แม้ว่าวันนี้ชื่อเสียงของน้องๆ เมมเบอร์ BNK48 จะขจรขจายไปไกลแล้ว และแฟนๆ ก็ร่วมยินดีที่น้องๆ สามารถก้าวมายืนอยู่ในจุดนี้ได้อย่างเต็มภาคภูมิ โพซิชั่นของน้องๆ ในวันนี้ที่เราสามารถพูดลอยๆ ขึ้นมาโดยไม่ต้องผ่านการประมวลผลแต่อย่างใดว่า "แกแมสแล้วว่ะ" เช่นในโฆษณาแอพของธนาคารยี่ห้อหนึ่ง Directed by เต๋อ นวพล เรียนตามตรงว่าต้องให้เครดิตกับทุกๆ ฝ่าย ไม่ว่าจะตัวน้องเอง แฟนๆ สต๊าฟเบื้องหลัง และทีมงานบริหาร ความสำเร็จระดับนี้จะขาดฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไปไม่ได้ ดังเช่นกลไกขนาดยักษ์ที่คงไม่อาจหมุนเดินได้ หากขาดแม้เพียงฟันเฟืองเล็กๆ ตัวเดียว
อย่างไรก็ดีในแง่การบริหารจัดการเรื่องต่างๆ โดยเฉพาะ Crisis Management ทางทีมงานดูจะพัฒนาขึ้นน้อยมาก แม้จะพอเห็นความพยายามจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง กระนั้นก็ไม่อาจจะแก้ไขหรือหามาตรการป้องกันปัญหาใหม่ๆ ได้ดีพอ จนแฟนๆ หลายๆ คนเริ่มมีความไม่พอใจสะสมต่อเนื่องมาเรื่อยๆ กระทั่งการประกาศเลื่อนรับกล่อง Founder และเลื่อนส่ง Photoset ชุด BNK48 Memorial of Handshake เมื่อวานนี่แหละครับ ที่กลายเป็นเหมือนตัวจุดปะทุให้ความหัวร้อนในหลายเดือนที่คั่งค้างสะสมต้องระเบิดออกมาอย่างช่วยไม่ได้ กระทั่งลุกลามใหญ่โตถึงขั้นที่แฟนๆ ขอฟ้องร้องต่อสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ) เลยทีเดียว
ขอแยกกล่าวถึงเป็น 2 กรณี
ประกาศเลื่อนรับ กล่อง Founder Member
ต้องบอกว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ทางบริษัท BNK48 Office ประกาศเลื่อนรับสินค้าชิ้นนี้ซึ่งมีราคาถึง 20,000 บาท และเรียนตามตรงว่ามันไม่สามารถจัดอยู่ในหมวดสินค้าราคาถูกได้ในความคิดของคนทั่วๆ ไป โดยเฉพาะแล้วกับคนที่ลั่นจองไปในวันแรกๆ การที่เงินก้อนใหญ่ของพวกเขาต้องจมหายไปกับอากาศและได้รับกลับมาเพียงกระดาษจองแผ่นเดียวเป็นเวลาเกือบๆ 4 เดือนโดยที่ไม่รู้อนาคตเลยว่าจะได้รับของจริงๆ ในช่วงไหนนั้นก็ทำเอาใจหวิวๆ อยู่แล้ว ทว่าเมื่อมีการประกาศวันรับจริงๆ และมีเหตุต้องเลื่อนในครั้งแรก ก็ยังพอรับและเข้าใจกันได้ เพราะเป็นการแจ้งให้ทราบล่วงหน้าตามครรลองที่ควรจะเป็น
แต่กับการประกาศเลื่อนรับสินค้าครั้งที่ 2 นี้ นอกจากจะเป็นการเลื่อนซํ้าเลื่อนซ้อนแล้ว ไทม์มิ่งยังเป็นเวลาเพียง "2 วันก่อนรับของ" ตามประกาศเดิม ซึ่งพอมันกระชั้นชิดมากๆ ปัญหาหลายๆ อย่างก็ตามมาเช่นว่า บางคนต้องเดินทางมาจากต่างจังหวัด ก็อาจมีการจองรถ จองเครื่อง หรือจองที่พักกันบ้างแล้ว แทบทุกคนต่างมองเห็นตรงกันว่ามันไม่ใช่เรื่องเลยที่ผู้บริโภคซึ่งจ่ายเงินก้อนโตไปจะต้องมาแบกรับภาระอะไรแบบนี้ ให้เวลามานานแล้วแต่กลับยังต้องรอสินค้าไปเรื่อยๆ โดยที่ไม่รู้ว่าจะต้องเลื่อนอีกกี่ครั้งทั้งๆ ที่ก่อนหน้าก็ให้คำมั่นไว้หนักหนา
งานนี้ดูเหมือนว่าเพียงแค่การเพิ่มรูปพิเศษของเมมเบอร์เป็นสินค้าชดเชยดูจะไม่ใช่การเยียวยาที่เพียงพอเสียแล้ว
ประกาศเลื่อนส่ง Photoset BNK48 Memorial of Handshake
