ในประเทศญี่ปุ่นนั้น บรรดาองค์กรใหญ่ๆ หลายแห่งมักจะมีการรับเด็กจบใหม่จากมหาวิทยาลัยเข้ามาทำงานกันทุกปีอยู่แล้ว และว่าที่บัณฑิตหลายคนก็มักจะถูกองค์กรต่างๆ จองตัวกันตั้งแต่ก่อนจบการศึกษาเสียด้วยซ้ำ นั่นจึงหมายความว่า หลังจากที่วัยรุ่นเหล่านี้จบการศึกษาในเดือนมีนาคม ก็จะได้เริ่มชีวิตพนักงานออฟฟิศกันตั้งแต่เดือนเมษายนกันทันที (ปกติฤดูการรับสมัครงานของญี่ปุ่นจะอยู่ในช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน เพื่อสอดคล้องกับการเริ่มปีงบประมาณใหม่ ตั้งแต่เดือนเมษายนเป็นต้นไปนั่นเอง)
ทั้งนี้ พนักงานใหม่ที่เป็นเด็กเพิ่งจบใหม่จะมีชื่อเรียกเฉพาะสำหรับพวกเขาว่า "ชินจิน" ครับ ซึ่งมีความหมายแฝงคือ "ผู้ที่ยังไร้ประสบการณ์" โดยบางนิยามจะสื่อถึงผู้ที่ยังไม่รู้จักโลกมากพอด้วยเช่นกัน และผู้บังคับบัญชาก็ต้องใช้ความอดทนค่อนข้างสูงในการรับมือกับเด็กจบใหม่บางคนที่ไม่มีสามัญสำนึกหรือขาดความเป็นมืออาชีพ มิหนำซ้ำบางพฤติกรรมของพวกเขาก็เกินกว่าที่พนักงานคนอื่นๆ จะทนได้ครับ
และแล้วก็มียูสเซอร์หนึ่งในทวิตเตอร์นามว่า RinRin ได้ระบายเกี่ยวกับประสบการณ์เกี่ยวกับพนักงานคนใหม่ในองค์กรของเธอว่า
"วันนี้กว่าเขา (พนักงานใหม่) จะมาทำงานก็ปาเข้าไป 10 โมงครึ่งแล้ว แถมพอมาถึงปุ๊บก็ไม่พูดไม่จากับใครทั้งๆ ที่ตัวเองมาสายไปชั่วโมงครึ่ง พอถามไปว่าทำไมถึงมาสาย ก็ดันตอบว่า "หม่าม้าของตนรู้สึกไม่ค่อยสบายตอนเช้า นางก็เลยไม่ได้มาปลุกให้ตื่น" คำแก้ตัวนี้ทำให้ทุกคนในออฟฟิศเริ่มบ่นพึมพำกัน ไม่เพียงเท่านั้น แทนที่เขาจะมาถึงแล้วรีบทำงาน ก็ดันตรงไปที่ห้องพักของพนักงานแล้วปอกผลไม้กินซะงั้น เมื่อผู้บังคับบัญชาพยายามเข้าไปต่อว่า ก็เจอเด็กคนนี้สวนมาประมาณว่า "นี่มันไม่ใช่การใช้อำนาจหน้าที่บังคับลูกน้องไม่ให้กินอาหารเช้าใช่มั้ย?" ...เท่านั้นแหละ บรรยากาศในออฟฟิศก็มาคุทันที // เรื่องจริงไม่อิงนิยาย"
เป็นไงละครับ พฤติกรรมแบบนี้ มาสายก็กระทงนึง ไม่ยอมบอกเพื่อนร่วมงานมาทำไมถึงมาสายก็อีกกระทงนึง แถมยังสวนผู้บังคับบัญชาอีกว่าไม่มีสิทธิ์ว่ากล่าวตัวเองอีก ยิ่งไปกว่านั้นยังทำให้ตัวเองดูน่าตลกในสายตาคนอื่นด้วยการบอกว่าต้องให้แม่ปลุกทุกเช้าด้วย
จากนั้นเหล่าผู้ติดตามทวิตเตอร์ของ RinRin ก็เข้ามาแสดงความเห็นกันมากมาย ส่วนใหญ่จะเห็นด้วยกับเธอกัน ซึ่งขอยกบางคอมเม้นต์มาให้ชมดังนี้ครับ
"ถ้ายังเรียกแม่ตัวเองว่าหม่าม้าในที่ทำงาน แสดงว่ายังไม่รู้จักโตเลยนะนี่"
"นี่ต้องเป็นผลพวงจากระบบการศึกษาที่หละหลวมเกินไปแน่ๆ เราก็มีคนแนวๆ นี้ในออฟฟิศเหมือนกัน ชวนน่าปวดหัวเป็นเดือนๆ เลยแหละ"
"ออฟฟิศเราก็มีคนชอบหลับระหว่างประชุมบ่อยๆ นะ ครั้งนึงนางเคยโดนดุด้วย แต่นางตอบว่า ฉันต้องนอนให้ครบ 8 ชั่วโมงค่ะ และเมื่อคืนฉันเพิ่งได้นอนไปแค่ 6 ชั่วโมงเท่านั้น จะว่าไป นางก็ไม่ได้เป็นลูกน้องของฉันหรอก ก็เลยไม่ได้คิดอะไรมาก แต่นี่มันเหลือเชื่อจริงๆ"
ต่อมา RinRin ได้อธิบายว่าบรรดาพนักงานที่เป็นเด็กจบใหม่ควรจะเข้างานให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ และไม่ควรผลาญเวลางานไปกับการคุยโทรศัพท์ อีกทั้งควรจะกินข้าวให้เรียบร้อยก่อนจะเข้ามาที่ออฟฟิศด้วย
อย่างไรก็ตาม ใช่ว่าเด็กจบใหม่ทุกคนจะมีพฤติกรรมแย่แบบนี้เสมอไปนะครับ เราอาจต้องมาวิเคราะห์ยิบย่อยลงไปอีกว่าสาเหตุที่เขาเป็นเช่นนั้น อาจจะมาจากการขาดวุฒิภาวะ หรืออาจจะบกพร่องในเรื่องมนุษยสัมพันธ์กับผู้ที่อาวุโสกว่า เป็นต้น จริงอยู่ที่เด็กรุ่นใหม่อาจมีความเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น แต่เมื่อมาทำงานร่วมกันในองค์กร ก็ควรที่จะปฏิบัติตามกฎของบริษัทอย่างเคร่งครัดและคิดถึงหัวอกของเพื่อนร่วมงานด้วยเช่นกัน
เครดิต: Rocketnews24