ประเทศญี่ปุ่นในทุกวันนี้กำลังเผชิญปัญหามีกลุ่มคนที่เป็น NEET ตกค้างอยู่ค่อนข้างมาก (NEET นั้นย่อมาจาก Not in Education, Employment or Training หรือแปลแบบบ้านๆ ว่า “คนว่างงาน” ที่อยู่ไปวันๆ ไม่ยอมทำงาน ไม่ไปเรียนหรือฝึกอบรมใดๆ เลย) และคนกลุ่มดังกล่าวไม่เพียงแต่จะปฏิเสธการเข้าสังคมเท่านั้น หากแต่ยังทำตัวเป็นภาระอันหนักอึ้งกับคนอื่นในครอบครัวด้วย ซึ่งเมื่อคนกลุ่มนี้มีจำนวนที่มากขึ้น จึงส่งผลกระทบต่อภาพรวมของประเทศ ทำให้เกิดปัญหาขาดแคลนแรงงาน เพราะคนกลุ่มนี้ไม่ยอมไปทำงาน ไม่เกิดการขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจนั่นละครับ
ด้วยเหตุนี้ ทางกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงแรงงาน และกระทรวงสวัสดิการสังคม เลยพยายามที่จะนำปัญหานี้ชูเป็นวาระแห่งปี พร้อมกับจัดสรรเงินจำนวน 1,649,000 เยน (ประมาณ 480,000 บาท) เพื่อมุ่งแก้ปัญหาขาดแคลนแรงงานในภาคเกษตรกรรม, ป่าไม้ และอุตสาหกรรมประมง โดยการออกมาเคลื่อนไหวจากรัฐบาลในครั้งนี้ มีจุดประสงค์หลักคือการส่งกลุ่มคนที่เป็น NEET และคนที่อยู่ในข่ายของอาการฮิคคิโคโมริ (คนที่ปฏิเสธการอยู่ร่วมในสังคมหรือมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น) จากที่เคยอยู่ในตัวเมืองให้ออกไปอยู่ในพื้นที่ที่น่าจะพัฒนาความมีอิสระของพวกเขาได้ ทว่าโครงการดังกล่าวยังอยู่ในช่วงทดลองครับ ซึ่งบรรดา NEET จำนวนหนึ่งจะถูกส่งไปยังเขตอิซึมิซาโนะ ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจังหวัดโอซาก้า เพื่อเข้ารับการฝึกกับหน่วยงาน Osaka Young Work Support ก่อน แล้วจึงค่อยถูกส่งไปยังเมืองฮิโรซากิในจังหวัดอาโอโมริ เพื่อทำงานเก็บเกี่ยวผลแอปเปิ้ลเป็นเวลาหลายวันต่อไป
ส่วนทางด้านจังหวัดฮอกไกโดก็จะนำกลุ่มแรงงานที่เป็น NEET มาทำงานเพาะปลูก เก็บเกี่ยวผลผลิตรายวัน และงานปศุสัตว์ครับ โดยถ้าโครงการนี้ประสบความสำเร็จ ก็จะช่วยแก้ปัญหาแรงงานขาดแคลนในญี่ปุ่นไปได้มากเลยทีเดียว เนื่องจากปัจจุบันปัญหาการขาดแคลนแรงงานในญี่ปุ่นกำลังอยู่ในขั้นวิกฤตหนัก ซึ่งอัตราส่วนของตำแหน่งงานที่ว่างต่อจำนวนผู้มาสมัครงานนั้นอยู่ที่ 2.21 ต่อ 1 หรือพูดให้เห็นภาพก็คือ บริษัทนึงรับพนักงานในตำแหน่งนึงจำนวนประมาณ 2-3 อัตรา แต่ดันมีคนมาสมัครแค่คนเดียวนั่นเองครับ
เห็นแบบนี้แล้วแอบรู้สึกอิจฉาประเทศพัฒนาแล้วอย่างญี่ปุ่นอยู่นะครับ ที่ทางภาครัฐดูแลเอาใจใส่สวัสดิภาพของประชาชน และเน้นแก้ปัญหาโดยดูจากภาพรวมของสิ่งที่เกิดขึ้นด้วย ถ้าเมืองไทยเรามีการแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างภายในประเทศอย่างเป็นระบบ เราอาจจะมองเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ก็เป็นได้
เครดิต: Soranews24