ชาวญี่ปุ่นเถียงกันยับเรื่องเชื้อชาติ หลังสาวลูกครึ่งญี่ปุ่น-เฮติคว้าแชมป์เทนนิส US Open

แชร์เรื่องนี้:
ชาวญี่ปุ่นเถียงกันยับเรื่องเชื้อชาติ หลังสาวลูกครึ่งญี่ปุ่น-เฮติคว้าแชมป์เทนนิส US Open

เมื่อช่วงสัปดาห์ก่อนเพื่อนๆ ที่ติดตามข่าวสารวงการกีฬา น่าจะพอทราบกันมาบ้างแล้วนะครับว่าศึกเทนนิสแกรนด์สแลมรายการสุดท้ายของปีอย่าง US Open ได้สิ้นสุดลงไปเป็นที่เรียบร้อย โดยแชมป์ของรายการดังกล่าวก็คือ นาโอมิ โอซากะ สาวลูกครึ่งญี่ปุ่น-เฮติ และเธอยังเป็นสาวสัญชาติญี่ปุ่นคนแรกในประวัติศาสตร์ที่คว้าแชมป์เทนนิสหญิงเดี่ยวของรายการแกรนด์สแลมอีกด้วย

ทีนี้ก็ดันมีดราม่าเกิดขึ้นภายในญี่ปุ่นครับ ซึ่งต้องเท้าความก่อนว่าสาวโอซากะนั้นเดิมทีเธอเกิดในประเทศญี่ปุ่น และได้ย้ายตามพ่อแม่ไปอาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกา ก่อนจะเทิร์นโปรเทนนิสโดยใช้สัญชาติญี่ปุ่น แต่ด้วยความที่เธออาศัยอยู่ในต่างแดนมาตั้งแต่เด็ก เธอจึงพูดญี่ปุ่นได้น้อยมากๆ กลายเป็นว่าพอเธอสร้างชื่อเสียงในนามประเทศญี่ปุ่น จึงหนีไม่พ้นที่จะตกเป็นเรื่องถกเถียงในหมู่ชาวเน็ตในญี่ปุ่นไปโดยปริยาย และด้านล่างคือตัวอย่างคอมเมนต์ที่เกิดขึ้นในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาครับ

(ล่าง) นาโอมิ (ซ้าย) ถ่ายรูปร่วมกับ มาริ ผู้เป็นพี่สาว (คนชูสองนิ้ว) พร้อมกับคุณแม่และคุณพ่อของเธอ

"เธอดูไม่เหมือนคนญี่ปุ่นเลยแฮะ"
"ถ้าเธอจะเล่นในนามประเทศญี่ปุ่น อย่างน้อยเธอก็ควรญี่ปุ่นให้ได้คล่องซะก่อนนะ"
"พวกคุณทั้งหมดหุบปากไปเหอะ ถ้าเธอมีสัญชาติญี่ปุ่น เธอก็คือคนญี่ปุ่นแหละน่า"
"ชื่อของเธอเป็นชื่อคนญี่ปุ่น ดังนั้นแล้วสำหรับฉัน เธอก็คือคนญี่ปุ่นเต็มร้อยนะ"
"เห็นมีแต่คอมเมนต์ที่บอกว่าเธอไม่ใช่คนญี่ปุ่น มันทำให้ฉันรู้สึกแย่กับเธอไปด้วยเลย บางทีเธอน่าจะไปเล่นให้เฮติแทนดีกว่า"
"คอมเมนต์ชาวเน็ตทำให้ฉันรู้เลยว่ายังคงมีการเหยียดเชื้อชาติในทุกแห่งหนแฮะ แม้แต่ในญี่ปุ่นเองก็เถอะ"
"เธอนำความสุขมายังแผ่นดินญี่ปุ่น แค่นี้ยังไม่พออีกเหรอฟะ?"

อย่างไรก็ตาม สำหรับประเด็นที่เกิดขึ้น จริงๆ แล้วในหลายๆ ประเทศทั่วโลกต่างก็มีเรื่องของนักกีฬาลูกครึ่งอยู่มากมาย และต่างเป็นที่ยอมรับกันอย่างสากลกันมานานแล้วว่านักกีฬาเหล่านี้สามารถเลือกสัญชาติที่ตนเองจะลงแข่งให้ได้ โดยไม่จำเป็นว่าเจ้าตัวจะต้องพูดภาษาของประเทศนั้นๆ ได้หรือไม่ ขอเพียงแค่มีคุณสมบัติตามเกณฑ์ของประเทศที่ตนเองจะถือสัญชาติ และได้สัญชาติมาอย่างถูกต้องตามกฎหมายก็เพียงพอแล้ว อย่างกรณีของประเทศญี่ปุ่นจะมีข้อบังคับอยู่ว่าบุคคลใดก็ตามที่มี 2 เชื้อชาติ ได้แก่ ญี่ปุ่นผสมกับชาติอื่น เมื่ออายุเกิน 21 ปีบริบูรณ์ ก็จะต้องทำการเลือกสัญชาติใดสัญชาติหนึ่งเท่านั้น ซึ่งสาวโอซากะเธอก็ได้ตัดสินใจเลือกแล้วว่าเธอจะใช้สัญชาติญี่ปุ่น และเล่นในนามประเทศญี่ปุ่น โดยเธอตั้งใจจะลงแข่งเทนนิสในมหกรรมกีฬาโอลิมปิกปี 2020 ที่กรุงโตเกียวจะเป็นเจ้าภาพด้วยเช่นกัน

ณ ปัจจุบัน ประเด็นเรื่องชาตินิยมและกีดกันเชื้อชาติอื่นในญี่ปุ่นก็ยังคงมีให้เราได้พบเห็นอยู่บ้าง และอาจจะต้องใช้เวลาอีกนานพอสมควรกว่าปัญหานี้จะเบาบางลงไปได้ครับ

เครดิต: Soranews24

แชร์เรื่องนี้:
Vesper
About the Author

Vesper

เหนื่อยจากเกมก็ลองหยุดพัก แต่ถ้าเหนื่อยจากรักก็จงหยุดเถอะ

เรื่องที่คุณอาจสนใจ