ก่อนจะเข้าไปที่เนื้อข่าว ทีมงานขอเกริ่นเกี่ยวกับคดีสะเทือนขวัญที่เพิ่งเกิดในญี่ปุ่นเมื่อเร็วๆ นี้กันก่อนครับ
ในรอบ 1-2 สัปดาห์มานี้ หากเพื่อนๆ ได้ติดตามข่าวสารของประเทศญี่ปุ่นอยู่บ้าง ก็คงจะได้เห็นข่าวฆาตกรรมต่อเนื่องที่มีชายคนนึงลวงคนในโลกอินเตอร์เน็ตที่โพสต์หาคนไปฆ่าตัวตายด้วยกันไปกระทำฆาตกรรมในห้องพักของตัวเองนะครับ หลังจากที่สืบสวนกันอยู่ไม่นาน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็สามารถจับกุมคนร้ายได้ ซึ่งมีชื่อว่านายทาคาฮิโระ ชิราอิชิ พร้อมกับพบชิ้นส่วนของเหยื่อจำนวน 9 คนที่ถูกเขาลวงมาฆ่าภายในห้องด้วย โดยฆาตกรรายนี้มีอายุ 27 ปีและอาศัยอยู่ในจังหวัดคานากาวะ ขณะเดียวกัน ตำรวจก็พบหลักฐานชิ้นสำคัญอีกอย่างก็คือเลื่อยที่นายชิราอิชิสารภาพว่าตนเองเป็นคนใช้หั่นศพเพื่อที่จะได้กำจัดทิ้งได้ง่าย ทันทีที่เหตุการณ์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไปก็ได้ทำให้ชาวญี่ปุ่นรู้สึกช็อคมาก เพราะญี่ปุ่นนั้นขึ้นชื่อเรื่องความเป็นประเทศที่สงบและมีความปลอดภัยจากอาชญากรรมสูงมากนั่นเอง
(ล่าง) นายทาคาฮิโระ ชิราอิชิ ฆาตกรต่อเนื่อง 9 ศพที่เพิ่งถูกจับกุมได้
แต่แล้วดราม่าก็มาบังเกิดครับ เมื่อนายอิจิตะ ยามาโมโตะ ซึ่งเป็น ส.ส. ของญี่ปุ่นดันแถลงข่าวเกี่ยวกับคดีนี้ประมาณว่า "ผมคิดว่าการที่ฆาตกรรายนี้กระทำการดังกล่าวลงไปก็คงเป็นเพราะว่าเขาเล่นวิดีโอเกมน่ะแหละ พอติดเกมก็เลยแยกความแตกต่างระหว่างโลกความเป็นจริงกับโลกในเกมไม่ออก เหมือนอย่างที่เมื่อเร็วๆ นี้ก็มีอนิเมะที่มีเนื้อหารุนแรงเหมือนกับที่ฆาตกรรายนี้ทำเลย ผมว่าเขาน่าจะได้แรงบันดาลใจมาจากพวกนี้เลยล่ะ"
(ล่าง) นายอิจิตะ ยามาโมโตะ ส.ส. ของญี่ปุ่นที่ดันปากพล่อยไปพูดพางพิงว่าฆาตกรต่อเนื่องได้รับแรงบันดาลใจมาจากเกมและอนิเมะ
เท่านั้นละครับ หลังจากที่ถ้อยแถลงของนายยามาโมโตะที่ขาดวิจารณญาณและหลักฐานที่เชื่อถือได้หลุดออกไป ชาวเน็ตในญี่ปุ่นนับไม่ถ้วนก็เข้าไปรุมสวดนายยามาโมโตะแทบจมดิน พร้อมกับเรียกร้องและประท้วงให้นายยามาโมโตะแสดงความรับผิดชอบกับคำพูดของตัวเองด้วย ไม่นานนัก เจ้าตัวก็ต้องออกมาขอโทษขอโพยกับสิ่งที่ตัวเองพูดลงไป โดยมีใจความประมาณว่า "ประโยคที่ผมพูดนั้นเป็นเรื่องไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง ทว่าน่าจะเป็นการตีความหมายของผมผิดไปว่าการก่อคดีฆาตกรรมนี้ได้รับอิทธิพลมาจากอนิเมะ และผมอยากจะบอกไปถึงทุกคนที่เกี่ยวข้องกับวงการอนิเมะ รวมถึงแฟนๆ อนิเมะทั้งหลาย ว่าสิ่งที่เขาเคยกล่าวไปเป็นประโยคไม่เหมาะสมอย่างร้ายแรง ตัวเขาต้องขอโทษจริงๆ กับสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด และรับปากว่าจะไม่พูดอะไรพล่อยๆ แบบนั้นอีกต่อไป"
สุดท้ายแล้วนี่ก็เป็นบทเรียนอีกครั้งของบุคคลระดับสูงในประเทศครับ ว่าการจะกล่าวอะไรออกไปย่อมมีผลกระทบกับคนหมู่มากทั้งสิ้น และอีกข้อเท็จจริงที่หลายคนยังเข้าใจผิดและตั้งแง่กับวิดีโอเกมและอนิเมะก็คือ ปกติแล้วทางผู้ผลิตสื่อทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นวิดีโอเกมหรืออนิเมะก็ตาม มักจะมีการรับผิดชอบต่อสังคมตามวิถีที่ควรจะเป็นอยู่แล้ว นั่นก็คือการจัดเรตติ้งที่เหมาะสมกับผู้บริโภค การที่มีใครสักคนเล่นหรือดูสื่อบันเทิงแล้วไปทำตาม นั่นเป็นเพราะเกิดความบกพร่องที่ตัวคนๆ นั้นเอง ไม่ใช่เป็นเพราะเกมชี้นำแต่อย่างใดครับ
เครดิต: Rocketnews24
เครดิตรูปภาพ: Tribunnews / Zimbio