โดย falcon_mach_v
- บทความจากนิตยสาร Future Gamer Iss 230
SPECIFICATIONS
CPU Support: Intel Socket 1151 for 6th Generation Core
Chipset: Intel Z170
Memory: 4 x DIMM, Max. 64GB, DDR4
Storage: 8 x SATA 6Gb/s, 2x SATA Express, 1x M.2 Socket 3
Audio: Realtek ALC1150 8-Channel High Definition Audio CODEC
Expansion Slots: 2 x PCIe 3.0/2.0 x16
USB: 1 x USB3.0, 1 x USB 3.1 (Black) Type-C, 5 x USB 3.1 (Teal Blue) Type-A
ราคาประมาณ 11,000 บาท
ชิพเซ็ต Intel Z170 ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากเสียงตอบรับจากผู้ผลิตเมนบอร์ดหลายค่ายที่ต่างพากันพัฒนาผลิตภัณฑ์รองรับกันมาอย่างไม่ขาดสาย ส่งผลให้ผู้บริโภคมีทางเลือกมากมายหลายระดับราคา และในวันนี้ผมได้รับเมนบอร์ดจากค่าย ASUS ที่ใช้ชิพดังกล่าวมาบอกเล่าถึงความสามารถครับ
ความแตกต่างที่เห็นได้ชัดของเมนบอร์ดตัวนี้ก็คือ มันไม่ได้รับการออกแบบมาเพื่อการเล่นเกมเหมือนกับซีรีส์ MAXIMUS ของค่ายเดียวกัน เห็นได้จากงานออกแบบที่ดูเรียบหรูและใช้สีสันที่นวลตากว่า โดยประกอบไปด้วยสีดำของแผงวงจรตัดสลับกับสีขาวเทาอะลูมิเนียม แต่ก็ยังคงความโฉบเฉี่ยวสอดคล้องกับความแรงและความสามารถของเมนบอร์ดตัวนี้ซึ่งพกมามากไม่แพ้ซีรีส์สำหรับเกมเมอร์นั่นเลยทีเดียว
เริ่มจากคุณสมบัติ 5-Way Optimization ซึ่งมีหน้าที่ปรับแต่งความเร็วของคอมพิวเตอร์ให้เหมาะกับการใช้งานในขณะนั้นโดยอัตโนมัติ โดยรองรับลักษณะการปรับแต่งได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการเร่งความเร็วโปรเซสเซอร์ การประหยัดพลังงาน การทำงานอย่างเงียบเชียบ และการปรับแต่งค่าเสียงกับการเชื่อมต่อเครือข่าย ทำให้คุณสมบัตินี้ครอบคลุมการตั้งค่าแทบทุกส่วนของคอมพิวเตอร์และรองรับทุกลักษณะการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเกม การรับชมความบันเทิง และการทำงาน เป็นต้น
นอกจากคุณสมบัติปรับแต่งระบบโดยอัตโนมัติแล้ว เมนบอร์ดตัวนี้ยังประกอบด้วยความสามารถอื่นที่เกมเมอร์จะต้องชื่นชอบ อาทิ เทคโนโลยี Crystal Sound 3 ซึ่งเป็นชื่อเรียกรวมของคุณสมบัติด้านการให้เสียงของเมนบอร์ดตัวนี้ที่ประกอบไปด้วยลูกเล่นย่อยมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการลดสัญญาณรบกวนเพื่อคุณภาพเสียงที่ชัดแจ๋ว การเลือกใช้วัสดุคุณภาพสูงจากประเทศญี่ปุ่นเพื่อความทนทาน และ Audio Amplifier สำหรับการปรับแต่งเสียงจากหูฟังและลำโพงให้ได้คุณภาพสูงมากที่สุด เป็นต้น
ส่วนเกมเมอร์ที่ชอบการเล่นเกมผ่านเครือข่ายก็คงชื่นชอบเทคโนโลยี Turbo LAN with cFosSpeed ที่ให้ผู้ใช้จัดลำดับความสำคัญของการจราจรทางเครือข่ายได้อย่างง่ายดายผ่านอินเตอร์เฟซซอฟต์แวร์ที่แถมมาให้ แล้วยังปรับให้เหมาะกับการใช้งานขณะนั้นได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเกม การแบ่งปันไฟล์ หรือการสตรีมมิ่งเนื้อหา เป็นต้น ผู้ใช้จึงมั่นใจได้ถึงคุณภาพเครือข่ายที่จะได้รับการจัดสรรทรัพยากรอย่างคุ้มค่ามากที่สุด ส่วนช่อง Ethernet ยังใช้เทคโนโลยี LANGuard ที่มอบความเสถียรของการเชื่อมต่อที่มากกว่า ทั้งยังลดความเสียหายที่อาจเกิดจากไฟเกินหรือไฟกระชากด้วย แต่ที่น่าจะถูกใจเกมเมอร์ที่สุดคือ Key Express ซึ่งเป็นช่องเสียบ USB พิเศษที่มีไมโครโปรเซสเซอร์ทำหน้าที่เปลี่ยนคีย์บอร์ดธรรมดาให้กลายเป็นกระบี่คู่กายเกมเมอร์ทันที เพราะมันให้เราตั้งค่ามาโครให้กับปุ่ม F1-F10 ได้
ฟังก์ชั่นความบันเทิงก็นับว่าเป็นจุดเด่นของเมนบอร์ดนี้เช่นกัน โดยเฉพาะ Wi-Fi GO! ที่ให้ผู้ใช้ควบคุมพีซีจากมุมใดของบ้านก็ได้ แล้วยังสามารถซิงค์ไฟล์และสตรีมมิ่งเนื้อหาข้ามไปมาระหว่างพีซีกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์พกพาอย่างสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตได้อีกด้วย ลูกเล่นย่อยที่น่าสนใจคือ Cloud GO! ซึ่งเป็นสถานที่รวบรวมบัญชี ASUS WebStorage, Dropbox, Google Drive และ One Drive ของผู้ใช้ไว้ในที่เดียว ทำให้สามารถเข้าถึงได้ง่ายและมีระบบคอยสำรองข้อมูลลงบนพีซีได้ด้วย
กล่าวโดยสรุป เมนบอร์ดตัวนี้มีทุกอย่างที่ผู้ใช้งานพีซีต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบที่สวยงาม การรองรับเทคโนโลยีและการเชื่อมต่อใหม่ล่าสุด ซอฟต์แวร์ที่สามารถปรับแต่งได้หลากหลาย และการรองรับความสามารถด้านความบันเทิงอย่างครบครัน หากราคาไม่ใช่อุปสรรคแล้วละก็ ผู้ใช้จะไม่ผิดหวังกับเมนบอร์ดนี้แน่นอนครับ
คะแนน
Value 8
Feature 9.5
Design 9
Performance 8.5
Bundle 8
SCORE 86