ดูเหมือนว่าการใช้เทคโนโลยี AI ผลิตภาพ จะกลายเป็นชนวนความขัดแย้งในโลกแห่งความเป็นจริงไปเสียแล้ว เมื่อชายชาวญี่ปุ่นคนหนึ่งถูกจับ หลังส่งอีเมลขู่จะเผาศาลเจ้าเก่าแก่และทำร้ายเจ้าหน้าที่ให้ถึงแก่ความตาย เหตุเพียงเพราะ "ไม่พอใจที่ศาลเจ้าใช้ภาพโปรไฟล์เป็นตัวละครสาวน้อยอนิเมะที่สร้างโดย AI"!
สำนักข่าว The Sankei Shimbun รายงานว่า ตำรวจได้เข้าจับกุมชายว่างงานวัย 38 ปี ในข้อหาข่มขู่และขัดขวางการดำเนินงาน หลังจากที่เขาส่งอีเมลข่มขู่หลายสิบฉบับไปยังศาลเจ้าคุรุมะซากิ ซึ่งเป็นศาลเจ้าชินโตเก่าแก่ในเกียวโต

โดยศาลเจ้าคุรุมะซากินั้นสร้างขึ้นราวปี ค.ศ. 1189 (พ.ศ. 1732) เป็นที่รู้จักในฐานะศาลเจ้าที่อุทิศให้กับศิลปะการแสดง จนกลายเป็นเหมือน ‘ดินแดนศักดิ์สิทธิ์’ สำหรับกิจกรรม ‘โอชิคัตสึ’ หรือการสนับสนุนศิลปินที่ชื่นชอบ โดยจะเห็นได้จาก ‘ทามะกาคิ’ หรือป้ายไม้ที่เหล่าคนดังนำมาถวายเรียงรายอยู่มากมาย แต่เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ศาลเจ้ากลับสร้างความไม่พอใจบนโซเชียลมีเดียอย่างไม่ได้ตั้งใจ หลังจากเปลี่ยนรูปโปรไฟล์บนบัญชี X (ทวิตเตอร์) เป็นภาพที่สร้างขึ้นโดย AI
รูปดังกล่าวเป็นภาพวาดสไตล์อนิเมะของเด็กสาวในชุดมิโกะยืนอยู่ใต้ต้นซากุระ การกระทำนี้ทำให้หลายคนผิดหวัง เพราะมองว่าศาลเจ้าซึ่งควรจะเชิดชูศิลปะ กลับใช้งานภาพที่สร้างด้วย AI เป็นรูปแทนตัวเองไปเสียนี่ จึงเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักหน่วงถึงขั้นที่ทางศาลเจ้าต้องลบบัญชี X อย่างเป็นทางการทิ้งในวันเดียวกัน

ทว่าเรื่องราวไม่ได้จบแค่นั้น หลายคนยังคงส่งอีเมลไปแสดงความไม่พอใจต่อ และบานปลายไปสู่การข่มขู่ โดยชายวัย 38 ปีที่ถูกจับกุมได้ส่งข้อความถึงเจ้าหน้าที่ศาลเจ้าว่า "สักวันหนึ่งศาลเจ้าเฮงซวยของแกจะถูกไฟไหม้จนราบเป็นหน้ากลอง" พร้อมแนบภาพเปลวไฟมาด้วย นอกจากนี้ สำนักข่าว Kyoto Shimbun ยังรายงานเพิ่มเติมว่า ในข้อความอื่น เขายังขู่จะทุบตีเจ้าหน้าที่ศาลเจ้าให้ถึงแก่ชีวิตอีกด้วย
เหตุการณ์นี้ทำให้ศาลเจ้าคุรุมะซากิจำเป็นต้องเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยและจัดเวรยามตรวจตราอย่างเข้มงวด หลังจากการจับกุมในเดือนกรกฎาคม ชายผู้ก่อเหตุยอมรับสารภาพว่าได้ส่งคำขู่จริง โดยให้เหตุผลว่าเขารู้สึก "โมโห" กับทัศนคติของศาลเจ้าที่สนับสนุนศิลปะ AI ทั้งนี้ตำรวจได้ยืนยันว่าผู้กระทำผิดไม่มีความเกี่ยวข้องใด ๆ กับทางศาลเจ้า
ในขณะเดียวกัน "ศิลปิน" AI ผู้สร้างภาพโปรไฟล์เจ้าปัญหาก็ตกเป็นเป้าหมายด้วยเช่นกัน หลังจากมีข่าวการจับกุม ผู้ใช้งาน AI คนดังกล่าวก็ได้รับข้อความข่มขู่ว่า "มาที่บ้านฉันพร้อมเงินสด 3 ล้านเยนแล้วมาขอโทษซะ ไม่งั้นฉันจะฆ่าแก" ด้วยความกลัว เขาจึงรีบติดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที

งานนี้เรียกได้ว่าจากประเด็นดราม่าบนโลกออนไลน์ที่ดูเหมือนจะเล็กน้อย กลับบานปลายกลายเป็นการข่มขู่เอาชีวิต จนนำไปสู่การจับกุมในโลกแห่งความเป็นจริง แสดงให้เห็นถึงความขัดแย้งที่ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ระหว่างผู้ที่สนับสนุนและต่อต้านเทคโนโลยี AI ในปัจจุบัน กระนั้น แม้การถกเถียงจะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ แต่การข่มขู่เอาชีวิตและทำลายทรัพย์สินมรดกทางวัฒนธรรมเช่นนี้ก็ไม่ใช่ทางออกที่ถูกต้องและสมควรอย่างแน่นอน
แปลและเรียบเรียงจาก
Automaton Media
ติดตามข่าวสารวงการบันเทิง ไลฟ์สไตล์อื่นๆ ได้ที่ Online Station