Seagate FireCuda Solid State Hybrid Drive ฮาร์ดดิสก์เร็วว่องไว ความจุขนาดใหญ่ แต่ไซส์บางมว๊ากก

แชร์เรื่องนี้:
Seagate FireCuda Solid State Hybrid Drive ฮาร์ดดิสก์เร็วว่องไว ความจุขนาดใหญ่ แต่ไซส์บางมว๊ากก

 

ต้องยอมรับอย่างนึงว่าถึงแม้ Solid State Drive หรือ SSD ที่มันเร็วปรู๊ดปร๊าดทันใจ ที่มีความจุในปัจจุบันกว่า 1TB วางจำหน่ายแล้วก็ตามที แต่ราคาที่จะต้องแลกกับการได้มานั้นไม่ใช่น้อยๆ เลย เพราะราคาก็ปาเข้าไปเกือบ 1 หมื่นบาท ดังนั้นสิ่งที่ยังจำเป็นต้องนำมาใช้งานควบคู่ไปด้วยก็ยังคงเป็นฮาร์ดดิสก์นี่แหละครับ

 

แต่อะไรที่จะมีความจุเท่ากับฮาร์ดดิสก์ และสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ไวไล่ๆ กับ SSD ล่ะ? จะดีกว่ามั้ยถ้าฮาร์ดดิสก์สามารถเข้าถึงข้อมูลได้เร็วมากพอเท่ากับ SSD ธรรมดาทั่วไป? ดังนั้น Solid State Hybrid Drive เป็นคำตอบและทาง Seagate เองก็ได้ทำการปล่อยสู่ตลาดมาได้สักพักแล้ว ด้วยความที่มีการเปลี่ยนแปลงรุ่นและทำให้จำง่าย รวมกับการเจาะจงให้เกมเมอร์ทำความเข้าใจเกี่ยวกับเจ้า SSHD ตัวนี้ว่าดียังไง ทางทีมงาน Seagate จึงได้ทำการส่งเจ้า Seagate FireCuda มาให้ทีมงานได้ทดสอบกันครับ

 

Seagate FireCuda คือชื่อรุ่นใหม่ที่ให้ความสำคัญในการเข้าถึงข้อมูลที่รวดเร็ว ให้ความจุได้มาก และมีขนาดที่บางเทียบเท่ากับ SSD 2.5” ตัวนึงเลย โดยรุ่นที่เราได้รับมานั้นมีความจุมากถึง 2TB หรือ 2000GB และยังมีขนาดรองลงมาอย่างเช่น 1TB และ 500GB ให้เลือกใช้งานอีกด้วย เจ้าตัวนี้มีความบางเพียง 7 มม. ซึ่งมีความบางพอกับ SSD อย่างที่กล่าวไว้เมื่อครู่

 

ทำไมถึงต้องทำให้บาง? Seagate ทำการตอบโจทย์เกมเมอร์ให้มากขึ้น เนื่องจาก Gaming PC ในปัจจุบันบางรุ่นมีขนาดที่ค่อนข้างเล็กมาก รวมถึง Gaming Notebook ในปัจจุบันเองก็ใช้ฮาร์ดดิสก์ขนาด 7 มม. เช่นกัน อย่างเช่น MSI GS63VR 6RF Stealth Pro แต่ฮาร์ดดิสก์ที่ให้มานั้นเป็นเพียงฮาร์ดดิสก์ธรรมดากับความจุเพียง 1TB เท่านั้น ดังนั้น เพื่อการทดสอบในครั้งนี้ ผมจึงไม่รอช้านำเจ้า Seagate FireCuda มาทำการทดสอบในโน้ตบุ๊กเครื่องนี้เลยครับ

 

 

จากที่เห็นในตัวของ MSI GS63VR 6RF STEALTH PRO ติดตั้งฮาร์ดดิสก์ขนาด 7mm ความจุ 1TB เอาไว้ ซึ่งในปัจจุบันยังไม่ค่อยเห็นฮาร์ดดิสก์ตัวไหนที่มีความจุมากกว่า 1TB ในแบบ 7mm. ดังนั้นถอดเปลี่ยนเลยครับ จะรออะไร

 

