เราว่าเสียงที่ดีของหูฟังแบรนด์ HYPERX นี่จัดว่าใช้ได้แล้วนะ แต่อย่างว่าก็คงไม่อยากให้มาเฉพาะหูฟังอย่างเดียวเป็นแน่ เพราะทาง HYPERX ก็ปล่อยคีย์บอร์ดออกมาลุยตลาดกันได้ในที่สุด ซึ่งเป็นสิ่งที่ตรงไปตามคาด เพราะเร็วๆ นี้ก็อาจจะมีเม้าส์รุ่นล่าสุดมาด้วยเช่นกันครับ HYPERX ALLOY FPS MECHANICAL GAMING KEYBOARD เป็นคีย์บอร์ดรุ่นแรกจาก HYPERX ซึ่งเป็นการขยายสินค้าจากที่มีเพียงหูฟังอย่างเดียวออกมาให้ชาวเกมเมอร์ได้ลองสัมผัสกัน จะเป็นอย่างไรกันบ้าง เรามาลุยกันเลย
เห็นแค่กล่องก็คันไม้คันมืออยากแกะขึ้นมาทันที ดีไซน์แพคเกจของตัวกล่องออกแบบมาได้ดูดีมีชาติตระกูลไม่แพ้กับหูฟังครับ โดยการตั้งชื่อของเจ้าตัวนี้ผมเดาว่ามาจากรูปทรงที่แข็งแรง และดูแข็งแกร่ง แต่ถ้าให้เอาแบบเกรียนๆ “อัลลอย” มาจากคีย์อันที่มันลอยๆ ตามที่เค้าออกแบบนั่นเองล่ะครับ ฮ่าๆ สำหรับสวิตช์ที่ใช้เป็น Cherry MX Switch ซึ่งรุ่นที่วางจำหน่ายในไทยตอนนี้คือ Blue และ Brown ครับ
เปิดกล่องของ HYPERX ไม่ว่าอะไรก็ตาม บอกเลยว่าไม่เคยผิดหวัง เพราะด้วยความพรีเมี่ยมต่างๆ ที่ HYPERX จัดสรรใส่มาให้ในกล่องถือว่าครบเครื่องดีจริงๆ ครับ ไม่ว่าจะเป็นการ์ดขอบคุณผู้ซื้อ และอุปกรณ์ภายในกล่อง ซึ่ง HYPERX ALLOY FPS ตัวนี้มีแถมซองใส่คีย์บอร์ดมาให้ด้วย โดยซองที่ให้มาก็ไม่ใช่แบบธรรมดา เพราะให้มาเป็นเกรดเดียวกับตัวที่ใส่หูฟังมาเลยครับ นุ่มและถ่ายเทอากาศได้ดี และมีคีย์แคปมาให้เปลี่ยนอีก 1 ชุดสำหรับแฟนๆ FPS และ MOBA เป็นปุ่มที่มียางเกาะใช้งานได้ดี ความพรีเมียมตรงนี้ให้ 9.5 ไปเลย
คีย์แคปสีแดงสดลายพื้นรถเมล์ช่วยในการยึดเกาะ ใครอยากเปลี่ยนก็เอาชุดนี้เปลี่ยนได้เลย
สาย USB แบบถอดเสียบได้ของ HYPERX ALLOY FPS เป็นสายถักอย่างดีมีลายจุดแดงคุณภาพดี จะเห็นได้ว่ามีหัว USB 2 หัวซึ่งสายแรกเอาไว้สำหรับคีย์บอร์ด ส่วนอีกสายสำหรับชาร์จไฟครับ ส่วนชาร์จอะไรนั้น รออ่านข้างล่างน้าา
รูปชัดหน้าตรงทั้งด้านหน้าและด้านหลังของตัวคีย์บอร์ด จะเห็นได้ว่า HYPERX ALLOY FPS ออกแบบมาให้มีดีไซน์คลาสสิคแบบไร้ขอบ เพื่อให้ขนาดของมันมีขนาดที่กระทัดรัดมากที่สุด ปราศจากมาโครคีย์หรือปุ่มอื่นใดเพิ่มเติม ทรงแบบนี้เป็นที่นิยมกันนักแล
