ถ้าพูดถึงสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า (Bermuda Triangle) หรืออีกชื่อหนึ่งว่าสามเหลี่ยมปีศาจ (Devil's Triangle) อาจจะมีหลายคนหลงลืมมันไปแล้ว ซึ่งเจ้านี่ไม่ใช่สิ่งของรูปสามเหลี่ยมตามชื่อแต่อย่างใด แต่มันคือบริเวณพื้นที่ในทะเลบริเวณตะวันตกของมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือที่มีการเล่าขานว่าหากใครเข้าไปในพื้นที่บริเวณนั้นจะไม่ได้กลับมาอีกเลย และกลายเป็นเรื่องราวคอยหลอกหลอนผู้คนมาตั้งแต่สมัยปีค.ศ. 1,800 แน่นอนว่าช่วง 2 ศตวรรษที่ผ่านมาก็มีเรือ และเครื่องบินจำนวนหลายลำที่หายสาปสูญไปโดยไม่เหลือร่องรอยอะไรไว้เลย และนี่ก็คือ 10 เรื่องราวที่น่ากลัวที่สุดของเจ้าสามเหลี่ยมอาถรรพ์แห่งนี้
10- Flight 19
เรื่องราวของ Flight 19 เป็นเรื่องราวทำให้ความน่ากลัวของสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้าที่รู้กันแค่บางส่วนกระพือไกลไปทั่วโลกยิ่งขึ้น โดยเรื่องราวเกินขึ้นในเดือนธันวาคม ปี ค.ศ. 1945 เมื่อหน่วยเครื่องบินทิ้งตอร์ปิโดจำนวน 5 ลำ หรือที่รู้จักกันดีว่า Flight 19 ได้ขึ้นบินจากฟลอริด้าเพื่อฝึกซ้อม แต่ว่าหน้าปัดบนเครื่องกลับอ่านค่าผิดพลาด ทำให้ต้องติดต่อกลับไปที่ฐานเพื่อขอความช่วยเหลือ พวกเขาพยายามที่จะพื้นดิน แต่ว่ามองไปทางไหนก็มีแต่ทะเล และคำพูดสุดท้ายของกัปตันของหน่วยนี้ก็คือ กำลังจะนำลูกเรือลงจอดบนทะเลเพราะน้ำมันกำลังจะหมด แต่ทว่านักบินทั้งหมด 14 คนได้หายสาปสูญ และมีลูกเรือจำนวน 13 คนได้พยายามออกไปค้นหาแต่ทว่ากลับไม่พบร่องรอยหรือซากอะไรหลงเหลือให้เห็นเลย
9- Carroll A. Deering
Deering เป็นเรือสินค้าแบบ 5 เสากระโดงเรือ และเป็นเรือที่มีประวัติการเดินเรือมากที่สุดลำหนึ่งในประวัติศาสตร์ โดยเจ้าเรือลำนี้ได้ออกจาก Virginia เพื่อไปยัง Rio de Janeiro ในเดือนสิงหาคม ปีค.ศ. 1920 เพื่อขนถ่านหิน แต่ว่ามันกลับหายไปจากเส้นทาง และไปพบอีกครั้งที่บริเวณด้านเหนือของคาโรไลน่า ในเดือนมกราคม ปี ค.ศ. 1921 ซึ่งผู้พบเห็นมันเข้าใจว่ามันเป็นเรือผีสิง เพราะว่าทั้งลูกเรือ และอุปกรณ์นำทางบนต่างๆ ได้หายไปหมด รวมไปถึงเรือช่วยชีวิต 2 ลำบนเรือก็หายไปด้วยเช่นกัน แต่ว่าก็ไม่มีใครหาพวกเขาเจออีกเลยแม้กระทั่งมีการตรวจสอบจากรัฐบาลของสหรัฐแล้วก็ตาม
8- The Ellen Austin
Ellen Austin เป็นเรือใบสัญชาติอเมริกันที่เดินทางระหว่างลอนดอน และนิวยอร์ค ซึ่งอยู่ในบริเวณอาณาเขตด้านเหนือของสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า แน่นอนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับเจ้าเรือลำนี้ แต่ว่าในปี ค.ศ. 1881 ในระหว่างที่เรือกำลังแล่นอยู่ กลับพบเรือใบอีกลำแล่นมาด้วยความเร็วค่อนข้างมั่นคงแล่นผ่านเข้ามา แต่ทว่าลูกเรือกลับไม่พบธง หรือชื่อบอกสัญชาติอะไรเลย และสิ่งที่ทำให้พวกเขาตกใจยิ่งกว่าคือมันไม่มีสิ่งมีชีวิตอะไรเลยอยู่บนเรือลำนั้น ทำให้กัปตันตัดสินใจที่นำเจ้าเรือลำนั้นลากไปกับเรือของเขาด้วย แต่ในระหว่างทางกลับเกิดพายุขึ้นทำให้เรือทั้ง 2 ลำนั้นแยกกัน และก็ไม่เคยพบเห็นเจ้าเรือลำนั้นอีกเลย จนกระทั่งในปี ค.ศ. 1944 นายทหารเรือปลดประจำการชาวอังกฤษได้เขียนเรื่องราวของเรือ Ellen Austin ที่ได้พบเจอเรือผีสิงลำนั้นอีกครั้ง แต่ว่าก็ไม่มีอะไรยืนยันว่าเจ้าเรือผีสิงลำนั้นมีจริงหรือไม่
