สังคมมันเครียด หนุ่มสาวโสดชาวญี่ปุ่นกว่าครึ่งบอกไม่อยากมีลูก

ญี่ปุ่นนั้นเป็นประเทศที่เรารู้กันว่ามีความเครียดและความกดดันสูง และมีอัตราการเกิดต่ำซึ่งเป็นปัญหาเรื้อรังมาหลายปีแล้ว ปรากฎว่าล่าสุดปัญหานั้นดูเหมือนจะไม่ดีขึ้นเลย เพราะจำนวนเด็กเกิดใหม่ในปีที่แล้วนั้นต่ำกว่า 8 แสนคนเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ทำสถิติประชากรมาตั้งแต่ปี 1899

โดยทางบริษัทยาของญี่ปุ่น Rohto Pharmaceutical ได้ทำการสำรวจความคิดเห็นในหมู่หนุ่มสาวชาวญี่ปุ่นจำนวน 400 คน อายุระหว่าง 18-19 ปี ซึ่ง 49.4% นั้นบอกว่าไม่ต้องการจะมีลูก เป็นจำนวนสูงที่สุดในการสำรวจรอบ 3 ปี

หากแบ่งตามเพศจะพบว่าชาย 53% และหญิง 45.6% นั้นไม่สนใจที่จะมีลูกและเป็นพ่อแม่ โดยให้เหตุผลต่าง ๆ นา ๆ เช่น ค่าครองชีพสูง ความกังวลเกี่ยวกับอนาคตของญี่ปุ่น เป็นต้น ยิ่งปัจจุบันคนหนุ่มสาวบางคนไม่สนใจที่จะแต่งงานด้วย ทำให้โอกาสมีลูกน้อยลงไปอีก ซึ่งทางการญี่ปุ่นก็ตระหนักถึงปัญหานี้ จึงมีการตั้งองค์กรเด็กและครอบครัว (Children and Families Agency) ขึ้นเพื่อดูแลนโยบายปัญหาต่าง ๆ เช่น ความยากจนและการทารุณกรรมเด็ก

นอกจากนี้ยังมีการศึกษาในหมู่คู่สมรสระหว่าง 25-44 ปี ด้วย และพบว่าชายหญิงที่ประสงค์และพยายามจะมีลูกนั้นลดลงจาก 60.3% เหลือ 48.1% ซึ่งผู้สำรวจนั้นคาดว่าเป็นเพราะผู้คนนั้นใช้เวลาร่วมกันน้อยลงหลังจากที่วิกฤตโรคระบาดคลี่คลาย และต้องกลับไปใช้ชีวิตนอกบ้านตามปกติเหมือนที่ผ่านมา ทำให้มีโอกาสสานสัมพันธ์กันน้อยลง

เรียกได้ว่ากว่าที่เด็กคนหนึ่งจะเกิดมาได้ ต้องเคลียร์ปัญหากันหลายด่าน ตั้งแต่ให้หนุ่มสาวอยากคบกัน อยากมีลูก และใช้เวลาร่วมกัน ยิ่งสังคมเคร่งเครียดและเต็มไปด้วยความกังวลแบบนี้ การจะแก้ปัญหานั้นคงไม่สามารถทำได้ง่าย ๆ ในเร็ววันอย่างแน่นอน

ข้อมูลอ้างอิงจาก
The Manichi
Crazy for Anime Trivia

ติดตามข่าวสารวงการบันเทิง ได้ที่ Online Station