รูประดับความสูงจากด้านหน้าและด้านข้าง แสดงให้เห็นว่าเจ้า HYPERX ALLOY FPS มีขนาดที่ค่อนข้างเตี้ยเอามากๆ ทำให้วางข้อมือได้ค่อนข้างสบาย หากใครไม่ถนัดล่ะก็ มีขาปรับตั้งสูงขึ้นอีก 3 องศาครับ แถมน้ำหนักที่ค่อนข้างเบากว่าตัวคีย์บอร์ดแมคคานิคัลตัวอื่นๆ ที่ผมได้เคยสัมผัสมา แถมตัวคีย์แคปที่ให้มาจะสังเกตได้ว่าช่วงกลางนั้นมีความเตี้ยน้อยที่สุด ใครที่จะเอาคีย์แคบมาเปลี่ยนให้ดูตรงจุดนี้ก่อนละกันเน้อ
ที่นี้มาดูรูปหน้าตรงของตัวคีย์กันอีกทีครับ ทรงของคีย์แคปทางด้านหน้าเป็นรูปทรงปกติครับ ระยะห่างมาตรฐาน ตัวที่วางขายมีแป้นพิมพ์แบบภาษาไทยมาให้ มีไฟ LED Backlit เป็นสีแดงและสามารถปรับความสว่างได้ สำหรับ HYPERX ALLOY FPS ไม่ได้มีการออกแบบฟังก์ชั่นลูกเล่นอย่างอื่นเพิ่มเติม มีเพียงฟังก์ชั่นปุ่มมัลติมีเดียและปุ่มสั่งปิดปุ่ม Windows เท่านั้นครับ
ถอดคีย์แคปแล้วมาให้ดูสวิตช์ของ HYPERX ALLOY FPS ตามอย่างที่กล่าวข้างต้นเจ้านี้ใช้ Cherry MX Switches โดยตัวที่ผมได้รับมาทดสอบเป็น Blue Switch ซึ่งเป็น Tactile Switch กดสองชั้นเน้นเสียงดังที่ออกแรงกดราวๆ 60 กรัมครับ ส่วนจุดขาวๆ นั่นก็ไฟ LED นั่นแล
ไฟเมื่อทำงานแล้วสีแดงเข้มครับ แสงที่ออกจะเข้มกว่าในรูป เนื่องจากผมถ่ายแล้วมีใช้แฟลชไปด้วย
พอร์ตด้านหลังที่เป็น USB Type-B เอาไว้สำหรับต่อสายคีย์บอร์ดเข้ากับพีซีหรือโน้ตบุ๊ก ส่วน USB Type-A ตัวนั้นไว้สำหรับต่อชาร์ตสมาร์ทโฟนจ้า
เป็นไงบ้าง?
ด้วยความที่ผมเป็นคนชอบความเรียบง่าย ไม่ต้องมีมาโครอะไรให้วุ่นวาย ดังนั้นในเรื่องของความใช้งานที่ผมคิดเป็นอย่างแรกคือเจ้าตัวนี้ทำงานได้เป็นอย่างดีครับ เพราะมี Cherry MX Switches ที่ใช้งานในตัว แถมด้วยความที่ดีไซน์เป็นแบบกระทัดรัด และถอดสายได้ แถมมีถุงใส่มาให้ด้วย ทำให้เรื่องของการใช้งานและการพกพา โดยเฉพาะสายแข่งเอาไปให้ก็น่าสนใจไม่น้อย ส่วนในเรื่องของราคาที่วางจำหน่ายไม่ได้ถือว่าถูก แต่ก็นับว่าคุ้มค่าต่อเงินที่เสียไปอยู่ครับ ดังนั้นใครที่อยากลองอยากสัมผัส จัดไป!!