ทางสถาบันวิจัยประชากรและประกันสังคมแห่งชาติ หรือองค์กรใต้สังกัดของรัฐบาลญี่ปุ่น ได้ออกมาเผยผลสำรวจที่น่าตกใจเกี่ยวกับกรณีความคิดเห็นด้านการแต่งงานและการมีบุตร ซึ่งผลจากการสำรวจนั้นก็ถือว่าน่าสนใจทีเดียว เพราะพวกเขาดันได้ค้นพบว่าคนวัยหนุ่มสาวที่มีความต้องการจะแต่งงานในประเทศญี่ปุ่นนั้นมีจำนวนลดต่ำลงเป็นอย่างมาก ชนิดที่เรียกได้ว่าต่ำที่สุดเท่าที่เคยทำแบบสำรวจมาเลยก็ว่าได้ นอกจากนี้ ผลสำรวจยังชี้ให้เห็นเช่นกันว่าจำนวนบุตรที่หญิงสาวชาวญี่ปุ่นส่วนใหญ่อยากมีนั้นก็มีตัวเลขลดต่ำลงกว่าเดิมมากเช่นกันค่ะ

โดยแบบสอบถามที่ว่านี้เป็นแบบสอบถามที่ทางรัฐบาลญี่ปุ่นจะจัดทำขึ้นทุก ๆ ห้าปี และในครั้งนี้ พวกเขาก็ได้รวบรวมคำตอบมาจากกลุ่มวัยรุ่นที่มีอายุระหว่าง 18-34 ปี 7,862 คน ซึ่งพวกเขาเหล่านี้จะต้องยังโสดอยู่ทั้งหมด และหลังจากถามคำถามออกไปว่าพวกเขาต้องการจะแต่งงานหรือไม่ ผู้ชายกว่า 17.3% และผู้หญิงกว่า 14.6% กลับตอบออกมาว่า "พวกเขาไม่มีความคิดอยากจะแต่งงานเลยสักนิด" ในขณะที่ผู้ที่ยังอยากแต่งงานในวันใดวันหนึ่งนั้นมีจำนวนอยู่ที่ 81.4 และ 84.3% ตามลำดับ ซึ่งนับว่าเป็นตัวเลขที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่มีแบบสอบถามออกมาในปี 1982 เลยทีเดียว

ผลสำรวจอีกหนึ่งประเด็นที่มีความเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัดก็คือความคิดเห็นในเรื่องของการมีลูกค่ะ โดยหลังจากที่ถูกถามออกไปว่าพวกเขาต้องการมีบุตรหลังแต่งงานแล้วหรือไม่ กลุ่มเป้าหมายเพศชายที่ต้องการมีลูกหลังแต่งงานกลับมีอยู่แค่ 55% ในขณะที่เพศหญิงมีอยู่แค่ 36.6% ซึ่งนับว่าเป็นค่าสถิติที่ลดลงกว่าการสำรวจเมื่อห้าปีก่อนถึง 20% สำหรับเพศชายและ 30% สำหรับเพศหญิงเลยทีเดียว และถึงแม้จะอยากมีลูก แต่จำนวนบุตรในครอบครัวที่พวกเขาอยากมีนั้นก็ลดน้อยลงอย่างเห็นได้ชัดค่ะ

สาเหตุที่ตัวเลขต่าง ๆ ลดน้อยลงเช่นนี้ เหตุผลหลัก ๆ ก็คงไม่พ้นวิกฤติการระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ยังคงระบาดหนักในช่วงปี 2021 หรือก็คือช่วงที่มีการแจกจ่ายแบบสำรวจนี้ออกไป และด้วยความที่ในช่วงนั้น วัคซีนป้องกันโรคยังคงไม่แพร่หลายในประเทศญี่ปุ่น จึงไม่น่าแปลกใจที่หลาย ๆ คนจะยังไม่อยากแต่งงานมีครอบครัวในตอนนั้นค่ะ
ที่มา: Soranews24
ติดตามข่าวสารอื่น ๆ ภายในเว็บไซต์ Online Station ได้ที่ https://www.online-station.net