ทุกวันนี้สภาพสังคมในประเทศญี่ปุ่น ไม่เว้นแม้แต่ประเทศอื่นๆ ทั่วโลกมีแนวโน้มที่คู่รักจะทดลองใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันก่อนแต่งงานเป็นจำนวนที่มากขึ้นครับ โดยส่วนใหญ่การทำเช่นนี้ก็เพื่อศึกษาไลฟ์สไตล์ซึ่งกันและกันให้ดีพอเสียก่อน และเพื่อพิจารณาว่าทั้งคู่จะเข้ากันได้หรือไม่นั่นเอง แต่ถึงแม้ว่าจะเป็นคู่รักที่อยู่กินด้วยกันแล้ว ก็ไม่แน่เสมอไปว่าเราจะได้เห็นทุกแง่มุมของอีกฝ่ายแบบทะลุปรุโปร่ง ด้วยเหตุนี้ ผู้ใช้ทวิตเตอร์ชาวญี่ปุ่นที่ใช้นามแฝงว่า @r_itt_su ก็ได้ทวิตข้อความเสนอทริคในการเช็คว่าแฟนหนุ่มที่อาศัยอยู่ด้วยกันจะสามารถเป็นสามีที่ดีในอนาคตได้หรือไม่
วิธีดังกล่าวก็คือ นำกระติกใส่น้ำชาที่ชงแล้วไปแช่ในตู้เย็น เมื่อไหร่ก็ตามที่น้ำชาในกระติกใกล้หมด ถ้าฝ่ายชายจัดการเปลี่ยนน้ำชาในกระติกให้เต็มเหมือนเดิมโดยที่ฝ่ายหญิงไม่ต้องเอ่ยปากบอก แสดงว่าแฟนที่คบอยู่คนนี้สามารถเป็นสามีที่ดีให้กับเราได้ แต่หากผู้ชายคนไหนปล่อยให้น้ำชามันหมดอยู่อย่างนั้น ก็อย่าคิดแต่งงานกับคนแบบนี้เลย
จะเห็นได้ว่าวิธีการของ @r_itt_su นั้นเป็นกลวิธีที่ต้องพึ่งพาเซ้นส์ของฝ่ายชายเยอะมาก ซึ่งหาความแน่นอนอะไรจากการทดสอบแบบนี้ไม่ได้แม้แต่นิดเดียว พอเรื่องนี้ถูกเผยแพร่ลงโลกโซเชียล ความเห็นของชาวเน็ตในญี่ปุ่นเลยแตกออกเป็นหลายทาง บ้างก็เข้าข้างฝ่ายหญิง โดยมองว่าถ้าผู้ชายคนไหนที่ไม่เก็ตเรื่องง่ายๆ แค่นี้ เท่ากับว่าคิดไม่ทันกัน ไปด้วยกันได้ยากแล้ว ในขณะที่อีกหลายความเห็นมองว่าการทดสอบลักษณะนี้ดูงี่เง่าเกินไป ผู้ชายเขาไม่มาจุกจิกอะไรเรื่องแบบนี้กัน ดังตัวอย่างความเห็นด้านล่างครับ
"ฉันมักบอกลูกชายอยู่เสมอว่า ถ้าแกไม่ช่วยทำงานบ้านเลย ก็ไม่มีผู้หญิงที่ไหนอยากแต่งงานกับแกหรอก"
"พวกหนุ่มๆ ในออฟฟิศเดียวกับฉันก็ไม่เคยคิดจะต้มชาเองเลยนะ ดีแต่รอพนักงานหญิงต้มให้ก่อนตลอด"
"มองในมุมกลับกัน แค่ฝ่ายหญิงพูดไปเลยว่า ชาใกล้หมดแล้วนะ ช่วยชงให้ใหม่ได้มั้ย แล้วก็พูดขอบคุณหลังจากเราชงเสร็จ เท่านี้คุณก็เป็นภรรยาที่ดีได้แล้ว ถ้าทำท่าไม่พอใจว่าทำไมต้องให้ผู้หญิงชงชาอยู่คนเดียว ผู้ชายควรสังเกตได้เองสิว่าชาจะหมดแล้ว และรีบชงใหม่ทันที เรื่องพวกนี้ผู้ชายก็ไม่ได้ละเอียดขนาดนั้นหรอก ผู้หญิงอยากได้อะไร อยากให้ผู้ชายทำอะไรก็พูดไปตรงๆ สิ ใครมันจะไปตรัสรู้ฟะ ไม่แปลกหรอกที่มันจะจบด้วยการทะเลาะกัน"
สำหรับดราม่านี้ อิงมาจากข้อเท็จจริงอย่างนึงในสังคมญี่ป่น ที่เผยว่าผู้ชายจะมีส่วนร่วมในการทำงานบ้านน้อยกว่าผู้หญิงมาก เพราะค่านิยมของผู้ชายญี่ปุ่นมักมองว่าเขามีหน้าที่ไปทำงานหาเงิน ดังนั้นงานบ้านก็ควรโยนให้เป็นหน้าที่ของผู้หญิงไป ซึ่งถ้ามองกันแบบแฟร์ๆ ของแบบนี้ยังไงก็ต้องช่วยกันครับ บางคู่อาจจะแบ่งหน้าที่กันให้ชัดเจนไปเลยว่าใครต้องทำอะไร ถ้าช่วยกันได้ ชีวิตคู่จะราบรื่นขึ้นเยอะครับ
เครดิต: Soranews24