โลกเรานี้มีผู้คนที่ถูกกลั่นแกล้ง (Bully) ด้วยวิธีการที่หลากหลายกันไปตามสถานการณ์ และรูปแบบของการกลั่นแกล้งครับ ซึ่ง 1 ในรูปแบบการกลั่นแกล้งผู้อื่นที่เราพบเห็นกันได้บ่อยก็คือการวิจารณ์รูปลักษณ์ของผู้อื่นอย่างเสียๆ หายๆ ด้วยวาจา สายตา หรืออากัปกิริยาประกอบ หรือที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า Body Shame โดยญี่ปุ่นเองก็เป็นประเทศนึงที่ประสบปัญหานี้กันบ่อยมาก
ทีนี้ ก็มีประเด็นเกิดขึ้นมาครับ เมื่อ มาฮิโระ ทาดะ เจ้าของไอดีทวิตเตอร์ Mappy_Pipipi ผู้มีอาชีพเป็นนักวาดหนังสือภาพ และเป็นที่รู้จักในด้านคอนเซ็ปต์การวาดที่มักจะจำลองจากสถานการณ์จริงที่เขาได้พบเจอมา โดยผลงานล่าสุดของเขานั้น เขาได้วาดจากเหตุการณ์ที่ตนเองเพิ่งจะไปร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดแห่งนึงมา ทันใดนั้นก็มีชาย 2 คนเดินเข้ามาในร้าน แล้วทำกิริยาไม่เหมาะสมด้วยการมองหาสาวๆ ที่นั่งอยู่ในร้านแล้วพูดวิจารณ์สาวๆ เหล่านั้น พร้อมกับให้คะแนนสาวๆ แต่ละคนตามระดับความสะสวย แบบพูดเสียงดังชนิดที่คนในร้านได้ยินกันทั่ว อารมณ์ประมาณว่า "สาวที่อยู่ทางซ้าย 6 คะแนนว่ะ ไม่เลวๆ" ส่วนอีกคนก็หั่นคะแนนลงอีก "เราให้แค่ 4 พอว่ะ เพราะจมูกนางไม่สวยเลย"
และแล้ว 2 หนุ่มผู้ก่อปัญหาก็ต่อคิวมาจนถึงเคาท์เตอร์สั่งอาหารพอดี ซึ่งก็มีพนักงานหญิงออกมารับออเดอร์ตามหน้าที่ ชายหนุ่ม 1 ใน 2 คนนั้นก็เลยสั่งอาหารไปว่าเอามันฝรั่งทอดขนาดใหญ่ แต่ชายหนุ่มอีกคนก็ดันปากเสียไม่หยุด และพูดให้คะแนนพนักงานรับออเดอร์แบบสั้นๆ ว่า "4" ซะเสียงดัง ปกติแล้วผู้คนส่วนใหญ่มักจะรับมือกับปัญหาลักษณะนี้ด้วยการทำเป็นเมินเฉย ไม่โต้ตอบอะไรด้วย แต่สำหรับพนักงานสาวรายนี้เลือกที่จะพลิกวิกฤติเป็นโอกาส โดยการตอบรับกับคำว่า "4" ของชายกลุ่มนี้ ด้วยการย้ำออเดอร์ว่า "โอเคค่ะ ตกลงลูกค้ารับมันฝรั่งทอดขนาดใหญ่จำนวน 4 ที่นะคะ" กลายเป็นว่า 2 หนุ่มเจ้าปัญหาติดกับของพนักงานสาวเข้าอย่างจัง จะแก้ตัวว่าคำว่า 4 คะแนนเป็นคำวิจารณ์ใบหน้าเธอ ไม่ใช่ประโยคสั่งอาหารก็กลัวพนักงานสาวตอกกลับ จะโบ้ยเป็นอย่างอื่นก็อายลูกค้าคนอื่นๆ ที่ได้ยินพวกตนพูดเสียงดัง ก็เลยต้องยอมรับออเดอร์ที่พนักงานสาวเนียนระบุไว้แต่โดยดี เรียกได้ว่าเสียเงินเพิ่มใช่เหตุเพราะความปากพล่อยและทัศนคติแย่ๆ ของตัวเองแท้ๆ
จากนั้นภาพวาดของทาดะก็ถูกเผยแพร่ลงโลกโซเชียล และชาวเน็ตก็มาแสดงความเห็นกันมากมาย ดังตัวอย่างด้านล่างครับ
"ฉันชอบที่เธอเลือกรับมือด้วยวิธีแบบนี้ แทนที่จะใช้ความรุนแรงหรือลดตัวลงไปเกลือกกลั้วกับพวกมันนะ ทำแบบนี้ก็ไม่ทำให้เธอตกงานด้วย"
"มืออาชีพจริงๆ"
"โคตรเท่เลย ทำเอาขนลุกเลยล่ะ!"
"ผู้ชาย 2 คนนั้น ให้ 0 คะแนนยังเยอะไปเลย ทำตัวได้แย่กว่า 0 คะแนนซะอีก"
นี่ก็ถือเป็นบทเรียนเจ็บแสบสำหรับคนที่ชอบวิจารณ์รูปลักษณ์ของคนอื่นครับ ซึ่งในสังคมที่เจริญด้วยวุฒิภาวะจริงๆ เขาจะเคารพความแตกต่างทั้งด้านอัตลักษณ์และความคิดที่แตกต่างกัน และอยู่ร่วมกันอย่างเป็นสุขได้
เครดิต: Soranews24