ญี่ปุ่นเผย ปัญหาเด็กเติมเงินเกม และเปย์เงินให้สตรีมเมอร์แบบเกินตัวมีเพิ่มขึ้นมาก

จากการระบาดของไวรัส COVID-19 นอกจากจะส่งผลกระทบกับคนวัยทำงานแล้ว ยังมีผลกับกลุ่มนักเรียนที่ตอนนี้ต้องอยู่แต่ในบ้าน เนื่องจากโรงเรียนได้ปิดการเรียนการสอน ซึ่งเหตุการณ์นี้ก็เกิดขึ้นในญี่ปุ่นด้วยเช่นกัน แต่สำหรับญี่ปุ่นแทนที่พอเด็กได้มาอยู่บ้านจะทำให้ชีวิตสงบสุขและปลอดภัย กลับกำลังเกิดปัญหาที่จะทำให้บรรดาผู้ปกครองต้องปวดหัวกันหนักขึ้นไปอีก

โดยศูนย์ให้คำปรึกษาผู้บริโภคญี่ปุ่นเผยว่า การระบาดของไวรัส COVID-19 ได้ทำให้เด็กนักเรียนตั้งแต่ระดับชั้นประถมไปจนถึงมัธยมที่ต้องอยู่กับบ้าน หันไปเล่นเกมออนไลน์หรือเล่นแอปดูสตรีมเมอร์เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก และ เด็กเหล่านี้ก็เริ่มใช้เงินเกินตัวจนมีผู้ปกครองจากทั่วญี่ปุ่นติดต่อขอคำปรึกษาอย่างไม่ขาดสาย จนมีจำนวนเคสก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยเมื่อปี 2016 มีจำนวนคำร้องที่ 1,171 ครั้ง แต่พอมาในปี 2020 คำร้องได้เพิ่มขึ้นมาเป็น 3,723 ครั้ง ที่เพิ่มถึง 3 เท่า ทุบสถิติไปเรื่อยๆ ด้วย

ซึ่งศูนย์ให้คำปรึกษาผู้บริโภคญี่ปุ่นก็ได้เผยกรณีตัวอย่างเช่น เมื่อเดือนพฤษภาคมของปีนี้ ได้เกิดเรื่องที่เด็กประถมสองคนเอาแท็บเล็ตของครอบครัว ที่ลงทะเบียนบัตรเครดิตของผู้ปกครองเอาไว้ ไปเติมเงินเกมออนไลน์กว่า 1,500,000 เยน(ประมาณ 4 แสนบาท) ซึ่งแน่นอนว่าทางบริษัทของบัตรเครดิทก็ได้ส่งเมลเกี่ยวกับการใช้จ่ายนี้มาให้ แต่เด็กทั้งสองได้นำข้อความอีเมลไปซ่อนไว้ในถังขยะทำให้ผู้ปกครองไม่รู้เรื่อง แล้วยอดมูลค่าความเสียหายก็พุ่งสูงขึ้นจนขึ้นมาเป็นหลักล้าน

แล้วในเดือนเดียวกันก็มีผู้ปกครองมาปรึกษาในเรื่องทำนองนี้อีกหลายครั้ง เช่น คุณพ่อวัย 40 ปี ได้มาขอปรึกษาเกี่ยวกับลูกสาวที่ยังเรียนอยู่มัธยมต้น นำมือถือของแม่ไปเล่นแล้วเอาเงินจำนวน 200,000 เยน (ประมาณ 6 หมื่นบาท) ไปเปย์ให้กับสตรีมเมอร์ หรือในอีกกรณีที่คุณแม่วัย 30 ปี โดนลูกชายที่ยังเรียนอยู่มัธยมต้นนำเงินจำนวน 700,000 เยน (ประมาณ 2 แสนบาท) ไปเปย์สตรีมเมอร์เช่นกัน

แล้วเงินที่เติมไปก็ไม่สามารถขอคืนได้ด้วย โดยโดยศูนย์ให้คำปรึกษาผู้บริโภคได้ชี้แจงว่า “กรณีที่ลูกนำบัตรเครดิตของพ่อแม่ไปใช้ซื้อของ จะถูกตัดสินว่าพ่อแม่ได้ยินยอมแล้ว และทางบริษัทก็จะไม่คืนเงินให้ ดังนั้นผู้ปกครองจะต้องเก็บรักษามือถือหรือบัตรให้ดีๆ และตั้งรหัสไม่ให้เด็กรู้”

ความเห็นชาวญี่ปุ่นเกี่ยวกับเรื่องนี้

世界中の金がグーグルに集まってる
"เงินจากทั่วทุกมุมโลกไปรวมอยู่กับ Google"

スパチャは法律で規制すべきだと思う。
"Super Chat นี่ควรถูกกฎหมายควบคุมได้แล้วล่ะ"

FGOやってそう
"เล่น FGO ชัวร์"

クレカのセキュリティガバガバすぎ
"ไอ้การป้องกันบัตรเครดิตก็แย่เกิน"

どれも端末の管理の問題で草
"จะปัญหาไหนก็มาจากมือถือทั้งนั้นเลย เหอๆ"

なぜロックかけてないんですか
"แล้วทำไมถึงไม่ล็อคเอาไว้"

親も子供並みに馬鹿だったと言うだけの話。投げ銭やアプリゲーが悪いと言うことではない
"สรุปเรื่องนี้พ่อแม่ก็บ้าพอกันไม่ต่างจากลูกเลย คือตัวแอปเกมและการเปย์ไม่ได้ผิดซักหน่อย"

なぜロックかけてないんですか。なんでクレジットを登録してるものを子供がいじれるんですか。自衛しろよ
"ทำไมถึงไม่ล็อคมือถือเอาไว้ล่ะ หัดป้องกันมั่งดิ ทำไมถึงปล่อยให้เด็กเอามือถือที่ลงบัตรเครดิตไว้ไปใช้ง่ายๆล่ะ"

ถึงแม้เหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นในญี่ปุ่น แต่ก็ไม่ใช่เรื่องไกลตัวสำหรับเราๆเท่าไหร่นัก ดังนั้นใครที่มีบุตรหลานก็ควรสอดส่องตรวจดูการเล่นเกมหรือมือถือของพวกเขาเป็นระยะ และอย่าลืมเก็บบัตรเครดิต หรือมือถือที่ลงทะเบียนบัตรเอาไว้ให้ดีๆ ไม่อย่างนั้นอาจจะเสียเงินได้โดยที่ไม่รู้ตัว

ที่มา http://yaraon-blog.com/archives/207285

Arms