7- Witchcraft
Witchcraft เป็นเรือครุยเซอร์ขนาด 23 ฟุตของ Daniel S. Burack ที่ออกจากไมอามี่พร้อมผู้โดยสารในเดือนธันวาคม ปี ค.ศ.1967 ซึ่งพวกเขาทุกคนเห็นแสงสว่างคล้ายต้นคริสมาสต์ระยะไกลจากชายฝั่ง ทำให้ Daniel ได้ติดต่อไปยัง ยามชายฝั่งของไมอามีในช่วง 3 ทุ่ม และรายว่างเรือของพวกเขาถูกทุบด้วยบางสิ่งบางอย่างที่ด้านใต้ และต้องการความช่วยเหลือเพื่อลากเรือเขาออกไป จากนั้นเพียงแค่ 19 นาทีหลังจากที่ไม่ได้รับสัญญาณเรือช่วยเหลือได้ไปถึง แต่ไม่พบลูกเรือแม้กระทั่งคนเดียว ทำให้เรือ Witchcraft กลายเป็นเหยื่อของความดุร้ายของสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้าไปในที่สุด
6- SS El Faro
SS El Faro เป็นเรือขนสินค้ายาว 790 ฟุต ที่มีเส้นทางเดินเรือพุ่งตรงไปยังใจกลางของสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้าในเดือนกันยายน ค.ศ. 2015 จากฟลอริด้าไปยังเปอร์โตริโก้พร้อมด้วยลูกเรือทั้งหมด 33 คน โดยมีผู้หญิงโดยสารไปด้วย จากนั้นมีรายงานว่าพบพายุโซนร้อนห่างออกไปจากเหลือเป็นระยะหลายร้อยไมล์ ซึ่งห่างไกลจากเส้นทางเดินเรือมากนักจึงไม่มีอะไรที่น่ากังวล จนกระทั่งอากาศแปรปรวนทำให้พายุได้ขยายตัวเป็นพายุเฮอร์ริเคนระดับ 3 ทำให้เกิดคลื่นสูง 40 ฟุต
จากการสื่อสารที่ติดต่อมาจากกัปตันพบว่าเครื่องยนต์ได้หยุดการเคลื่อนไหว และไม่มีกำลังมากพอทำให้เรือนั้นเอียงไปด้านหนึ่ง และพวกเขากำลังจะจมน้ำ แต่ว่าลูกเรือยังควบคุมสถานการณ์ทุกอย่างเอาไว้ได้ หลังจากนั้นก็ไม่มีการติดต่อใดๆ กลับมาอีก และไม่กี่สัปดาห์ให้หลังก็พบเรือ SS El Faro จมอยู่ใต้ท้องทะเลที่ความลึก 15,000 ฟุต ซึ่งบริเวณก้นทะเลแถวนั้นไม่พบเบาะแสของลูกเรือแม้แต่คนเดียว
5- Douglas DC- 3
Douglas Dakota หรือ DC-3 เป็นเครื่องที่น่าเชื่อถือ และได้รับการยอมรับมากที่สุดลำหนึ่งที่ขึ้นบินเมื่อเดือนธันวาคม ปี ค.ศ.1948 จากเปอร์โตริโก้ เมื่อมุ่งตรงสู่ไมอามี่ ในขณะนั้นสภาพอากาศปกติ อีกเพียงแค่ 20 นาทีเครื่องบินจะถึงที่หมาย แต่ทว่าเครื่องบินกลับหายไปในสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้าพร้อมด้วยผู้โดยสาร 28 คน และลูกเรืออีก 3 คน
บริเวณพื้นน้ำบริเวณแถวนั้นมีความชัดเจน ไม่มีเศษหรือร่องรอยเครื่องบินที่หายไปแม้แต่ชิ้นเดียว นับเป็นเรื่องเกิดขึ้นกับเครื่องบินที่รวดเร็วแบบฉับพลันโดยที่ไม่มีเบาะแสอะไรให้ชี้ชัดว่ามีอะไรเกิดขึ้นกันแน่
4- Trislander
