ปัญหาเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นทั่วโลกนั้นบีบให้ความเป็นอยู่กับผู้คนใช้ชีวิตยากขึ้น โดยเฉพาะกับค่าครองชีพที่สูงมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งมันส่งผลกระทบไปทั่วไม่ว่าเรื่องนั้นจะธรรมดาสามัญขนาดไหนก็ตาม หากอยากเอาตัวรอดก็ต้องปรับตัว

ล่าสุดความเปลี่ยนแปลงเริ่มมาถึงร้านขายทาโกะยากิของกินเล่นขึ้นชื่อของญี่ปุ่นแล้วครับเมื่อมีการพบว่าร้านในโตเกียวหลายๆ ร้านเริ่มมีการหันมาใช้ไส้กรอกแทนปลาหมึกยักษ์กันแล้ว โดยจะมีการเขียนป้ายบอกไว้ด้วยว่าสินค้าชนิดในที่ไม่มีปลาหมึกยักษ์บ้าง ซึ่งที่เป็นแบบนี้ทางผู้ขายก็ให้เหตุผลว่าต้นทุนของสินค้าหลังสิ้นสุดยุคโควิดนั้นพุ่งสูงขึ้นเอาๆ จนต้องเริ่มปรับเปลี่ยนไส้ด้านในบ้าง และแม้จะทำอย่างนั้น ก็ยังไม่วายต้องขึ้นราคาสินค้าเพื่อให้มีกำไรและอยู่รอดอยู่ดี

ขณะที่บางคนพอรู้ว่าทาโกะยากิที่กินนั้นเป็นไส้กรอกก็ไม่พอใจนักเพราะเขาต้องการปลาหมึกมากกว่า แต่ไส้กรอกกลับเป็นที่นิยมในหมู่เด็กๆ และลูกค้าที่ฟันไม่ค่อยดีนัก เพราะมันนุ่มและรับประทานง่ายกว่า ขณะที่บางร้านก็เลือกจะไปใช้ปลาหมึกพันธุ์อื่นที่ถูกกว่าเพื่อพยายามคงความเป็น "ทาโกะ" เอาไว้ และแน่นอนว่ายังมีอีกหลายร้านที่ยังขอใช้ปลาหมึกยักษ์แบบเดิม เพื่อรักษาเอกลักษณ์ดั้งเดิมไว้นั่นเอง

งานนี้คนไทยบอกไม่มีปัญหาเพราะกินทาโกะยากิหลากใส้มาตั้งแต่เกิด จะใส้กรอก จะชีส จะกุ้ง มีให้ลองทั้งนั้นครับ แต่สุดท้ายเรื่องนี้มันก็มีปัจจัยเข้ามาข้องเกี่ยวเยอะแยะมากมายเกินกว่าจะฟันธงว่าใครผิดใครถูก เหตุผลของแต่ละฝ่ายก็มีกันทั้งนั้น บางทีหากเศรษฐกิจโลกทิศทางดีขึ้น อะไรหลายๆ อย่างก็คงดีขึ้นเช่นกันนั่นเองครับ
ติดตามข่าวสารวงการบันเทิง ไลฟ์สไตล์อื่นๆ ได้ที่ Online Station