ในอีก 2 ปีข้างหน้านี้ มหกรรมกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อนก็จะจัดขึ้นอีกครั้งที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น โดยทางรัฐบาลญี่ปุ่นเองก็ได้ตระเตรียมการจัดงานอย่างขะมักเขม้น พร้อมกับมีการเร่งดำเนินการในทุกภาคส่วนเพื่อให้ตัวงานออกมาดูดีสมกับที่ได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพของการแข่งโอลิมปิกในปีดังกล่าว แต่ทีนี้มันก็ดันมีดราม่าเกิดขึ้นจนได้ครับ เมื่อทางทีมคณะผู้จัดงานได้ประกาศรับอาสาสมัครจากภายนอกมาช่วยงานแบบเข้ากะ 8 ชั่วโมง ด้วยอัตราค่าตอบแทน 1,000 เยน (ประมาณ 290 บาท) ต่อวัน ซึ่งเงินจำนวนนี้เป็นจำนวนสูงสุดเท่าที่ทางคณะผู้จัดงานจะจ่ายให้ได้ เนื่องจากต้องคุมงบประมาณไปสำรองใช้ในการจัดงานด้วย พร้อมกับให้เหตุผลว่า เงิน 1,000 เยนนี่ก็เพื่อเป็นค่าเดินทางสำหรับอาสาสมัครที่มีที่พักอยู่ในเขตโตเกียวนั่นเอง (อารมณ์ประมาณว่า ค่าแรงฟรี แต่มีค่าเดินทางให้นิดหน่อย)
พอเรื่องราวนี้แพร่กระจายไปในโลกโซเชียล ชาวเน็ตในญี่ปุ่นก็แสดงคอมเมนต์ไม่พอใจกันมากมาย เพราะพวกเขามองว่าเงินจำนวนนี้มันน้อยเกินไป แม้ว่าผู้รับเงินจะเป็นเพียงอาสาสมัครก็ตามที ดังความเห็นด้านล่างครับ
"ค่าแรงถูกอะไรอย่างนี้!"
"แล้วพวกคณะผู้จัดงานเขาก็ได้เงินวันละ 1,000 เยนเหมือนกันด้วยรึเปล่าล่ะ?"
"1,000 เยนเรอะ ตกศูนย์ไปตัวนึงรึเปล่าฟะ?"
"มันมีเหตุผลอะไรที่พวกเขาไม่อยากจ่ายเพิ่มมากกว่านี้รึเปล่า?"
"ถ้าจ่ายอาสาสมัครมากกว่า 1,000 เยนต่อวันแล้วมันจะกระเทือนกับงบจัดงานส่วนที่เหลือขนาดนั้น ก็อย่าจัดมันเลยเหอะ"
ทั้งนี้ เราอาจต้องทำความเข้าใจก่อนว่า อาสาสมัคร ก็จะแนวๆ นี่จิตอาสานี่แหละครับ คือมาด้วยใจจริงๆ ดังนั้นทางผู้จัดงานจึงไม่มีการกันงบสำหรับค่าแรงในส่วนนี้ให้ เลยเลือกที่จะให้ค่าตอบแทนเป็นค่าเดินทางแทน แต่ในเมื่อกระแสจากชาวเน็ตออกมาเป็นแง่ลบขนาดนี้ ดูเหมือนว่าเป้าหมายที่ทางคณะผู้จัดงานอยากได้อาสาสมัครมาช่วยงานได้มากถึง 80,000 คนนั้นน่าจะเป็นไปได้ยากมากเลยทีเดียว หากยังไม่มีมาตรการปรับเปลี่ยนเรื่องเงินตอบแทนจำนวนดังกล่าวครับ
เครดิต: Soranews24
