วัยรุ่นญี่ปุ่นสนใจกีฬา Sumo ลดลง เพราะมองว่าเสี่ยงเจ็บตัวและไม่อยากโป๊บนเวที

ซูโม่ (Sumo) เป็นกีฬาอันเก่าแก่ของประเทศญี่ปุ่นมาตั้งแต่ยุคศตวรรษที่ 12 และมีการสืบสานวัฒนธรรมของกีฬานี้จากรุ่นสู่รุ่นมาช้านาน ทว่าในปัจจุบันดูเหมือนกระแสความนิยมของเยาวชนคนรุ่นใหม่ที่มีต่อกีฬาซูโม่นั้นได้ลดลงไปอย่างมาก โดยชมรมซูโม่ในระดับมัธยมปลายที่มีอยู่ 213 แห่งในปี 2003 ได้ลดลงเหลือเพียง 146 แห่งเมื่อปีที่แล้วครับ

นอกจากนี้ ในทั้งหมด 47 จังหวัดของญี่ปุ่น มีอยู่ถึง 7 จังหวัดที่เหลือทีมซูโม่ระดับมัธยมปลายเพียงทีมเดียวเท่านั้น ด้วยเหตุนี้ทางสมาคมกีฬาระดับมัธยมปลายของญี่ปุ่นจึงได้ทำการสำรวจความคิดเห็นของเด็กมัธยมปลายที่มีต่อกีฬาซูโม่ดู และก็พบว่าพวกเขามองว่าซูโม่นั้นเป็นกีฬาที่ไม่มีอะไรน่าดึงดูดเลย โดยมีเหตุผลหลัก ๆ 3 ข้อดังนี้

ซูโม่เป็นกีฬาที่เสี่ยงเจ็บเนื้อเจ็บตัว เนื่องจากร่างกายต้องปะทะกันโดยตรง แถมต้องใช้แรงอย่างมากในการดันหรือเหวี่ยงคู่ต่อสู้ให้ออกนอกวง ยิ่งคู่ต่อสู้มีน้ำหนักตัวมากก็ต้องใช้แรงที่มากตาม
สืบเนื่องจากข้อแรก แม้ซูโม่จะมีการแบ่งรุ่นตามน้ำหนักของผู้แข่งขันก็ตาม แต่บ่อยครั้งที่นักซูโม่หลายคนมักจะเจอคู่ต่อสู้ที่มีโครงสร้างร่างกายที่ใหญ่กว่าตัวเองเกือบ 2 เท่าในรุ่นเดียวกัน ทำให้ภาพลักษณ์ของการแข่งขันในสายตาพวกเขาเลยดูน่ากลัว ไม่น่าลงไปเสี่ยงให้เจ็บตัวฟรีเอาเปล่า ๆ
เครื่องแต่งกายของนักซูโม่มีเพียงมาวาชิ (廻し) ที่เป็นผ้าพันรอบเอว ปกปิดได้แต่เพียงจุดซ่อนเร้นแค่ชิ้นเดียวเท่านั้น จึงดูน่าอายหากจะต้องแต่งกายดูโป๊ต่อหน้าผู้ชมนับร้อยนับพันคน

หลังจากที่กระแสนี้ถูกเผยแพร่ออกไปในโลกโซเชียล บรรดาชาวเน็ตในญี่ปุ่นต่างก็แสดงคอมเมนต์ไปในทางเห็นด้วยกับเด็ก ๆ บ้างก็ว่าทำไมซูโม่ยังต้องยึดติดกับวัฒนธรรมนุ่งผ้ารัดเอวแบบสมัยก่อนอยู่ ขนาดกีฬาว่ายน้ำยังไม่นุ่งโป๊ขนาดนี้เลย บ้างก็ว่าการเป็นนักกีฬาซูโม่ต้องขุนร่างกายให้อ้วนพี ไม่ดีต่อสุขภาพ เป็นต้น

ซึ่งตรงนี้ก็ต้องเป็นหน้าที่ของผู้ใหญ่ในสมาคมกีฬาซูโม่ของญี่ปุ่นแล้วละครับว่าจะมีการแก้ไขปัญหานี้อย่างไร มันจะดีกว่ามั้ยหากลองปรับเปลี่ยนกฎบางอย่างให้เข้ากับสังคมยุคปัจจุบัน เพื่อเป็นการรักษากีฬาซูโม่ไม่ให้เสื่อมความนิยมไปตามกาลเวลา