หน่วยงานการรถไฟเอกชนของญี่ปุ่นได้จัดทำแบบสำรวจความเห็นประจำปีกับบรรดาผู้โดยสาร เกี่ยวกับเรื่องของมารยาทหรือพฤติกรรมที่ไม่ควรกระทำขณะอยู่บนรถไฟ โดยมีผู้ตอบแบบสำรวจประมาณ 8,210 คน และพฤติกรรมยอดแย่ 3 อันดับแรกมีดังนี้ครับ

อันดับ 1 - นั่งแยกขาหรือเหยียดขามากจนเกินไป
ปกติแล้ว การนั่งแยกขากว้าง ๆ จะเป็นการรบกวนผู้ที่นั่งข้าง ๆ ทั้งซ้าย-ขวาครับ ยิ่งปัจจุบันรถไฟหลายรุ่นในญี่ปุ่นมีการติดตั้งเบาะที่ออกแบบมาให้นั่งได้ช่องละคน และหากว่ากันตามคอมมอนเซนส์ การนั่งแยกขาก็ยังถือเป็นมารยาทที่ไม่พึงกระทำอยู่ดี เพราะนอกจากขาจะไปเบียดเกะกะกับคนที่นั่งข้างแล้ว ต่อให้ไม่ใช่ชั่วโมงเร่งด่วน คนที่ขึ้นรถไฟมาทีหลัง พอเห็นเบาะว่างข้างคนที่นั่งแยกขาก็จะพลอยรู้สึกไม่สะดวกใจ และไม่อยากนั่งข้างด้วย รวมถึงคนที่นั่งเหยียดขาตรงจนล้นมาตรงทางเดินด้วยเช่นกัน พฤติกรรมแบบนี้ควรสงวนไว้ทำเฉพาะในเคหสถานเท่านั้นดีกว่า

อันดับ 2 - ไม่ปิดปากตัวเองเวลาไอหรือจาม
แม้ว่าหลาย ๆ ประเทศจะประกาศ New Normal ให้ผู้คนกลับมาใช้ชีวิตกันแบบปกติ และไม่บังคับสวมหน้ากากอนามัยกันแล้ว แต่การไอหรือจามขณะอยู่ในพื้นที่สาธารณะโดยไม่ปิดปากก็เป็นการสร้างความเสี่ยงให้กับผู้อื่น และไม่ควรทำอย่างยิ่งครับ ซึ่งในขบวนรถไฟนั้นเป็นสถานที่ปิด อากาศถ่ายเทยากกว่าพื้นที่เปิดโล่ง จึงยิ่งต้องระมัดระวังเรื่องนี้ให้หนักเป็นทวีคูณด้วย

อันดับ 3 - ยืนขวางประตูทั้งฝั่งชานชาลาและในขบวน ขณะที่รถไฟจอด
เพื่อน ๆ คนไหนที่เคยขึ้นรถไฟฟ้า BTS หรือ MRT ในกรุงเทพมหานคร คงเคยได้ยินคำเตือนที่บอกว่าอย่ายืนขวางประตูรถขณะที่จอดเทียบชานชาลากันมาบ้างนะครับ ซึ่งในญี่ปุ่นเองก็มีคำเตือนลักษณะนี้มานานมากแล้ว แต่ก็ยังมีคนจำนวนไม่น้อยที่แสดงพฤติกรรมยืนขวางประตูรถอยู่ ไม่ว่าจะจากในขบวนรถไฟ หรือจากฝั่งชานชาลาก็ตาม โดยที่ถูกต้องก็คือควรยืนหลีกข้างให้คนภายในขบวนรถออกมาจากประตูให้หมดก่อน แล้วคนฝั่งชานชาลาค่อยเดินเข้าขบวนรถไป เพื่อเลี่ยงอุบัติเหตุหรืออันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นหากยืนขวางทางจนเดินชนกันนั่นเอง
แปลและเรียบเรียงจาก
ติดตามข่าวสารวงการบันเทิง ได้ที่ Online Station