พรีวิวในรอบนี้เป็นรอบพิเศษครับ เนื่องจากอย่างที่รู้กันว่าเมนบอร์ดรุ่นนี้ไม่ได้เป็นเมนบอร์ดชิพเซ็ตรุ่นใหม่ล่าสุดเพื่ออกมารองรับซีพียูอินเทลตัวใหม่ แต่ไว้รองรับตัวเดิม เพิ่มเติมคือเจ้าบอร์ดตัวนี้ดีไซน์ออกมาเพื่อร้านเน็ต แต่ไม่จำเป็นร้านเน็ต เพราะเกมเมอร์อย่างเราก็เอามาใช้ได้ด้วยเช่นกัน วันนี้ผมเลยหยิบเจ้าบอร์ดตัวนี้มาให้ชมกันครับ
ASUS B85M-F PLUS เป็นเมนบอร์ดในที่ใช้ชิพเซ็ต Intel B85 Chipset ซึ่งใช้ Socket LGA 1150 รองรับซีพียูอินเทลรุ่นที่ 4 อย่างพวกอินเทลตระกูล Haswell นั่นเองแหละครับ ซึ่งรุ่นนี้จะเป็นรุ่นที่ออกแบบมาเพื่อร้านเน็ตตามข้างต้น และเหมาะกับเกมเมอร์ด้วยเช่นกัน กล่องหน้าตาประมาณนี้เลยแหละ
เมนบอร์ดรุ่นนี้จะมีฟีเจอร์บางตัวที่เราไม่ค่อยเห็นกันแน่นอน แต่ไม่ต้องห่วงนะ เจ้าบอร์ดตัวนี้ทำงานได้ดีและรองรับการทำงานระบบปฏิบัติการล่าสุดอย่าง Windows 10 ได้สบายแน่นอน
มาถึงตัวบอร์ดเป็นๆ เจ้าบอร์ดตัวนี้มีขนาด Micro-ATX ซึ่งเป็นเมนเบอร์ดขนาดเล็ก เพราะส่วนมากร้านเน็ตจะไม่ค่อยเน้นเครื่องขนาดใหญ่อยู่แล้ว เพราะติดตั้งแค่การ์ดจอและแรมใส่เครื่องเพียงเท่านั้นจบ ดังนั้นขนาดแบบนี้ ก็นับว่าโอเคแล้วสำหรับใช้งาน ถึงแม้ว่าหน้าตามันดูไม่น่าแข็งแรง แต่เจ้าตัวนี้ผมบอกเลยว่าแข็งแรงแน่นอนครับ เพราะมันถูกออกแบบมาให้ใช้งานได้ทนทรหด ซึ่งร้านเน็ตบ้านบ้างร้านจะเปิดบริการตลอด เครื่องจะต้องทำงานอยู่ตลอดเวลาคือไม่ปิดเครื่องเลยนั่นเอง สำหรับด้านหลังนั้นไม่มีส่วนใดๆ เป็นพิเศษ
ดูที่ตัว Socket และชุดภาคจ่ายไฟกัน เจ้าตัวนี้ใช้ภาคจ่ายไฟเพียง 3 เฟสเท่านั้น เพราะร้านเน็ตเต็มที่จะใช้ Intel Core i3 หรูหน่อยก็ Core i5 โดยซีพียูทั้งคู่ไม่ได้กินไฟมากและบอร์ดก็โอเวอร์คล็อคไม่ได้ ดังนั้นเท่านี้ก็เหลือๆ เลย
ฟีเจอร์เด่นของเมนบอร์ดตัวนี้ที่ไม่ดฟมือนตัวอื่นนั่นคือ Humidity Proof คือตัวเมนบอร์ดมีการเคลือบสารชนิดพิเศษเพื่อป้องกันความชื้นที่จะเกิดขึ้นกับตัวเมนบอร์ด ยกตัวอย่างเช่น อากาศที่ชื้นมากๆ อย่างโดนใกล้ระยะแอร์ หรือหน้าฝนที่อาจจะมีละอองเข้ามา เจ้าตัวนี้ก็จะปกป้องเมนบอร์ด และทำให้เครื่องทำงานได้แบบไร้ปัญหา
CPU Anti-Theft เป็นฟีเจอร์ง่ายๆ ซึ่งเหมาะเอาไว้กันขโมย โดยเค้าจะมีน็อตตัวพิเศษสีแดงเอาไว้เปลี่ยนหลังจากที่ติดตั้งซีพียูไปแล้ว และติดตั้งน็อตสีแดงตัวนี้แทนตัวเดิม หัวขโมยก็ไม่สามารถเปิด Socket เพื่อขโมยซีพียูเราไปได้ง่ายๆ แถมหัวน็อตก็เป็นหัวขันแบบพิเศษด้วย กว่าจะเอาไปได้ เจ้าของร้านก็คงตรวจเจอก่อนแล้วเป็นแน่นอน
สำหรับแรมยังคงใช้ DDR 3 รองรับบัสที่ 1600 MHz มีให้จำนวน 2 สล็อต ซึ่งนั่นก็มากพอ
Expansion Slot มี PCI Express x16 จำนวน 1 ช่องเอาไว้ติดตั้งการ์ดจอ และ PCIe 1X อีก 2 ช่อง สำหรับใส่อุปกรณ์อื่นๆ เพิ่มเติม
พอร์ต SATA 6GBps มีให้ 3 พอร์ต ซึ่งร้านเน็ตก็ไม่ได้ใช้อะไรมากมาย เท่านี้เหลือๆ
เอซุสยังมีอารมณ์เล่นสีสันเล็กน้อยตรงบอร์ดด้วยการใส่ LED บริเวณส่วนของตำแหน่ง Sound on board มาให้แบบสีแดง
พอร์ตการเชื่อมต่อหรือ I/O ยังคงมี PS2 สำหรับเมาส์และคีย์บอร์ดรุ่นเก่ามาให้ และยังมี DVI / D-sub สำหรับต่อมอนิเตอร์กรณีเครื่องใช้กราฟิกจากตัวซีพียู ทิ้งท้ายด้วย Gigabit LAN, USB 2.0 และ USB 3.0 อย่างละ 2 พอร์ต ถ้าไม่พอ ตัวเมนบอร์ดยังมีให้ต่อกับทางด้านหน้าอีกอย่างละ 2 นะ และท้ายจริงๆ คือระบบเสียง
ผมมีการทดสอบไปบ้างเล็กน้อย แต่ขออนุญาตเอาไว้ในบทความเพิ่มเติมต่อไปแล้วกันครับ แต่จากการทดสอบ ASUS B85M-F PLUS สามารถทำงานได้เป็นอย่างดี ซึ่งบอร์ดถูกออกแบบมาให้ใช้งานได้ทนทานมากขึ้น รองรับสำหรับร้านเน็ตเล่นเกมสไตล์บ้านเราได้เป็นอย่างดี ด้วยวัสดุและสารเคลือบพิเศษกันชื้น ทำให้บอร์ดมีความทนทานมากขึ้นด้วย และสำหรับเจ้าของร้านเน็ตเองก็ยังมีชุดน็อตพิเศษเพื่อกันขโมยได้ในตัว และเท่าที่ผมสอบถามมา ราคาบอร์ดนั้นไม่ได้แพงเลย แต่ะใช้งานได้เป็นอย่างดี ก็ต้องยกนิ้วให้เอซุสเลยล่ะครับ