ก่อนที่จะเข้าเรื่อง ขอเท้าความเดิมที่ข่าวนี้ก่อน https://www.online-station.net/anime/view/121465 เพื่อให้เพื่อนๆ ได้ทราบวีรกรรมครั้งที่แล้วของนายไดโกะ สึกาโนะ คนร้ายของคดีนี้และคดีที่เราจะพูดถึงในย่อหน้าถัดไปครับ
เรื่องมันมีอยู่ว่า ในระยะนี้ บรรดาห้างร้านต่างๆ ในญี่ปุ่นเขาจะออกโปรโมชั่นส่งเสริมการขายด้วยรูปแบบต่างๆ ครับ และร้าน MUJI ซึ่งเป็นร้านจำหน่ายเสื้อผ้า สินค้าแนวไลฟ์สไตล์ และอุปกรณ์ตกแต่งบ้าน ก็เป็นอีกหนึ่งร้านที่ออกโปรโมชั่นที่เปิดโอกาสให้ผู้คนทำการเช็คอินผ่านแอพ MUJI Passport เวลามาเยือนที่ร้านเพื่อรับเงินรางวัล โดยเงินรางวัลที่ว่านี้ก็สามารถนำไปใช้จับจ่ายซื้อสินค้าภายในร้านแทนเงินสดจริงๆ ได้อีกด้วย ทั้งนี้ การเช็คอินที่ร้าน MUJI แต่ละครั้ง ลูกค้าก็จะได้เงินรางวัลตอบแทนเป็นจำนวนครั้งละ 1 เยนครับ
ทีนี้ นายไดโกะ สึกาโนะ หนุ่มวัย 29 ปีที่เพิ่งจะโดนจับมาในคดีที่ใช้คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คจำนวน 45 เครื่องในการระดมเช็คอินที่ห้างสรรพสินค้า AEON ผ่านแอพเป็นจำนวนรวมกว่า 2 ล้านครั้ง ก็ถูกจับกุมซ้ำอีกรอบหลังจากไปใช้วิธีเดิม คือหาคอมพิวเตอร์มา 45 เครื่อง พร้อมกับสร้างไอดีปลอมมา 300 ไอดี ก่อนจะใช้วิธีบางอย่างในการหลอกตำแหน่ง GPS แล้วไปเช็คอินผ่านแอพรัวๆ ที่ร้าน MUJI จำนวน 909 สาขาที่อยู่ทั่วประเทศญี่ปุ่น ตลอดจนสาขาที่อยู่ในทวีปอเมริกาเหนือและยุโรป รวมแล้วนายสึกาโนะสามารถรัวเช็คอินได้เป็นจำนวน 5.6 ล้านครั้ง (ก็คือได้เงินรางวัลผ่านแอพถึง 5.6 ล้านเยน หรือประมาณ 1.6 ล้านบาท) ภายในระยะเวลาเพียง 1 เดือนกว่าๆ
ต่อมา ทางร้าน MUJI กับเจ้าหน้าที่ตำรวจก็รู้สึกผิดสังเกต เพราะพอแกะรอยตามสืบไปจนถึงต้นตอ ก็พบว่าคนร้ายพักอาศัยอยู่ในเกาะฮอกไกโดและไม่ได้เดินทางออกจากที่นั่นเลย จึงเป็นไปไม่ได้อย่างสิ้นเชิงที่เขาจะปลีกเวลาไปแวะร้าน MUJI ได้ถึง 3 ทวีปได้ 5 ล้านกว่าครั้งภายในเวลาแค่เดือนเศษ ในที่สุดนายสึกาโนะก็ต้องไปนอนคุกตามระเบียบ เรียกว่ากรรมติดจรวดแท้ๆ และนี่ก็น่าจะเป็นบทเรียนสำหรับคนที่หวังจะรวยทางลัดด้วยวิธีผิดกฎหมายนะครับว่าถ้าอยากจะมีเงินใช้มากมายในวันหน้าก็ต้องขยันทำงาน รู้จักอดออม หรือถ้ารอไม่ไหวจริงๆ ก็เสี่ยงโชคกับล็อตเตอรี่เอาละกันเนอะ
เครดิต: Soranews24