ร่างกฎหมายนี้จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ปีการศึกษาหน้าในเดือนมีนาคม 2026 โดยเป็นความร่วมมือกันของสองพรรคการเมืองที่จะควบคุมการใช้โทรศัพท์มือถือหรือสมาร์ทโฟน หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้มีการวิจัยชี้ถึงผลกระทบที่เป็นอันตรายต่อผู้ใช้งาน

โดยหลายฝ่ายไม่ว่าจะเป็น นักการเมือง ผู้ปกครอง และครู ต่างให้เหตุผลว่าโทรศัพท์มือถือหรือสมาร์ทโฟนส่งผลกระทบต่อผลการเรียนของนักเรียน ทั้งนี้ได้มีคำถามตามมาด้วยเหมือนกันว่า ร่างกฎหมายนี้สามารถบังคับใช้อย่างไร มีผลกระทบในวงกว้างแค่ไหน และมาตรการนี้จะแก้ที่ต้นตอของปัญหาการเสพติดสมาร์ทโฟนได้จริงหรือไม่?

ทั้งนี้โรงเรียนส่วนใหญ่ในเกาหลีใต้ได้เริ่มใช้มาตรการห้ามใช้สมาร์ทโฟนไปบ้างแล้ว ในบางประเทศ เช่น ฟินแลนด์และฝรั่งเศส ได้มีการห้ามใช้สมาร์ทโฟนโรงเรียนของเด็กเล็ก ส่วนประเทศอื่น ๆ เช่น อิตาลี เนเธอร์แลนด์ และจีน จำกัดการใช้สมาร์ทโฟนในทุกโรงเรียน แต่เกาหลีใต้นั้นถือเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศที่นำข้อห้ามเช่นนี้ผลักดันเป็นกฎหมายอย่างเป็นทางการ
คุณ Choi Eun-young ผู้ปกครองของเด็กอายุ 14 ปีที่อาศัยอยู่ในกรุงโซล เผยความรู้สึกว่า
"เด็ก ๆ สมัยนี้ ดูเหมือนจะวางสมาร์ทโฟนลงไม่ได้เลย"
"เมื่อเด็กไปโรงเรียน พวกเขาควรเรียนรู้ ศึกษาวิชาการ สร้างมิตรภาพ และเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ด้วย แต่พวกเขาไม่สามารถโฟกัสกับสิ่งเหล่านั้นได้ แม้ตอนคุยกับเพื่อน พวกเขาก็กลับไปเล่นปัดหน้าจอสมาร์ทโฟน และแน่นอนว่าพฤติกรรมเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อการเรียนด้วย"

นอกจากนี้คุณ Cho Jung-hun สมาชิกสภาจากพรรคฝ่ายค้าน People Power Party ผู้เสนอร่างกฎหมายฉบับนี้กล่าวว่า ตัวเขาเองนั้นได้รับแรงบันดาลใจในการร่างกฏหมายฉบับนี้จากหลาย ๆ ประเทศที่กำลังดำเนินมาตรการคล้ายกัน และยังเสริมอีกด้วยว่า มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์และการแพทย์ว่าการใช้งานสมาร์ทโฟนนั้นมีผลเสียอย่างรุนแรงต่อพัฒนาการสมองและอารมณ์ของนักเรียน

แปลและเรียบเรียงจาก
https://www.bbc.com/news
https://www.koreaherald.com/article
ติดตามข่าวสารวงการบันเทิง ไลฟ์สไตล์อื่นๆ ได้ที่ Online Station