ยุคนี้เป็นยุคที่ Solid State Drive หรือที่เรียกกันสั้นๆ ว่า SSD เป็นช่วงที่ราคาน่าคบหาเป็นอย่างมาก จะเห็นได้ว่าขนาด 250GB ราคาอยู่ที่ประมาณสามพันกลางๆ ซึ่งถ้าเทียบกับเมื่อ 2-3 ปีก่อน ราคาอย่างน้อยก็ 8,900 บาทเข้าไปแล้ว ดังนั้นหากการที่จะมี SSD ไว้ใช้สักตัว มันก็น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะอย่างผมเองก็เลือกใช้ SSD มานานแล้ว ทำไมน่ะเหรอ “เพราะมันคือเรื่องของความเร็ว” ไงล่ะครับ
ความแตกต่างระหว่างการใช้ฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุนนั้น ต่างกันอยู่มากทั้งในเรื่องของขนาด ความเร็ว และความทนทาน เพราะขนาดของ SSD นั้นมีขนาดเทียบเท่ากับฮาร์ดดิสก์ 2.5” แต่มีความเร็วที่มากกว่าฮาร์ดดิสก์ 5 – 10 เท่า ซึ่งเป็นความเร็วที่สูงมาก ถ้าว่าเร็วมากแล้วเอาไปทำอะไร? ดีกว่ายังไง? ผมขอยกตัวอย่างไปทีละอย่างเนอะ
เข้าวินโดวส์ได้ในเวลาอันสั้น
ฮาร์ดดิสก์ปกติใช้เวลาในการเข้าวินโดวส์อย่างน้อยก็เล่นเราไป 2-3 นาทีแล้วล่ะ ถ้าเครื่องเก่าๆ ช้าหน่อยก็อย่างน้อยเล่นกันไปเกิน 3 นาทีหรืออย่างเร็วสุดก็ต่ำกว่า 2 นาที แต่สำหรับ SSD น่ะหรอ ใช้เวลาเพียง 20-30 วินาทีเท่านั้นเอง ซึ่งสั้นกว่ามาก
เข้าใช้โปรแกรมได้ในชั่วพริบตา
นอกจากทำให้เข้าวินโดวส์ได้เร็วแล้ว ยังช่วยให้เข้าใช้งานโปรแกรมต่างๆ ได้เร็วขึ้นเช่นกัน หากยกตัวอย่างการทำงานทั่วไปเช่น Adobe Photoshop หรือ Lightroom ก็ต้องใช้เวลาในการเรียกโปรแกรมได้ในเวลาไม่กี่วินาที ส่วนเกมอย่าคิดว่าเล่นเกมใช้แค่ ฮาร์ดดิสก์ธรรมดาก็เหมือนๆ กันนะเออ เพราะด้วยความที่ตัวเกมที่ต้องใช้พื้นที่หรือความจุมากขึ้น ขนาดไฟล์ก็จำนวนมากขึ้นด้วยเช่นกัน ถ้ายังมัวมานั่งใช้แต่ฮาร์ดดิสก์อย่างเดียวก็คงต้องนั่งรอกันไปแล้วยังให้คนอื่นที่เล่นออนไลน์พร้อมกันรอเราไปด้วยเช่นกัน
เล่นเกมได้ไม่มีสะดุด
นอกจากความเร็วในการเรียกตัวเกมได้ว่องไวขึ้นแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่จะได้เพิ่มขึ้นมานั้นคือความลื่นไหลในการเล่นเกม ยกตัวอย่างถึงแม้เครื่องจะเร็วแรงแค่ไหน แต่ถ้าหากใช้ฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุนเป็นหลักเวลาเจอเกมที่ต้องเรียกใช้งานไฟล์มากๆ อย่างเช่น Grand Theft Auto 5 จะเห็นได้ว่ามีอาการเฟรมเรตตกหรือกระตุกเป็นบางช่วงเนื่องจากจำนวนไฟล์มีเยอะและขนาดใหญ่ ซึ่งเมื่อฮาร์ดดิสก์ทำการอ่านข้อมูลไม่ทัน เฟรมเรตจึงตก ดังนั้นหากติดตั้งเกมลงบน SSD ก็ทำให้ปัญหานั้นหมดไป แถมยังได้เฟรมเรตเพิ่มขึ้นมาอีกนิดหน่อยด้วยซ้ำนะเออ
แล้วใช้ SSD แบบไหนดี?
