทาเวทย์
เกราะที่ใช้ : เกราะผ้า
อาชีพขั้นต่อไป :  ทูตเถ้าธุลี
ชำนาญเวทมนตร์โจมตีเป็นกลุ่มมากเป็นพิเศษ เหมาะกับการลงดันเจี้ยนพร้อมกับเพื่อนในปาร์ตี้ หรือการต่อสู้แบบตะลุมบอนหลายคนจะช่วยเหลือทีมได้เป็นอย่างดีจากเวทมนตร์ที่ทรงพลัง
ข้อเสียอยู่ตรงที่พลังชีวิตน้อย อีกทั้งสกิลเอาตัวรอดก็น้อยเพราะสกิลติดตัวก็ไปเสริมพลังโจมตีให้แรงขึ้นแบบสุดๆ จนไม่เหลือสกิลเสริมที่ช่วยเพิ่มความอึด การเล่นต้องใช้การควบคุมที่มากหน่อย โดยเฉพาะการปล่อย AI ที่มีโอกาสโดนรุมได้ง่ายจากผลของสกิลที่กว้าง ถ้าหาคนปาร์ตี้หน่อยจะเล่นง่ายขึ้น

สกิลโจมตี
เปลวไฟแตกร้าว : โจมตีด้วยลูกไฟแล้วแตกเป็นวงกว้างในระยะ 3 หลา

ลมหายใจเปลวเพลิง : พ่นเปลวไฟขนาดใหญ่ไปด้านหน้า สร้างความเสียหายแก่ศัตรูทั้งหมดที่โดน

ระเบิดลาวา : โจมตีศัตรูโดยรอบตัวเองด้วยเปลวเพลิง (ต้องการสกิลสายนักเวทย์เพลิง 20 จุด)

สกิลติดตัว
เกราะผ้าเปลวเพลิง : ทำให้ติดตั้งเกราะผ้าและคทาเวทย์ได้

ไฟเสียหาย : ทำให้ค่าปัญญาช่วยเพิ่มพลังโจมตีเวทมนตร์

เถ้าถ่าน : ทำให้เปลวไฟแตกร้าวสร้างความเสียหายเพิ่มขึ้น (ต้องการสกิลสายนักเวทย์เพลิง 10 จุด)

ไฟทำลาย : ทำให้ค่าปัญญาช่วยเพิ่มพลังโจมตีเวทมนตร์มากยิ่งขึ้นเพิ่มจากสกิลไฟเสียหาย (ต้องการสกิลสายนักเวทย์เพลิง 10 จุด, ไฟเสียหาย 5 จุด)

เปลวเพลิงเผาไหม้ : ทำให้สกิลทุกอย่างที่ใช้ มีผล “เปลวเพลิงเผาไหม้” สร้างความเสียหายเพิ่มขึ้น (ต้องการสกิลสายนักเวทย์เพลิง 10 จุด)

สั่นสะเทือน : ระเบิดลาวา ทำให้ศัตรูที่อยู่ใกล้ๆ ทั้งหมดได้รับผลของการสลบ (ต้องการสกิลสายนักเวทย์เพลิง 20 จุด, ระเบิดลาวา 5 จุด)

ปะทะเปลวเพลิง : ทำให้ทุกสกิลเพิ่มความเสียหายเพิ่มมากขึ้น (ต้องการสกิลสายนักเวทย์เพลิง 20 จุด, เปลวไฟเผาไหม้ 5 จุด)

ฑูตน้ำแข็ง (Ice Mage)
อาวุธที่ใช้ : คทามาร
เกราะที่ใช้ : เกราะหนัง
อาชีพขั้นต่อไป :  จิตน้ำแข็ง
ต่างจากนักเวทไฟ ตรงที่สามารถใช้เกราะหนังที่พลังป้องกันดีกว่าได้, ระดับพลังชีวิตสูงกว่า แต่พลังโจมตีของสกิลเป็นรองนักเวทย์ไฟอยู่ ด้านสกิลจะเน้นการหยุดหรือลดความเร็วศัตรูไม่ให้เข้าใกล้ แล้วใช้เวทน้ำแข็งยิงจากระยะไกล

อาชีพนี้จะไปทางสาย PVP มากกว่า เหมาะกับคนที่ชอบระบบ PVP ใช้จุดเด่นของสกิลน้ำแข็งในการหยุดศัตรูได้ด้วย

สกิลโจมตี
ปะทะหน้าหนาว : สร้างความเสียหายแก่ศัตรูเป้าหมาย

ยุคน้ำแข็ง : สร้างความเสียหายต่อเนื่องรอบตัว พร้อมลดความเร็วการเคลื่อนที่ของศัตรู

ทะลวงภูเขาน้ำแข็ง : สร้างความเสียหายต่อศัตรูเป้าหมายอย่างรุนแรง (สกิลสายทูตน้ำแข็ง 20 จุด)

สกิลติดตัว
เกราะหนังน้ำค้างแข็ง : ทำให้ใส่เกราะหนังและคทามารได้

น้ำแข็งคุ้มกาย : เพิ่มพลังป้องกันมากขึ้นตามค่ามุ่งมั่นที่มี

หนาวพอง : สกิลปะทะลมหนาวมีผลของ “หนาวพอง” ลดความเร็วเคลื่อนไหวของเป้าหมายและสร้างความเสียหายเล็กน้อยต่อเนื่อง (ต้องการสกิลสายทูตน้ำแข็ง 10 จุด)

เส้นเลือดน้ำแข็ง : ทำให้ค่ามุ่งมั่นเพิ่มพลังโจมตี (ต้องการสกิลสายทูตน้ำแข็ง 10 จุด, น้ำแข็งคุ้มกาย 5 จุด)

แช่แข็ง : เพิ่มความเสียหายของสกิลยุคน้ำแข็ง และมีโอกาสทำให้ศัตรูติดสถานะอัมพาต (ต้องการสกิลสายทูตน้ำแข็ง 10 จุด, ทะลวงภูเขาน้ำแข็ง 5 จุด)

จิตน้ำแข็ง : ลดความเสียหายที่ได้รับลง (ต้องการสกิลสายทูตน้ำแข็ง 20 จุด)

พุ่งชน : ทำให้สกิลทะลวงภูเขน้ำแข็ง มีผลลดความเร็วหรืออัมพาตเพิ่มขึ้น (ต้องการสกิลสายทูตน้ำแข็ง 20 จุด, ทะลวงภูเขาน้ำแข็ง 5 จุด)

สรุป ถ้าชอบสาย PVP ก็แนะนำให้เลือกไปทางทูตน้ำแข็งจะดีกว่า แต่ถ้าชอบแบบ PVE และช่วยปาร์ตี้ได้มากก็ไปทาง นักเวทย์ไฟ จะดีกว่า

แชร์เรื่องนี้:

เรื่องที่คุณอาจสนใจ