ไม่บ่อยครั้งนักที่แฟนหนังจีนกำลังภายในชาวไทยจะได้มีโอกาสชมภาพยนตร์กำลังภายในคุณภาพ Sword Master ดาบปราบเทวดา จะมอบความรู้สึกของหนังกำลังภายในยุคทองสมัยชอว์บราเธอร์ส ผสานกับเทคนิคพิเศษตระการตาระดับฮอลลีวู้ดแห่งศตวรรษนี้ เพื่อจารึกผลงานภาพยนตร์ชิ้นมาสเตอร์พีซที่โลกต้องจารึก
เรื่องราวของ เจี่ยวเฮียวฮง (หลินเกิงซิน) คุณชายสามแห่งหมู่บ้านกระบี่เทพเจ้า เป็นจอมยุทธกระบี่ที่ได้รับการขนานนามว่าเก่งกาจที่สุดในปฐพีตั้งแต่อายุได้เพียง 12 ปี แต่เมื่อโตขึ้น เขาเบื่อหน่ายการเสียเลือดเนื้อไปกับโลกแห่งศิลปะป้องกันตัว เขาสูญเสียความสามารถในเพลงกระบี่ และตัดสินใจหนีจากทุกสิ่ง ทำตัวเองให้กลายเป็นบุคคลสาบสูญ เขาแพร่ข่าวปลอมว่าตัวเขานั้นได้ตายไปแล้ว จากนั้นจึงไปซ่อนตัวอยู่ในโรงเตี๊ยมแห่งหนึ่ง ณ ที่แห่งนั้น เขากลายเป็นเพียงภารโรงที่ผู้คนรู้จักกันในนามว่า “อากิก” และใช้ชีวิตอย่างหมาวัดที่ตกหลุมรักดอกฟ้าอย่างหญิงบริการนามว่า “เสี่ยวลี่” (เจียงเมิ่งเจี๋ย)
ขณะเดียวกัน มียอดฝีมือกระบี่แห่งยุทธจักอีกคนนามว่า อี้จับซา (เหอหยุนตง หรือ ปีเตอร์ โฮ) ที่มักถูกผู้คนรอบข้างจำผิดว่าเขาคือคุณชายสาม ความปรารถนาในชีวิตของเขามีเพียงสิ่งเดียวคือการได้ประลองยุทธ์กับคุณชายสามดูสักครั้ง เมื่อเขาได้ทราบข่าวการตายของคุณชายสาม อี้จับซาตกอยู่ในความสิ้นหวัง คิดว่าเป้าหมายชีวิตของเขาจะไม่มีวันได้รับการเติมเต็ม แต่แล้ววันหนึ่งเขาได้พบกับอากิก กลับจำไม่ได้ว่า แท้จริงแล้วหนุ่มภารโรงคนนี้ คือคู่ประลองในฝันของเขา
ในขณะนั้น ฉิวตี้ (เจียงอวี้เหยียน) อดีตคู่หมั้นของคุณชายสาม รู้สึกโกรธเกลียดเขาเพราะคุณชายทิ้งเธอไปในวันแต่งงาน ก่อให้เกิดเป็นความเกลียดชังระหว่างตระกูลของเธอและเขา เพื่อล้างแค้นที่ถูกหักอก เธอจึงยุยงอี้จับซาให้ปลิดชีพคุณชายสามทิ้งเสีย และเพื่อจะล่อให้คุณชายสามกลับออกมาจากการซ่อนตัว เธอจึงทำการสังหารหมู่ที่วิหารจอมยุทธ์ วางแผนล่อลวงให้เกิดการประลองยุทธ์ขึ้น
จากหยดน้ำหมึกของ โกวเล้ง ยอดนักเขียน เจ้าของฉายามังกรเมรัย ผนึกกำลังฝีมือผู้อำนวยการสร้างชั้นเซียน ฉีเคอะ และผู้กำกับดีกรีออสการ์ฮ่องกง เอ๋อตงเซิน ก่อเกิดเป็นภาพยนตร์สั่นสะเทือนทั้งเอเชีย
Sword Master ดัดแปลงจากนวนิยายกำลังภายในของโกวเล้งที่เขียนเมื่อปี 2518 เรื่อง ซาเสียวเอี้ย (The Third Master’s Sword) การนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์กำกับโดย เอ๋อตงเซิน ในครั้งนี้ จะเป็นการนำนิยายของโกวเล้งกลับมาบนจอภาพยนตร์อีกครั้ง โกวเล้งถือเป็นเจ้าพ่อนวนิยายกำลังภายในตัวจริง ผลงานของเขาได้กลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับเหล่านักสร้างภาพยนตร์มากมาย และได้นำไปทำเป็นภาพยนตร์ทั้งเรื่อง “เซียวฮื่อยี้ กระบี่ไม่มีคำตอบ” (1992) ที่นำแสดงโดยหลิวเต๋อหัว, หลินชิงเสีย และเยี่ยเต๋อเสียน รวมทั้งเรื่อง “กระบี่ผีเสื้อบารมีสะท้านภพ” (1993) นำแสดงโดย เหลียงเฉาเหว่ย, มิเชล โหย่วและ ดอนนี่ เยน
