มหาวิทยาลัยเกาหลีใต้ทำส้วมให้แปลงอุนจิเป็นพลังไฟฟ้าและสกุลเงินเพื่อใช้จ่ายได้ by OS

ปกติแล้วถ้าใครเคยเรียนวิทยาศาสตร์มาบ้าง อาจจะพอทราบนะครับว่าอุนจิหรืออุจจาระของคนเรานั้นคือวัตถุอินทรีย์ชนิดหนึ่งที่สามารถแปลงสภาพเป็นก๊าซธรรมชาติที่มีชื่อว่า มีเทน ได้ด้วยนั่นเอง

ทีนี้ เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคมที่ผ่านมา ทางสถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติอุลซาน ซึ่งเป็น 1 ใน 4 มหาวิทยาลัยของรัฐบาลในเกาหลีใต้ที่เน้นการวิจัยด้านวิทยาศาสตร์โดยเฉพาะ ได้พัฒนาส้วมรูปแบบใหม่ที่มีชื่อว่า BeeVi ที่สามารถแปลงสภาพอุจจาระของมนุษย์ให้เป็นพลังงานไฟฟ้า รวมถึงสกุลเงินดิจิทัลได้ด้วย

รูปแบบการทำงานของส้วม BeeVi จะเป็นแบบนี้ครับ เริ่มจากกระบวนการเก็บน้ำจากปั๊มสุญญากาศ แล้วส่งผ่านไปยังแทงค์ที่บรรจุของเสียที่คนขับถ่ายกัน จากนั้นก็ย่อยสลายอุนจิและคัดแยกก๊าซมีเทนออกมาในที่สุด โดยส้วม BeeVi ก็ได้ถูกนำไปติดตั้งในแล็บของมหาวิทยาลัย และนำพลังงานจากก๊าซมีเทนไปแปลงเป็นพลังไฟฟ้าเพื่อใช้ในอาคารต่อไป

คุณโชแจวอน ผู้สร้างสิ่งประดิษฐ์อย่างส้วม BeeVi ก็เผยว่าปกติแล้วมนุษย์เราจะขับอุนจิออกมาเฉลี่ยวันละ 500 กรัม โดยนำไปแปลงเป็นก๊าซมีเทนได้ 50 ลิตร ซึ่งสามารถสร้างพลังงานไฟฟ้าได้ถึง 0.5 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมง ถ้าอธิบายให้เห็นภาพง่าย ๆ คือ อุนจิของ 1 คนต่อวัน สามารถทำให้รถยนต์วิ่งได้ไกลกว่า 1 กิโลเมตรเลยทีเดียว

นอกจากนี้ BeeVi ยังถูกออกแบบระบบมาให้สามารถแปลงอุนจิเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่เรียกว่า กูล (Ggool) โดยในภาษาเกาหลีคำว่ากูลจะหมายถึง "น้ำผึ้ง" ครับ ทีนี้ เขาก็เลยมีการมอบเงินจำนวน 10 กูลแก่คนที่ใช้ส้วม BeeVi ในแต่ละวัน และสามารถนำเงินกูลนี้ไปสะสมเพื่อซื้อขนมหรืออุปกรณ์การเรียนภายในมหาวิทยาลัยได้ด้วย

หากใครสงสัยว่าเงินกูลมันมีค่าประมาณไหน ทางข่าวต้นทางมีระบุไว้ครับว่าเงิน 10 กูลที่ได้จากการใช้บริการส้วม BeeVi ต่อวันนั้นสามารถนำไปซื้อกาแฟดื่มได้แก้วหนึ่งเลย

จากนั้นนักข่าวจากสำนักรอยเตอร์ก็มีไปสัมภาษณ์นักศึกษาคนหนึ่งที่ใช้เงินกูลจับจ่าย เจ้าตัวก็เล่าว่าตอนแรกเขาเคยคิดแต่ว่าอุนจิจะเป็นเพียงแค่ของสกปรกเท่านั้น แต่ตอนนี้มันได้กลายเป็นของล้ำค่าสำหรับเขาไปแล้ว (ฮา)

หลังจากที่เรื่องราวของสิ่งประดิษฐ์สุดแนวอย่างส้วม BeeVi ได้ถูกเผยแพร่ออกไปยังโลกโซเชียล ก็มีบรรดาชาวเน็ตในเกาหลีใต้พากันคอมเมนต์ถึงเรื่องนี้กันมากมาย ดังตัวอย่างด้านล่างครับ

"ฉันอยากจะอยู่ใช้เงินที่ได้มาจากการอุนจิบ้างจัง"
"ฉันจะอุนจิออกมาให้ได้มากกว่าคนทั่วไป 5 เท่าเลย โอกาสมาถึงแล้ววววว!"
"อย่างนี้แล้ว คนที่ท้องร่วงหรือถ่ายเป็นเลือดจะได้เงินกูลเหมือนกันไหมเนี่ย?"
"โอ้วเย่! เกาหลีใต้ เอ็งทำได้เว้ย!"
"ในเชิงสมมติฐาน ถ้าเราเปลี่ยนเบาะที่นั่งในรถยนต์เป็นส้วมหมด เราก็ขับได้เรื่อย ๆ ไม่ต้องพะวงอะไรแล้วสิ"

อย่างไรก็ตาม เรื่องราวของส้วม BeeVi นี้ยังไม่ใช่เคสแรกที่เคยเกิดขึ้นครับ โดยย้อนไปเมื่อ 10 ปีก่อน ทางแบรนด์สุขภัณฑ์ชื่อดังของญี่ปุ่นอย่าง Toto ก็เคยผุดโปรเจ็กต์มอเตอร์ไซค์สุขภัณฑ์ Neo มาแล้ว โดยขับเคลื่อนด้วยพลังจากก๊าซมีเทนและโชว์ขับขี่ไปทั่วประเทศญี่ปุ่นให้ดูในโฆษณาด้วย

(ล่าง) โฆษณามอเตอร์ไซค์สุขภัณฑ์ Neo ของ Toto