SSD มีอยู่หลายรูปแบบให้ใช้งาน อย่างเช่น SSD แบบ 2.5” SATA, PCI Express และ M.2 แต่ที่ใช้งานกันค่อนข้างมากที่สุดจะเป็นอย่างแรก ซึ่งสามารถใช้งานได้กับทั้งพีซีและโน้ตบุ๊กผ่านการเชื่อมต่อในแบบ SATA และมีความเร็วที่ดีสำหรับเล่นเกม รวมถึงราคาที่ไม่แพงมาก อย่างเช่นที่ผมเลือกมาใช้งานคือ Samsung 850 EVO ซึ่งมีความที่ไม่เหมือนใคร เนื่องจาก SSD ของ Samsung ใช้ NAND Flash หรือเม็ดหน่วยความจำที่ผลิตขึ้นมาเอง และมีประสิทธิภาพดี และยังมี Controller หรือตัวควบคุมที่ใช้เป็นของตัวเองอย่าง Samsung MGX ด้วยเช่นกัน ดังนั้นความเร็วที่ได้จะแรงและเร็ว ที่คงที่ มากกว่า SSD รุ่นอื่น ที่สำคัญคือราคาที่ไม่แพงมากมาดูหน้าตากันว่ามันเป็นไง
สำหรับ Samsung 850 EVO เป็นรุ่นที่ออกมารองจาก Samsung 850 PRO แต่มีความแรงที่ไม่น้อยหน้ารุ่นพี่ ถ้าอยากจะหาซื้อมาลองใช้ หน้าตาเป็นแบบนี้ครับ ประกัน 5 ปียาวๆ
ตัวของ Samsung 850 EVO จะเป็นสีดำเช่นเดียวกันกับรุ่น PRO แต่ต่างกันตรงแถบสีเทาดำๆ ครับ
ด้านหลังระบุรายละเอียดเอาไว้ชัดเจนเลยว่ารุ่นไหน ความจุเท่าไหร่ สำหรับตัวที่ผมใช้อยู่เป็นรุ่น ความจุ 250GB ส่วนเรื่องของความเร็วสามารถอ่านได้สูงถึง 540MB/s หรือเกือบ 5 เท่าของฮาร์ดดิสก์จานหมุนเชียวล่ะ แถมเขียนก็ไล่ๆ กันคือ 520MB/s ส่วน 850 PRO อ่านได้เร็วกว่าคือ 550MB/s และเขียนเท่ากันที่ 520MB/s ครับ
เทียบขนาดกันดูนะครับระหว่างฮาร์ดดิสก์ปกติ กับ SSD ซึ่งขนาดต่างกันหลายเท่าตัว และน้ำหนักเบากว่า ใช้ได้ทั้งพีซีและโน้ตบุ๊ก ที่สำคัญเมื่อมีเหตุการณ์อย่างเช่นตกกระแทก หรือสะเทือน SSD ยังเก็บรักษาข้อมูลได้ปกติ แต่จะเกิดความเสียหายถ้าเราใช้ฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุน
สำหรับคนที่ชอบประกอบพีซีชุดเล็กๆ SSD จะเป็นตัวเลือกที่ดีครับ เนื่องจากว่ามีขนาดที่เล็กกว่า แถมมีความร้อนก็แทบไม่มีบนตัว SSD เลยละ
อยากรู้ว่าแรงแค่ไหนน่ะหรอ มาดูแต่ละผลการทดสอบกัน
ในการทดสอบต่างๆ ผมได้ใช้เจ้า Samsung 850EVO กับฮาร์ดดิสก์จานหมุนปกติ ซึ่งทั้งสองตัวนี้ผมใช้งานด้วยกันทั้งคู่ เอามาเปรียบเทียบให้ชมกัน
