หนุ่มญี่ปุ่นงง! แฟนหนีกลับบ้าน หลังจากเห็นรถของตัวเอง

กำลังกลายเป็นเรื่องมึน ๆ ในแวดวงชาวโซเชียลญี่ปุ่นที่ต้องนำมาถกกัน เมื่อมีชาวทวิตเตอร์ญี่ปุ่นโพสข้อความเชิงสงสัยพร้อมขอคำปรึกษากับเหล่าชาวเน็ตว่า “ทำไมแฟนผมถึงหนีกลับบ้าน หลังจากเห็นรถของผม” โดยหน้าตาของรถที่เป็นต้นเรื่องก็มีหน้าตาตามรูปข้างล่างนี้

โดยรถคันดังกล่าวที่เป็นประเด็นก็ไม่มีสภาพโทรมจนดูไม่ได้ หรือเลอะอะไร แถมยังเป็นรถเก๋งยี่ห้อ Subaru ที่ผ่านการปรับแต่งสีสันเขียวดำฮาร์ดบอยล์ ชนิดที่สาวก Kamen Rider เห็นปุ๊บก็รู้ปั๊บเลยว่านี่คือสีโทนหลักของภาค W ที่เคยฉายช่วงปี 2009-2010 แลดูน่าขับขี่ไปอวดมันทุกหย่อมหญ้าเลย ซึ่งชาวเน็ตญี่ปุ่นก็ได้มาร่วมแสดงความเห็นกับเรื่องนี้ไว้ดังนี้

・たぶん、ヒートメタルじゃねーからだと思う?
ファングジョーカーならワンチャンあったかなぁ？?
"คิดว่าน่าจะเพราะไม่ใช่สี Heat Metal มั้งนะ
ถ้าเป็น Fang Joker อาจจะมีโอกาสกว่านี้มั้ง?"

・ハーフボイルドだったからじゃないかな・・・
"คงเพราะเป็นอาร์ฟบอยล์ล่ะมั้ง…"

・お前の罪を数えろ！
"จงนับความผิดของตัวเองซะ!"

・菅田将暉しか乗れないのよこれ
"ไอ้รถคันนี้ขับได้แค่ Suda Masaki (นักแสดงภาค W) เท่านั้นแหละ"

・え、Wカラー！センスの塊やんけ理解できん女性とお付き合いなんてしなくていいよ！！（錯乱）
"เอ๊ะ สี W นี่นา! รสนิยมเทพจัดเลยนิ กับผู้หญิงที่ไม่เข้าใจถึงความสวยก็อย่าไปคบมันเลย!! (กำลังเมา) "

・ドライブなのにWだからやろなあ
"เพราะเป็นรถ (Drive) แต่ดันใช้ W แหละ"

・俺は好きだけどな。仮面ライダーWの車。
でも、オタクじゃないと、引かれるな?
"ส่วนตัวแล้วผมชอบนะ ลาย Kamen Rider W เนี่ย
แต่ถ้าอีกฝ่ายไม่ใช่โอตะ เค้าคงเหวอแหละ"

・車に限らないけど男ウケと女ウケは違うよなぁ
"ก็ไม่ใช่แค่เรื่องรถหรอก คือสิ่งที่ผู้ชายกับผู้หญิงชอบมันไม่เหมือนกันอ่ะนะ"

・半分に割れる車はちょっと…
"ไอ้รถที่สีตัดครึ่งแบบนี้ไม่ไหวนะ…"

ที่ดูสงสัยกันว่าสีฟอร์มของรถมันอาจจะไม่โดนใจแฟนซักเท่าไหร่ และก็มีชาวญี่ปุ่นท่านหนึ่งมาช่วยวิเคราะห์อย่างละเอียดเลยว่า “สาวเค้าก็ต้องหนีสิ เพราะนี่มันเป็นรถที่แบ่งสีสองซีกตัดหารลงตัว แล้วถ้ามันตัดหารลงตัว ก็เหมือนกับบอกเป็นลาง ๆ ว่าในอนาคตจะแยกทางกันไง ดังนั้นถ้าให้คู่รักมานั่งรกแบบนี้มันก็ไม่เป็นมงคลเลย” ที่ฟังดูมีเหตุผลจริง และชาวญี่ปุ่นท่านดังกล่าวยังแนะนำต่อว่า “อย่างน้อยรถก็ควรจะทำสีแบบนี้มากกว่า” พร้อมแนบรูปรถที่มาในลายภาค Kamen Rider Drive มาให้ชมด้วย

ซึ่งนี่ก็เป็นความเห็นจากชาวญี่ปุ่นบางส่วน แต่ก็ยังไม่อาจฟันธงได้ว่าทำไมแฟนสาวของหนุ่มท่านนี้ถึงเลือกกลับบ้านไปก่อน แล้วชาวไทยอย่างเรา ๆ มีความคิดเห็นอย่างไรกับรถ Subaru คันนี้กันบ้าง?

ที่มา http://otakomu.jp