Tiktok งานเข้า! โดนส่งเรื่องขอให้ Apple และ Google ถอดออกจากแอปสโตร์

แชร์เรื่องนี้:
Tiktok งานเข้า! โดนส่งเรื่องขอให้ Apple และ Google ถอดออกจากแอปสโตร์

มีรายงานว่าหนึ่งในสมาชิก Federal Communications Commission หรือ FCC (กสทช. ของสหรัฐอเมริกา) คุณ Brendan Carr ได้ยื่นจดหมายเปิดผนึกในนามส่วนตัว (ไม่ใช่ในฐานะมติของ FCC) จ่าหน้าถึง CEO Tim Cook ของ Apple และ Sundar Pichai ของ Google โดยร้องขอให้ทั้งสองบริษัทถอดแอป TikTok ออกจาก App Store และ Google Play Store ซึ่งหากทั้งสองบริษัทรับเรื่องและดำเนินการ ก็เท่ากับเป็นการแบนแพลตฟอร์มดังกล่าวจากฐานผู้ใช้จำนวนมากในสหรัฐฯ พอ ๆ กับที่ประเทศอินเดียเคยแบนเลยทีเดียว

https://twitter.com/BrendanCarrFCC/status/1541823585957707776

คุณ Carr อ้างจากรายงานของ BuzzFeed ว่าแอป TikTok นั้นมีการเก็บรวบรวมข้อมูลมากมายซึ่งทางบริษัทแม่ในประเทศจีน และรัฐบาลปักกิ่งสามารถเข้าถึงได้หากต้องการ อีกทั้งยังสามารถเข้าถึงเป็นเวลาหลายเดือนด้วย ไม่ใช่แค่ระยะเวลาสั้น ๆ ซึ่งอาจจะเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติได้ นอกจากนี้ยังอ้างถึงเหตุการณ์และการกระทำหลายอย่างก่อนหน้านี้ รวมถึงการที่ประเทศอินเดียตัดสินใจแบน TikTok เป็นเหตุผลประกอบการตัดสินใจครั้งนี้ด้วย

คุณ Carr บอกว่าคำร้องขอถอดแอปนี้ทำเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประชาชนชาวอเมริกันและป้องกันไม่ให้ข้อมูลรั่วไหลไปตกอยู่ในมือของประเทศและรัฐบาลจีน หากทั้งสองบริษัทตัดสินใจไม่ถอดแอปออกจากร้าน ก็ขอให้ตอบกลับมาภายในวันที่ 8 กรกฏาคมที่จะถึงนี้โดยชี้แจงเหตุผลด้วย

ขณะที่เขียนอยู่นี้ ทั้ง Google และ Apple ยังไม่ได้แสดงความคิดเห็นแต่อย่างใดต่อจดหมายฉบับนี้ครับ

ทั้งนี้ทาง TikTok นั้นก็มีความพยายามที่จะปฏิบัติตามนโยบายของสหรัฐฯ มาซักพักหนึ่งแล้ว รวมถึงมีการอพยพข้อมูลจากเซิฟเวอร์ที่ประเทศสิงคโปร์ มาเป็นเซิฟเวอร์ของบริษัท Oracle ในสหรัฐอเมริกาเอง เพื่อเป็นการรักษาให้ข้อมูลมีความปลอดภัยและปฏิบัติตามกฎระเบียบในการรักษาและลบข้อมูล

กระนั้น CEO ของ TikTok คุณ Shou Zi Chew เองก็ออกมายอมรับแล้วว่าพนักงานจากสาขาหลักในจีนสามารถเข้าถึงข้อมูลผู้ใช้ในสหรัฐฯ ได้จริง แต่ก็ต้องได้รับการอนุมัติและทำตามขั้นตอนของทีมรักษาความปลอดภัยของข้อมูลที่อยู่ในสหรัฐฯ ก่อนจึงจะเข้าถึงได้

คุณ Chew ให้เหตุผลว่าพนักงานนอกสหรัฐฯ รวมถึงในจีนนั้นจะเข้าถึงได้เฉพาะข้อมูลผู้ใช้ชุดที่ไม่มีความอ่อนไหวเท่านั้น เช่นวิดีโอที่เปิดเป็นสาธารณะและคอมเมนต์ เพื่อจุดประสงค์การดำเนินงานร่วมกันในระดับโลก และรับปากว่าจะปกป้องรักษาข้อมูลส่วนตัวและข้อมูลการใช้งานของผู้ใช้ให้รัดกุมที่สุด

ที่มา: CNN, The Register

ติดตามข่าวสารอื่น ๆ ภายในเว็บไซต์ Online Station ได้ที่ https://www.online-station.net

แชร์เรื่องนี้:

เรื่องที่คุณอาจสนใจ