วันที่ 29 สิงหาคมที่ผ่านมามีการเปิดตัวบริการ AI ที่ชื่อว่า Mimic ซึ่งสามารถสร้างภาพวาดแนวอนิเมะได้จากภาพที่ผู้ใช้ป้อนเข้าไปแบบฟรี ๆ 2 ครั้ง ซึ่งทางผู้สร้างตั้งใจไว้ว่าจะให้เป็นเครื่องมือสำหรับช่วยสร้างภาพอ้างอิงให้กับนักวาด และที่สำคัญคือให้สิทธิของภาพที่สร้างด้วย Mimic เป็นของศิลปินเจ้าของภาพดั้งเดิม แต่ผ่านไปวันเดียวกลับกลายเป็นประเด็นร้อนแรงทั้งในสังคมไทยและญี่ปุ่น ว่าเจ้า AI นี้แหละที่จะมาทำให้นักวาดแนวอนิเมะได้ตกงานหรือกดค่าแรงจนพังพินาศอยู่ไม่ได้จริง ๆ

ล่าสุดดูเหมือนว่าทางผู้พัฒนา Mimic จะโดนกดดันและร้องเรียนอย่างหนักจากทางวงการนักวาดญี่ปุ่น ซึ่งทางผู้พัฒนาก็ยอมรับแต่โดยดีว่าไม่มีมาตราการป้องกันการละเมิดลิขสิทธิ์ที่ดีพอนอกเหนือจากการปั๊มลายน้ำลงในภาพ และได้ลบภาพทั้งหมดที่ Mimic สร้างขึ้นมาไปแล้ว
ทั้งนี้ทางผู้พัฒนาก็ไม่ได้ถึงขนาดจะพับโปรเจกต์ไปแบบถาวร แต่บอกว่าจะแก้ไขความบกพร่องประเด็นต่าง ๆ ในเวอร์ชั่น Beta นี้ให้ได้ก่อนออกเวอร์ชั่นเต็ม เช่น ปัญหาการละเมิดสิทธิ์ของศิลปินนักวาด โดยอาจจะมีการบันทึกว่าผลงานนั้นใช้สไตล์ของนักวาดคนไหน ๆ มา และกำหนดให้ผลงานดังกล่าวเป็นลิขสิทธิ์ของนักวาดคนนั้น ๆ ด้วย ก็ต้องรอดูว่าในอนาคตนั้นจะมีเวอร์ชั่นเต็มออกมาไหม และจะมีมาตรการป้องกันอย่างไรบ้าง
【mimicベータ版へのご意見に対する対応と回答、及び今後について】
— mimic(ミミック) (@illustmimic) August 30, 2022
この度mimicベータ版のリリースにあたり、多数のご意見を頂戴いたしました。
皆様のご意見に対する対応と回答、及び今後について説明させていただきます。ご一読くださいますようお願い申し上げます。 pic.twitter.com/J5TB1NPyda
แม้ว่าจะมีบางคนที่ยังมองในแง่ดีว่า AI นั้นอาจจะเป็นเครื่องทุ่นแรงให้กับนักวาด ลดภาระหน้าที่ลง หรือแม้แต่เป็นปัจจัยผลักดันให้นักวาดปรับปรุงฝีมือและหาจุดที่ AI ยังแข่งไม่ได้ และคนที่ปรับตัวไม่ทันก็คงต้องหายไปอยู่แล้วตามธรรมชาติของนวัตกรรมที่เข้ามาปฏิวัติวงการ แต่หลายคนก็มองว่า Mimic อาจจะทำให้อุตสาหกรรมนักวาดพังพินาศในระยะยาวได้ และอาจทำให้เกิดปัญหาในเรื่องลิขสิทธิ์ต่าง ๆ มากมาย เช่น ให้วาดตัวละครลิขสิทธิ์ แต่ด้วยสไตล์งานของอีกลิขสิทธิ์หนึ่ง

และที่สำคัญแม้ว่าทางผู้พัฒนาจะห้าม แต่สุดท้ายคนที่คิดไม่ซื่อก็คงจะคิดไม่ซื่ออยู่ดี อาจเอาภาพของนักวาดคนอื่น ๆ ไปป้อนให้ AI สร้างผลงานเลียนแบบ แล้วเอาไปใช้หากินโดยที่นักวาดคนดั้งเดิมไม่ทราบ ทำให้ศิลปินหลายคนแสดงความกังวล เช่น ArkPerformance ผู้วาดเรื่อง Arpeggio of Blue Steel ที่ออกมาประกาศห้ามนำผลงานของตนไปป้อนให้บริหาร AI อัตโนมัติต่าง ๆ และมีบางคนเล่าว่านักวาดบางคนถึงกับยอมลบภาพงานทั้งหมดที่ตัวเองโพสต์ไว้ เพราะกลัวว่าจะโดนเอาภาพไปป้อนให้ AI อ่านแล้วลอกลายเส้นเอาได้

เรียกได้ว่าเป็นนวัตกรรมเปลี่ยนโลกที่เป็นดาบสองคมจริง ๆ ครับสำหรับ AI วาดรูป ที่พัฒนาก้าวหน้าขึ้นทุกวัน ๆ ซึ่งหากคิดว่าเป็นเครื่องมือช่วยผ่อนแรงแล้วก็ถือว่าทรงพลังมาก แต่หากมีคนเอาไปใช้แบบผิด ๆ ด้วยความคิดเห็นแก่ได้ ก็อาจจะส่งผลเสียต่อวงการได้อย่างร้ายแรงลยทีเดียว
ที่มา: Esuteru
ติดตามข่าวสารอื่น ๆ ภายในเว็บไซต์ Online Station ได้ที่ https://www.online-station.net