ในคราวนี้ เอ๋อตงเซินจะร่วมมือกับนักสร้างหนังระดับตำนานอย่าง “ฉีเคอะ” (ผู้สร้าง “พยัคฆ์ตะลุยพยัคฆ์” (2011) และ “ตี๋เหรินเจี๋ย ผจญกับดักเทพมังกร” (2013) กับการนำนิยายที่ผู้คนต่างหลงรักกันทั่วโลก สร้างเป็นปรากฏการณ์ภาพยนตร์กำลังภายในที่ยิ่งใหญ่อลังการอีกครั้ง เมี่อเรื่องราวแห่งศักดิ์ศรีและความแค้น มารวมกับเทคโนโลยีการถ่ายทำภาพยนตร์ระดับสูงสุด จะทำให้ Sword Master กลายเป็นภาพยนตร์ที่จะเปิดศักราชใหม่แห่งหนังกำลังภายในอย่างแท้จริง
เอ๋อตงเซิน (Derek Yee) ผู้กำกับของเรื่อง เกิดเมื่อปี 1957 เป็นนักแสดงของค่าย ชอว์บราเธอร์ส ก่อนที่จะผันตัวมาเป็นนักเขียนบทและผู้กำกับ จนสร้างชื่อได้ในเกาะฮ่องกง คว้ารางวัลจากเทศกาลภาพยนตน์มากมาย เขาสามารถทำหนังตอบรับกระแสหลักโดยที่ยังคงความเป็นศิลปะไว้อย่างครบถ้วน เอ๋อตงเซินนำแสดงหนังฮ่องกงกว่า 40 เรื่อง ระหว่างปี 1975 – 1986 ซึ่งเป็นยุคที่บริษัทชอว์บราเธอร์สกำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น หลังจากนั้นเขาหันเหความสนใจไปที่การเขียนบทและกำกับ จนแจ้งเกิดในฐานะนักทำหนังจาก C'est la vie, mon chéri, Viva Erotica
และในปี 2016 ถือเป็นเวลาอันเหมาะเจาะในการเอาหนังที่เคยสร้างชื่อให้เขาเรื่อง The Death Duel ซึ่งตัว เอ๋อตงเซิน รับบทเป็น คุณชายสาม พระเอกของเรื่อง กลับมาปัดฝุ่นใหม่ นำเสนอเรื่องราวของสองชายที่ห้ำหั่นกันไม่เพียงแค่ความเป็นที่หนึ่ง แต่ยังเพราะความลุ่มหลงในเพลงกระบี่อย่างถอนตัวไม่ขี้น
เอ๋อตงเซิน กล่าว“ผมกับฉีเคอะอยากจะร่วมงานกับสร้าง Sword Master มาตั้งแต่ปี 1998 แล้วครับ เราทั้งสองต่างตั้งใจจริงกับโปรเจคต์นี้ และต่อสู้เพื่อมันมาอย่างยาวนาน ในการทำมันขึ้นมาให้เป็นรูปเป็นร่าง ฉีเคอะได้ให้ไอเดียสุดยอดกับผมมากมาย แถมยังพาผมไปรู้จักกับเทคโนโลยีการถ่ายทำชั้นยอดที่ผมแทบจะไม่ได้สัมผัสมาก่อน คุณสามารถพูดได้เลยว่า Sword Master คือหนังที่เกิดขึ้นจากหัวใจและความรักของพวกเราโดยแท้จริง”
เอ๋อตงเซิน รับบท ซาเสียวเอี้ย The Death Duel (1977)
พอขึ้นชื่อว่าหนังเรื่องนี้มี ฉีเคอะ อำนวยการสร้างแล้วความน่าดูก็ตามมาแบบแทบจะไม่ต้องคิดกันเลยทีเดียวสำหรับคอหนังจีนโดย เพราะฉายา มือวางอันดับหนึ่งราชันย์หนังบู๊ไม่ได้ได้มาเพราะความบังเอิญ พร้อมนำผู้ชมทุกคนได้ร่วมประจักษ์ในความยิ่งใหญ่ของภาพยนตร์กำลังภายในที่สมบูรณ์แบบในทุกองค์ประกอบ ทั้งเรื่องราวที่เข้มข้น ซับซ้อน และฉากวิชาการประลองยุทธ-ดวลกระบี่ที่ผู้ชมจะไม่อาจละสายตา
