นักวิจัยญี่ปุ่นเผย การว่ายพร้อมใช้ท่อนขาตีน้ำรัวๆ ไม่ช่วยให้ว่ายเร็วขึ้นเสมอไป

แชร์เรื่องนี้:
นักวิจัยญี่ปุ่นเผย การว่ายพร้อมใช้ท่อนขาตีน้ำรัวๆ ไม่ช่วยให้ว่ายเร็วขึ้นเสมอไป

ปกติแล้ว เวลาเราไปว่ายน้ำตามสระหรือที่ทะเล ท่ายอดฮิตที่ผู้คนมักใช้ว่ายน้ำกันก็คือท่าฟรีสไตล์ ที่เราจะต้องใช้แขนจ้วงน้ำเพื่อให้เราเคลื่อนตัวไปข้างหน้า ในขณะที่ท่อนขาของเราก็ต้องตีน้ำไปด้วยเพื่อช่วยกระตุ้นแรงเหวี่ยงไปในตัว ซึ่งนี่น่าจะอยู่ในบทเรียนที่ครูสอนว่ายน้ำยึดเป็นแบบแผนในการสอนกันมาช้านานแล้ว

ทว่าล่าสุดได้มีผลการวิจัยจากนักวิทยาศาสตร์จากสถาบันเทคโนโลยีแห่งโตเกียว และมหาวิทยาลัยซึคุบะ จากจังหวัดอิบารากิ ที่ออกมายืนยันว่าการใช้ท่อนขาตีน้ำนั้นไม่ได้ทำให้เราว่ายน้ำได้เร็วขึ้นเสมอไป และในบางกรณีจะทำให้เราว่ายน้ำได้ช้าลงด้วย โดยการพิสูจน์ในครั้งนี้ ทางทีมนักวิจัยได้ให้นักว่ายน้ำคนหนึ่งกระโดดลงไปในแท็งค์น้ำแล้วทดลองว่ายน้ำ 2 แบบ แบบแรกคือว่ายตามปกติพร้อมกับใช้ขาตีน้ำไปด้วย และอีกแบบคือว่ายโดยไม่ใช้ท่อนขาตีน้ำ แล้ววัดค่าการเคลื่อนที่และแรงต้านน้ำของร่างกายดู ปรากฏว่าการไม่ใช้ท่อนขาตีน้ำจะช่วยให้เราเคลื่อนที่ไปข้างหน้าได้เร็วขึ้น แต่นั่นก็ขึ้นอยู่กับสปีดในการว่ายน้ำของเราด้วย

หากอธิบายให้เห็นภาพชัดขึ้นก็คือ ถ้าคุณว่ายน้ำด้วยความเร็ว 1.1 เมตรต่อวินาที (หรือว่ายได้ระยะ 100 เมตรภายใน 90.91 วินาที) การว่ายพร้อมกับใช้ขาตีน้ำไปด้วยจะช่วยให้ตัวเราเคลื่อนไปข้างหน้าได้เร็วขึ้นแน่นอน แต่ถ้าเราเป็นนักว่ายน้ำที่ว่ายได้เร็วกว่า 1.3 เมตรต่อวินาทีขึ้นไป (หรือว่ายได้ระยะ 100 เมตรภายใน 76.92 วินาที หรือเร็วกว่านั้น) ผลการวิจัยพบว่าการใช้ขาตีน้ำจะทำให้สปีดในการว่ายของเราตกลงอย่างเห็นได้ชัด

สาเหตุที่ผลออกมาเช่นนี้ ก็เป็นเพราะว่าความเร็วระดับ 1.1 เมตรต่อวินาทีนั้นเป็นความเร็วของคนว่ายน้ำทั่วไปครับ ซึ่งความเร็วเฉลี่ยของผู้ใหญ่เวลาว่ายน้ำจะอยู่ที่ 0.9 เมตรต่อวินาที ส่วนความเร็วตั้งแต่ 1.3 เมตรต่อวินาทีขึ้นไป จะเป็นความเร็วของนักว่ายน้ำมืออาชีพที่ผ่านการฝึกฝนมาเพื่อการแข่งขันหรือคนที่ประกอบอาชีพประเภทไลฟ์การ์ดตามชายหาดหรือริมสระ เป็นต้น ดังนั้นผลการวิจัยดังกล่าวน่าจะเป็นประโยชน์กับเหล่านักว่ายน้ำมืออาชีพได้เป็นอย่างดีครับว่าใช้แค่เพียงท่อนแขนในการทำความเร็วก็น่าจะพอแล้ว

เครดิต: Soranews24 / Asahi Shimbun

แชร์เรื่องนี้:
Vesper
About the Author

Vesper

เหนื่อยจากเกมก็ลองหยุดพัก แต่ถ้าเหนื่อยจากรักก็จงหยุดเถอะ

เรื่องที่คุณอาจสนใจ