เมื่อแกะของเดิมออกมา ทาง MSI ก็ใช้ฮาร์ดดิสก์ของ Seagate ในรุ่น Barracuda ขนาด 1TB ความเร็ว 5400 รอบมาใช้งาน (ด้านซ้าย) ส่วน Seagate FireCuda คือตัวฉลากใหม่สีเขียวดำแกมส้มตัวนี้ ซึ่งมีความหนาเท่ากันคือ 7mm แต่ให้ความจุมากกว่าถึง 2 เท่าคือ 2TB ในความหนาเท่ากัน

 

 

จากในการทดสอบครั้งแรกจะเห็นได้ว่าความเร็วในการอ่านเขียนของ Seagate FireCuda ยังมีความเร็วเทียบเท่ากับฮาร์ดดิสก์ทั่วไปเนื่องจากผมได้ทำการใส่ไฟล์ต่างๆ ลงไป และเป็นการใช้งานในครั้งแรก แต่เมื่อมาถึงในการทดสอบครั้งที่ 2 จะเห็นได้ว่าความเร็วในการอ่านเขียนไม่ต่างกันมาก แต่สิ่งที่ต่างกันมากขึ้นนั่นคือ Access Time หรือเวลาในการเข้าถึงข้อมูลนั้นไว้ขึ้น จนกระทั่งการทดสอบล่าสุดในครั้งที่ 3 (ตามรูปด้านล่าง) จะเห็นได้ว่า Access Time เหลือเพียง 0.242 ms จากครั้งแรกกว่า 18.3 ms ซึ่งจะเห็นได้ว่าเวลา AccessTime เทียบเท่ากันกับ SSD ในแบบ NVMe เลยทีเดียว

 

คำถาม: แล้วมันดียังไง? ปกติแล้วเวลาการเข้าถึงหรือค้นหาข้อมูลจะใช้เวลาที่ค่อนข้างช้าสำหรับฮาร์ดดิสก์ และกว่าจะเรียกไฟล์ทำงานในแต่ละครั้งทำให้ต้องใช้เวลานานขึ้น ตรงข้ามกับ Seagate FireCuda เมื่อ Access Time ไวขึ้น มันก็สามารถเข้าถึงข้อมูลและส่งผ่านไฟล์งานได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ในช่วงการเล่นเกมที่ตรงโหลดเฟรมต่างๆ นั้นไวขึ้น และช่วยขยับเฟรมเรตขึ้นมาได้ ซึ่งส่วนทางกับฮาร์ดดิสก์ธรรมดาเมื่อเข้าถึงข้อมูลช้าก็ส่งผลกระทบต่อเฟรมเรตทำให้มีการดรอปมาบางจังหวะ ซึ่งนั่นไม่ใช่เรื่องที่ดีต่อการเล่นเกมแน่ๆ 

 

สรุปแล้วสำหรับเจ้า Seagate FireCuda นั้นผมได้แสดงให้เห็นแล้วว่ามันไม่ได้อ่านเขียนความเร็วเท่า SSD ถึงแม้มันจะเป็น Hybrid Drive ก็ตาม แต่หน้าที่ของ SSD Cache เป็นการระบุตำแหน่งไฟล์ข้อมูลที่เก็บข้อมูลไว้ และทำให้การเข้าถึงข้อมูลรวดเร็วขึ้น เล่นเกมได้ดีขึ้นในกรณีที่เราลงเกมในตัว FireCuda นี้ ซึ่งผมได้ลองเล่นกับ Gears of Wars 4 ซึ่งขนาดเกม 80GB ผมเองไม่สามารถเอาติดตั้งลง SSD ที่มีอยู่ขนาด 256GB ไหวได้เพราะมีเกมอื่นแล้ว ผลที่ได้คือการเล่นเกมมีเฟรมเรตที่ดีขึ้น และลดจังหวะที่เฟรมเรตดรอปน้อยลง ดังนั้นถือว่าเจ้านี้แสดงประสิทธิภาพและเหมาะกับการเล่นเกมได้ดีเลยละครับ ใครที่สนใจก็สามารถเป็นเจ้าของได้แล้ว เพราะวางจำหน่ายตามร้านไอทีชั้นนำแล้วครับ 

แชร์เรื่องนี้:

เรื่องที่คุณอาจสนใจ