ญี่ปุ่นนั้นได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่มีความปลอดภัยสูงอันดับต้น ๆ ของโลกและมีปัญหาอาชญากรรมจากอาวุธต่าง ๆ ค่อนข้างน้อย ทว่าล่าสุดดูเหมือนว่ามีเหตุการณ์ที่อาจจะคุกคามชื่อเสียงด้านนี้ของญี่ปุ่นอีกครั้งหนึ่ง แต่โชคดีที่สามารถยับยั้งได้ทันก่อนที่จะเกิดเหตุ
โดยในคืนวันจันทร์ที่ 10 สิงหาคมที่ผ่านมาเวลาสามทุ่มนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียกตัวชายต้องสงสัยวัยประมาณ 20 คนหนึ่งที่อยู่บนถนนหน้าสถานทูตสหรัฐอเมริกา ซึ่งเมื่อซักถามแล้วเขาบอกว่าเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยจากโอซาก้า
ทว่าเจ้าหน้าที่นั้นสังเกตว่ามีถ้วยอะไรบางอย่างอยู่ในกระเป๋าและห่อด้วยเศษผ้า พอตรวจค้นดู ก็พบว่ามีผงละเอียดบางอย่างอยู่ข้างใน ทางตำรวจจึงเชื่อว่าเป็นดินระเบิด ชายคนดังกล่าวจึงโดนเจ้าหน้าที่ตำรวจรวบตัวในทันที
ประเทศญี่ปุ่นนั้นมีกฎหมายควบคุมวัตถุระเบิดเข้มงวดมาก จึงไม่สามารถหาซื้อได้ง่าย ๆ แต่ชายคนนี้ยอมรับว่าเขานั้นศึกษาหาวิธีทำดินระเบิดด้วยตัวเองทางอินเทอร์เน็ต และตั้งใจมาที่นี่เพื่อปาระเบิดเพลิงเข้าไปในเขตสถานทูต อย่างไรก็ดียังไม่เป็นที่เปิดเผยว่าชายคนนี้มีเหตุจูงใจอันใดในที่จะก่อเหตุนี้
ตำรวจญี่ปุ่นนั้นมีธรรมเนียมในการหยุดคนที่ต้องสงสัยแล้วซักถามชื่อ อาชีพ หลักฐานยืนยันตัวตนเช่นบัตรประชาชน และเหตุผลว่าทำอะไรในพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งชาวญี่ปุ่นที่โดนก็มักให้ความเห็นว่าเป็นเรื่องน่ารำคาญ แต่คราวนี้ต้องเรียกได้ว่าโชคดีมากที่สามารถเรียกและหยุดผู้ไม่หวังดีก่อนที่จะก่อเหตุได้
คงพูดได้เลยว่าชายคนนี้คงจะไม่โดนปล่อยตัวไปง่าย ๆ แน่ เพราะนอกจากจะละเมิดกฎหมายพระราชบัญญัติควบคุมวัตถุระเบิดของญี่ปุ่นแล้ว ยังเป็นการตอกย้ำถึงอาชญากรรมที่เกิดจากอาวุธและวัตถุระเบิดต่าง ๆ ที่ก่อให้เกิดเหตุเศร้าสลด ไม่ว่าจะเป็นปืนลูกซองประดิษฐ์ที่คร่าชีวิตของนายชินโซ อาเบะ อดีตนายกรัฐมนตรี
หรือเหตุการณ์วางเพลิง Kyoto Animation เมื่อปี 2019 ซึ่งล้วนแต่เผยให้เห็นความหละหลวมและความชะล่าใจในด้านความปลอดภัยของสังคมญี่ปุ่น จนนำไปสู่เหตุร้ายเพราะประมาทความสามารถในการก่อเหตุร้ายของคน ๆ เดียวจนเกินไป ดังนั้นกันไว้ดีกว่าแก้นั่นจะเป็นการดีที่สุดครับ
ที่มา: Sora News 24
ติดตามข่าวสารอื่น ๆ ภายในเว็บไซต์ Online Station ได้ที่ https://www.online-station.net