ทดสอบตัวแรกเริ่มจาก PC Mark 8 หัวข้อ Storage ซึ่งตัวแรกผมใช้ Samsung 850EVO ส่วนด้านล่างเป็นฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุน ซึ่งเห็นได้ว่าในการทำงานต่างๆ นั้น SSD ทิ้งกันแบบไม่เห็นฝุ่น รวมถึงเวลาในการทำงานบนโปรแกรมต่างๆ
ชุดต่อมาเป็นโปรแกรมทดสอบชื่อ Crystal DiskMark จะเห็นได้ว่าความเร็วในการอ่านเขียนและเข้าถึงข้อมูลนั้น SSD ทำได้เร็วกว่าอย่างชัดเจน
ท้ายสุดคือ HD Tune จะสั่งเกตเห็นได้ว่าความเร็วในการอ่านเขียนของ SSD เร็วกว่า และคงที่มากกว่าเมื่อเทียบกับ SSD รุ่นอื่นๆ ด้วยผลของ Controller จาก Samsung MGX
เป็นไงล่ะ เทียบกับฮาร์ดดิสก์แบบธรรมดาแล้วมันต่างกันอย่างเห็นได้ชัดว่านอกจากในเรื่องของความเร็วของการอ่านเขียนแล้ว ยังทำให้การเล่นเกมลื่นไหล ทำอะไรก็ว่องไวขึ้นเยอะ เทียบกับเงินที่เสียไปถือว่าคุ้มค่าพอตัวเลยทีเดียวละครับ ท้ายสุดคือในเรื่องของความทนทานไม่ว่าตกกระแทกยังไงก็ไม่ทำให้ข้อมูลเสียหายอย่างแน่นอน บอกมาขนาดนี้ ผลทดสอบที่ให้ดูว่าแรงแบบนี้ จัดไปสิครับ!!!
ปล. ใช้คู่กัน มันเป็นวิธ๊สุดฉลาดทั้ง HDD และ SSD
เนื่องจาก SSD ถึงราคาลดลงมาแล้ว แต่ก็ยังสูงเมื่อเทียบกับฮาร์ดดิสก์ ดังนั้นวิธีใช้อย่างฉลาดคือการติดตั้งวินโดวส์, เกมต่างๆ และโปรแกรมลงบน SSD ส่วน HDD นำเอาไว้สำหรับเก็บข้อมูลปกติทั่วไปเช่น เพลง หนัง หรือไฟล์เอกสาร์ต่างๆ ทั่วไป ซึ่งนั่นจะทำให้มีพื้นที่ใช้งานได้อย่างเหลือเฟือ ไว้รอบหน้ามีอะไรดีๆ มาแนะนำ อย่าลืมมาติดตามกันนะครับ
สำหรับใครที่อยากใช้เจ้า SSD Samsung 850 EVO ไปหาซื้อได้เลยที่ JIB, Banana IT และ IT City ตามนี้เลยจ้า ส่วนการรับประกันไม่ต้องห่วง เพราะว่ารับประกันยาวๆ 5 ปีกันเลยทีเดียวเชียวล่ะ ส่วนถ้าใครจะเอายาวกว่านั้นอีกก็ Samsung 850 PRO ประกันยาวๆ 10 ปี อยากรู้อะไรเพิ่มเติมก็ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์บริการลูกค้าซัมซุง 02-689-3232 หรือโทรฟรีจากโทรศัพท์บ้าน 1-800-9-3232 เอาโลดจ้า
