เชื่อว่าหลายคนที่โชคดีถูกหวยก็คงจะดีอกดีใจและออกทีวีกันจนเป็นข่าวใหญ่ แต่บางคนกลับไม่คิดแบบนั้น เหมือน เศรษฐีอเมริกา คนนี้ที่ออกมาแชร์ประสบการณ์หลังจากเขาถูกรางวัลเป็นเงินมูลค่ามหาศาล และกลายเป็นเศรษฐีในชั่วข้ามคืน แต่เพราะมีอะไรบางอย่างที่ทำให้เขาได้ทำ และ รู้สึกเสียดายเหลือเกิน ที่เขาไม่สามารถกลับไปแก้ไขได้

โดย ชายอายุ 67 ปี คนนี้ได้ถูกรางวัลใหญ่ที่สุดที่บันทึกได้ในแคลิฟอร์เนียเป็นจำนวนกว่า 52 ล้านเหรียญ เมื่อปี 2011 แต่เนื่องจากความกลัวที่จะมีใครล่วงรู้ถึงรางวัลที่ถูกส่งมาจากสวรรค์นี้ ทำให้เขา ไม่กล้าบอกใครว่าเขาถูกรางวัล ไม่เว้นแม้กระทั่งพ่อแม่และน้องสาวของเขา โดยหลังจากเขาถูกรางวัล เขาก็เริ่มทำการบริจาคเงินที่ได้มาเป็นการกุศลส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งเขาก็เอาไปซื้อรถกระบะ และบ้าน โดยที่โกหกคนรอบข้างว่าเขาได้ทำการผ่อนมันด้วยตัวเอง เขาพยายามทำตัวปกติ และดูเหมือนโชคจะเข้าข้างเขาด้วย ที่ไม่มีใครจับได้ถึงความรวยอันมหาศาลของเขา

แต่ดูเหมือนว่าสิ่งที่เขาทำจะทำให้เขารู้สึกผิดจนถึงทุกวันนี้ เพราะความกลัว ทำให้เขาไม่กล้าบอกใคร น้องสาวเองเขาก็กลัวว่าจะมีการแย่งชิงทรัพย์สมบัติเกิดขึ้น ปัจจุบัน เขาอยู่กับทรัพย์สมบัติมหาศาลอย่างโดดเดี่ยว ไม่มีคู่ครอง ไม่มีทายาท พ่อแม่ก็จากโลกนี้ไปแล้ว ส่วนน้องสาวก็ขาดการติดต่อเช่นกัน นี่เองที่ทำให้เขากล้าออกมาเปิดเผยในวัยชรา และตั้งคำถามว่า นี่เขาผิดหรือไม่ที่ไม่กล้าบอกใครว่าเขาถูกรางวัล

ซึ่งการเปิดเผยออกมาทางโซเชียลมีเดียนี้ทำให้คนเข้ามาแสดงความเห็นอย่างมากมาย บ้างก็แสดงความเห็นใจ บ้างก็รู้สึกเสียดายแทนที่เขาไม่สามารถสร้างความสุขร่วมกับคนที่เขารักได้ เพียงเพราะแค่กลัวคนรอบข้าง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น กรณีของเศรษฐีคนนี้ก็คงจะทำให้คนที่เพิ่งเป็นเศรษฐีชั่วข้ามคืนได้นึกอะไรออกบ้าง ว่า คุณจะปฏิบัติตัวอย่างไรต่อคนรอบข้าง เพื่ออนาคตข้างหน้า…
ที่มา : http://live56today.com/