ฉีเคอะ เกิดที่ประเทศเวียดนามในปี 1950 โดยพ่อแม่เป็นชาวจีนอพยพ เขามีความสนใจในเรื่องภาพยนตร์ตั้งแต่เด็ก และย้ายไปฮ่องกงต้งแต่อายุ 13 ก่อนที่เขาจะเดินทางไปเรียนทำหนังที่รัฐเท็กซัสและเมืองนิวยอร์ค โดย ฉีเคอะ กลับมาที่ฮ่องกงในปี 1977 เพื่อทำงานกับ TVB
ฉีเคอะ กำกับภาพยตร์เรื่องแรกชื่อ The Butterfly Murders ก่อนที่จะสร้างชื่ออย่างแท้จริงในปี 1983 กับภาพยนตร์เรื่อง ศึกเทพยุทธเขาซูซัน (Zu: Warriors from the Magic Mountain) หลังจากนั้นเขาก็ได้ก่อตั้งสตูดิโอหนัง Film Workshop ซึ่งได้สร้างหนังคลาสสิคมากมาย เช่น โหด เลว ดี (A Better Tomorrow), โปเยโปโลเย (A Chinese Ghost Story), หวงเฟยหง (Once Upon a Time in China) และทำให้ชื่อของ โจวเหวินฟะ, เลสลี่ จาง และ เจ็ท ลี กลายเป็นซุปเปอร์สตาร์จนถึงปัจจุบัน
และคนสุดท้ายที่ถ้าไม่มีเขาก็คงไม่มีหนังเรื่องนี้นี้คือ โกวเล้ง มังกรโบราณผู้ล่วงลับ นักเขียนที่แม้จะจากโลกนี้ไปแล้ว แต่ผลงานของเขายังเป็นตำนานตราบชั่วลูกชั่วหลาน โกวเล้งเลือกถ่ายถอดปรัชญาอันคมคายลงในเรื่องราวของ ยอดกระบี่มือหนึ่งของบู๋ลิ้ม ที่สละชีวิต เกียรติยศ และชื่อเสียง เร้นกายอยู่ท่ามกลางผู้คนกลายเป็น อากิ กบุรุษผู้ซึ่งยอมทำทุกอย่างเพื่อแค่มีชีวิตอยู่ต่อไป
ผลงานแต่ละเรื่องที่ปรมจารย์นักเขียนผู้นี้ฝากไว้ล้วนแล้วแต่มีตัวละครที่โดดเด่นและเนื้อเรื่องที่น่าสนใจ โดยเฉพาะใน ซาเสียวเอี้ย โกวเล้งเขียนถึงชีวิตชาวยุทธจักรได้อย่างมีเลือดเนื้อ ชาวยุทธจักรที่ทั้งกล้ารักและกล้าแค้น กล้ำร่ำไห้กล้าหัวเราะ ยึดมั่นในหลักที่ว่า บุญคุณต้องทดแทนแค้นต้องชำระ ทำให้หนังสือเล่มนี้โดดเด่นสมกับเป็นหนึ่งในผลงานเลื่องชื่อของมังกรผู้ล่วงลับ
โกวเล้ง ผู้ประพันธ์ ซาเสียวเอี้ย
รวมทีมนักแสดงมากความสามารถ มาร่วมถ่ายทอดบทบาทถึงแก่นแท้ของชาวยุทธจักรเป็นเวลาหลายทศวรรษที่ภาพยนตร์จีนกำลังภายในได้กลายเป็นประสบการณ์สำคัญของการชมภาพยนตร์ โดยเฉพาะคอหนังเมืองไทย ด้วยการดำเนินเรื่องที่ซับซ้อนแยบยล แฝงปรัชญาชีวิตที่ลึกซึ้ง ประกอบกับความตื่นเต้นเร้าใจของฉากการประลองฝีมือของบรรดาจอมยุทธที่ต่างมาพร้อมกับวิชาการต่อสู้ที่เหนือชั้น