กรณีนี้ดูจะเป็นปัญหาใหญ่ยิ่งกว่าประเด็นข้างต้นเนื่องจากส่งผลกระทบกับคนหมู่มากจริงๆ โดยในทีแรกนั้น Photoset ชุดนีมีกำหนดรับสินค้าที่ Digital Live Studio ตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคม และกำหนดส่งตามที่ระบุไว้ในเว็บไซต์ว่า "ระหว่างวันที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2561 - วันที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2561 และคาดว่าจะได้รับสินค้าประมาณวันที่ 21 - 28 มีนาคม 2561" ทุกออร์เดอร์ของการสั่ง
ทว่าการประกาศเลื่อนเวลาจัดส่งของสินค้าในหลายๆ ออร์เดอร์นั้นทำให้ผู้บริโภคที่ซื้อสินค้าชนิดนี้ถูกแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่ๆ คือ 1.กลุ่มที่เตรียมจะไปซื้อสินค้าที่ตรัง 2. กลุ่มที่ออร์เดอร์สินค้าภายในวันที่ 13 มีนาคมที่ผ่านมา และ 3. คือกลุ่มที่ออร์เดอร์สินค้าตั้งแต่วันที่ 14 เป็นต้นมา ซึ่งหากมันเหลื่อมลํ้ากันไม่เท่าไหร่หลายๆ คนก็คงจะพอยอมรับได้ ทว่ากำหนดจัดส่งสินค้าของกลุ่มที่ 3 ดันเป็นวันที่ 26 เมษายนหรืออีกราวๆ 1 เดือนให้หลัง ทำให้ผู้บริโภคกลุ่มที่ 3 ระเบิดอารมณ์หัวร้อนกันเป็นแถบอย่างช่วยไม่ได้
ปัญหาที่หลายๆ คนพูดถึงกันก็คือ สินค้าที่สั่งเป็นแบบพรีออร์เดอร์ แถมปิดยอดไปก็นานแล้ว ทางผู้ขายควรจะรู้จำนวนยอดสั่งซื้อแล้วสั่งผลิตไม่ใช่หรือ มันไม่ควรจะเกิดปัญหา "สินค้าไม่พอส่ง" ไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้น ขณะที่บางคนก็ตั้งข้อสงสัยว่าทำไมถึงมีของไปขายตรังทั้งๆ ที่ควรจะส่งสินค้าให้พวกที่พรีออร์เดอร์ก่อนไม่ใช่หรือ? แต่เรื่องหลังอาจว่าได้ไม่เต็มปากนัก เนื่องจากทาง BNK48 Office ก็ประกาศตั้งแต่แรกว่าจะมีของชุดนี้ไปขายที่ตรังด้วย ซึ่งหากไม่มีของไปขายด้วยตามที่บอก ก็อาจจะมีปัญหากับแฟนๆ อีกกลุ่มอยู่ดี
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นปัญหาที่ใหญ่จริงๆ ในสายตาแฟนๆ คือบริษัท BNK48 Office ยังคงทำตัวมีปัญหาเล็กปัญหาน้อยอยู่ตลอด ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าข้อเท็จจริงของเรื่องว่ามันเป็นเช่นไร เหตุใดจึงไม่มีการขายของรอบไหนที่ไหลนิ่งเป็นสายนํ้าเสียที แต่ข้อผิดพลาดนี้ที่ไม่สามารถทำตามที่ว่าไว้ได้บ่อยๆ ก็ทำให้ความน่าเชื่อถือของตัวบริษัทลดลง และแฟนๆ ก็ยิ่งคลางแคลงใจในความจริงใจที่ทางบริษัทมีต่อผู้บริโภคมากขึ้นเรื่อยๆ จนคราวนี้ที่ราวกับฟางเส้นสุดท้ายได้ขาดผึงลง และเรื่องราวดราม่าระหว่างผู้ซื้อ-ผู้ขายก็ลุกลามใหญ่โตอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
ก็เอาใจช่วยให้ทั้ง 2 ฝ่ายหาข้อตกลงร่วมกันได้ในกรณีนี้นะครับ หวังว่าจะมีข้อสรุปที่ดีในเร็ววัน ส่วนในอนาคต BNK48 Office นั้นคงต้องจริงใจในการขายและเข้มเรื่องการจัดการด้านต่างๆ ให้มากกว่านี้ครับ ผมค่อนข้างเชื่อว่า ลูกค้าเองก็ไม่อยากดราม่าใส่ต้นสังกัดของน้องๆ ที่พวกเขารักหรอก แต่ถ้าไม่โวยตามสิทธิ์พึงกระทำ การเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีก็ไม่รู้จะเกิดขึ้นเมื่อไหร่น่ะนะ
***ล่าสุดทาง "จ็อบซัง" ผู้จัดการวงหรือ "ชิไฮนิน" ของ BNK48 ก็ออกมาแถลงแล้วครับ ลองไปฟังกันดูนะ