ก่อนหน้าเหตุการณ์ของ SS El Faro เจ้าเครื่องบิน 3 ไอพ่น Trislander ลำนี้เป็นเหยื่อรายล่าสุดที่ต้องสังเวยให้กับสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นในเดือนธันวาคม ปี ค.ศ. 2008 เจ้าเครื่องบินลำนี้ได้บินออกจากซานเทียโก้เพื่อตรงไปที่นิวยอร์คพร้อมด้วยผู้โดยสาร 12 คน แต่ทว่ามันก็บินไปไม่ถึงจุดหมาย เพราะเพียงแค่ 35 นาทีที่เครื่องบินได้บินออกไป มันก็หายไปจากจอเรดาร์ แน่นอนว่ามีการตั้งทีมค้นหาจากยามชายฝั่งของสหรัฐ แต่ก็ไม่มีใครได้พบเห็นเจ้าเครื่องบิน และลูกเรืออีกเลย
3- Flight 441
Flight 441 เครื่องบินขนาดมหึมาของกองทัพสหรัฐอยู่ในระหว่าขนส่งผู้โดยสาร และหน่วยนาวีซีลทั้งหมด 42 คนได้หายสาปสูญไปในสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้าเมื่อวันที่ 30 ตุลาคม ปี ค.ศ. 1954 ซึ่งก็เหมือนกับเหตุการณ์อื่นๆ คือหลังจากที่มีสัญญาณติดต่อจากครั้งแรก หลังจากนั้นทุกอย่างก็เงียบไป ซึ่งตามปกติแล้ว ถ้าเครื่องบินเกิดชนกันหรือมีการระเบิดก็ต้องมีชิ้นส่วนเหลงเหลือให้เห็นแต่ว่าไม่มีสัญญาณขอความช่วยเหลือมาจากกัปตันแต่อย่างใด ไม่พบทั้งร่างกายหรือเศษซากเครื่องบินภายหลังจากการตรวจสอบ ซึ่งมีการะบุไว้ว่าเครื่องบินได้หายไปอย่างลึกลับโดยอธิบายอะไรไม่ได้
2- The B.S.A.A Star Tiger
การหายไปของเครื่องบินลำนี้เกินขึ้นในเดือนมกราคม ปี ค.ศ. 1948 พร้อมด้วยผู้โดยสาร 25 คน และลูกเรืออีก 6 คนเช่นเดียวกับดคี Flight 441 ซึ่งสายการบินลำนี้มีเส้นทางที่จะไปเบอร์มิวด้าโดยบินออกจากซานต้ามาเรีย แล้วหายไปซักที่ในบริเวณคาบสมุทรแอตแลนติค โดยมีสัญญาณจากโอเปอเรเตอร์ของเครื่องบินเพื่อส่งมายืนยันตำแหน่งตอนช่วงเวลา 3.00 น. จากศูนย์วิทยุของเบอร์มิวด้า จากนั้นก็มีการติดต่อกลับมาอีกครั้งตอนช่วง 3.50 น. แล้วก็ไม่มีสัญญาณตอบกลับจาก Star Tiger อีกเลย ไม่มีใครรู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นบนเครื่องในช่วง 50 นาทีนั้น และเครื่องบินกับลูกเรือทั้งหมดหายไปไหนโดยไม่มีทั้งเศษซาก หรือเบาะแสเหมือนเช่นเคย
1- U.S.S Cyclops
U.S.S Cyclops เป็นเรือบรรทุกถ่านหินขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นสำหรับกองทัพเรือสหรัฐก่อนสมัยสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ซึ่งในเดือนกุมภาพันธ์ ปี ค.ศ. 1918 เรือลำนี้ได้เดินทางกลับจากประเทศบราซิลเพื่อมุ่งสู้บัลติมอร์ด้วยสินค้าเต็มลำ แต่มันก็ไม่มีเคยมาถึงที่หมาย โดยที่เรือนั้นมีคนโดยสารทั้งหมดถึง 309 ชีวิต แต่ทั้งหมดกลับหายไปทั้งหมด และจากการค้นหาตลอดทั่วทุกเส้นทางเพื่อหวังค้นพบร่องรอยบางอย่าง อีกทั้งยังมีการสันนิษฐานว่าอาจเป็นการโจมตีจากทหารเยอรมัน หรือเจอเรือดำน้ำโจมตีในระหว่างสงคราม แต่ว่าทางเยอรมันเองก็ได้ปฎิเสธเกี่ยวกับเรื่องเรือลำนี้ มีการบันทึงไว้ว่าเรือได้จมลงเพราะประสบกับพายุที่ไม่คาดคิด แต่แท้จริงแล้วสิ่งที่เกิดขึ้นก็ยังคงเป็นความลับมาจนถึงทุกวันนี้ เพราะว่าเป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดเกี่ยวกับการเดินทางด้วยเรือของมนุษย์ที่ไม่ใช่สิ่งที่เกิดจากการต่อสู้ในประวัติศาสตร์กองทัพเรือสหรัฐ
ที่มา : http://www.wonderslist.com/terrifying-mysteries-bermuda-triangle/