ในขณะที่ภาพยนตร์ Superman ของผู้กำกับ James Gunn กำลังทำรายได้อย่างสวยงาม ในทางกลับกัน มีรายงานข่าวจาก Wall Street Journal เปิดเผยว่าโปรเจกต์ภาพยนตร์ Black Superman หรือซูเปอร์แมนผิวสีที่เคยอยู่ในขั้นตอนการพัฒนาอาจไม่ได้ไปต่อเสียแล้ว เนื่องจากถูก David Zaslav ประธานใหญ่ของ Warner Bros. Discovery สั่งเบรก โดยให้เหตุผลว่าบทภาพยนตร์นั้น “Woke เกินไป”
เดิมทีโปรเจกต์นี้อยู่ภายใต้การดูแลของโปรดิวเซอร์ชื่อดังอย่าง J.J. Abrams และได้ Ta-Nehisi Coates นักเขียนผู้เป็นที่รู้จักในประเด็นเรื่องการเมืองและเชื้อชาติมาเป็นผู้เขียนบท โดยเนื้อหาของหนังจะเล่าเรื่องราวของซูเปอร์แมนผิวสีในยุคเรียกร้องสิทธิพลเมือง ซึ่งจะเน้นหนักไปที่ประเด็นความขัดแย้งทางเชื้อชาติเป็นพิเศษ
รายงานระบุว่าการตัดสินใจครั้งนี้ของ Zaslav เกิดขึ้นในช่วงปี 2022 ระหว่างที่เขากำลังยกเครื่องจักรวาล DC ใหม่ทั้งหมด ซึ่งเป็นช่วงเดียวกันกับที่ James Gunn และ Peter Safran ได้รับมอบหมายให้มาดูแลทิศทางของ DC Studios ให้เป็นเอกภาพเหมือนที่ Kevin Feige จัดการให้กับ Marvel การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่นี้ทำให้หลายโปรเจกต์ถูกยกเลิกไป รวมถึง Wonder Woman 3 ด้วย
สำหรับโปรเจกต์ Superman ฉบับนี้ มีข่าวลือว่าจะนำเสนอตัวละคร Kal-El หรือ Clark Kent ในเวอร์ชันคนผิวสี แทนที่จะเป็นการหยิบตัวละครซูเปอร์แมนผิวสีที่มีอยู่แล้วในคอมิกอย่าง Val-Zod หรือ Calvin Ellis มาใช้ ซึ่งแนวคิดดังกล่าวสร้างความไม่พอใจให้กับแฟน ๆ จำนวนมาก พวกเขามองว่านี่คือการ “ย้อมสีผิว” ตัวละครไอคอนิกอย่าง Superman และเป็นการสร้างความหลากหลายแบบมักง่าย แทนที่จะไปพัฒนาเรื่องราวของตัวละครผิวสีที่มีอยู่แล้ว หรือสร้างฮีโร่คนใหม่ขึ้นมาเลย
อย่างไรก็ตาม โปรเจกต์ที่ถูกพับไปนี้ไม่เกี่ยวข้องกับโปรเจกต์ Black Superman อีกตัวที่ Michael B. Jordan กำลังพัฒนาสำหรับลงแพลตฟอร์ม HBO Max ซึ่งจะเน้นไปที่ตัวละคร Val-Zod โดยเฉพาะ
แม้ว่าโปรเจกต์ของ J.J. Abrams และ Ta-Nehisi Coates จะถูกสั่งเบรกไปแล้ว แต่ Wall Street Journal ก็ทิ้งท้ายไว้ว่า James Gunn และ Peter Safran อาจจะหยิบโปรเจกต์นี้กลับมาพิจารณาใหม่ในอนาคตก็เป็นได้ คงต้องติดตามกันต่อไปว่าชะตากรรมของซูเปอร์แมนผิวสีบนจอเงินจะเป็นอย่างไร
แปลและเรียบเรียงจาก
Cosmic Book News
ติดตามข่าวสารวงการบันเทิง ไลฟ์สไตล์อื่นๆ ได้ที่ Online Station