ถึงแม่ในช่วงหลังภาพยนตร์กำลังภายในฟอร์มใหญ่จะห่างหายไปจากจอหนังมาระยะหนึ่ง แต่ล่าสุด ในเดือนธันวาคมนี้ แฟนภาพยนตร์จะมีโอกาสได้พบกับการกลับมาสร้างปรากฏการณ์ครั้งสำคัญที่จะถือเป็นจุดกำเนิดใหม่ของภาพยนตร์กำลังภายในเรื่องนี้ที่คนดูได้ร่วมประจักษ์ในความยิ่งใหญ่ของภาพยนตร์กำลังภายในที่สมบูรณ์แบบในทุกองค์ประกอบ ทั้งเรื่องราวที่เข้มข้น ซับซ้อน และที่สำคัญคือวิชาการประลองยุทธของบรรดาตัวละครนำ ที่อ่อนช้อยและดุดันเหมือนกับถอดภาพมาจากจินตนาการผู้ประพันธ์ไม่ผิดเพี้ยน ที่ถ่ายทอดโดยทีมนักแสดงที่แม้จะไม่ถึงขนาดระดับแม่เหล็ก แต่เป็นคนรุ่นใหม่ที่เปี่ยมไปด้วยฝีมือ
คุณชายสาม (หลินเกิงซิน)
คุณชายสาม : หรือที่เคยมีนามว่า เจี่ยวเฮียวฮง คุณชายสามแห่งหมู่บ้านกระบี่เทพเจ้า ที่ริมทะเลสาบวารีสีเขียว เขิงเขาเมฆมรกต เขาเป็นจอมยุทธกระบี่ที่ได้รับการขนานนามว่าเก่งกาจที่สุดในปฐพี มีกระบวนท่าที่ไร้จุดก่อน ไร้คู่ต่อกร เขาเป็นเป้าหมายที่จอมยุทธทุกคนต้องการโค่น แต่หลังจากที่เขาคร่าชีวิตไปนับไม่ถ้วน เขาถูกหลอกหลอนจากความทรงจำอันโหดร้าย ทำให้เขาไม่สามารถที่จะจับกระบี่ได้อีก จึงตัดสินใจลาจากยุทธภพ ด้วยการปล่อยข่าวลือว่าตัวเองตาย จากนั้นจึงไปซ่อนตัวอยู่ในโรงเตี๊ยมเสี่ยวหยู ณ ที่แห่งนั้น เขากลาเป็นเพียงนักการภารโรงที่ผู้คนรู้จักกันในนามว่า “อากิก” เฮียวฮงจมความเศร้าตัวของไปในไหเหล้า แต่ในที่สุดเขาก็ถูกบังคับให้ออกจากรังซ่อน เพื่อจับกระบี่ลุกขี้นสู้อีกครา
รับบทโดย หลินเกิงซิน : หนึ่งในดาวรุ่งพุ่งแรงที่สุดแห่งวงการภาพยนตร์จีน หลินเกิงซินแจ้งเกิดจากละครทีวีสุดฮิต Scarlet Heart ในปี 2011 เขาได้รับกการเสนอชื่อเขาชิงรางวัลดาราหน้าใหม่ยอดเยี่ยมของสมาพันธ์ภาพยนตร์ฮ่องกง จากภาพยนตร์เรื่อง ตี๋เหรินเจี๋ย ผจญภัยกับดักเทพมังกร โดยการกำกับของ ฉีเคอะ เขาได้มาร่วมงานกับ ฉีเคอะอีกครั้งใน ยุทธการยึดผาพยัคฆ์ 3D ที่สร้างจากงิ้วชื่อดัง ผลงานล่าสุดของเขาคือหนังรักวัยรุ่น My Old Classmate
อี้จับซา(เหอหยุนตง)
อี้จับซา: ถือเป็นหนึ่งยอดฝีมือในบู๊ลิ้ม เจ้าของวิชาสิบสามกระบี่คร่าชีวิต อี้จับซาแปลว่า สิบสามแซ่อี้ มีที่มาจาก เป็นชื่อที่ตั้งมาเกทับสองจอมยุทธคนก่อนหน้าที่มีชื่อแปลว่าห้าและเจ็ด เซียนกระบี่ที่มักถูกเข้าใจผิดว่าเป็นคุณชายสามแห่งหมู่บ้านกระบี่เทพเจ้า เขากำลังตายอย่างช้าๆด้วยโรคที่ไม่สามารถรักษาได้ สิ่งสุดท้ายที่เขาต้องการคือการพิสูจน์ตัวเองด้วยการประลองยุทธกับคุณชายสามตัวจริง เจี่ยวเฮียวฮง เมื่อได้รู้ข่าวว่าคุณชายสามตายแล้ว อี้จับซาได้ตระหนักว่าเขาไม่สามารถสนองความต้องการของตัวเองได้ จึงผลานเวลาไปกับเหล้ารอวันตาย ซึ่งนั้นเป็นเหตุให้เขาบังเอิญเจอกับ เจี่ยวเฮียวฮง ซึ่งกำลังเก็บตัวอยู่ในโรงเตี๊ยม อี้จับซา ไม่รู้ด้วยซ้ำว่านั่นคือคู่ต่อกรที่เขาเฝ้าเพียรหาตลอดมา
เหอหยุนตง: นักแสดง นายแบบ นักร้อง และ โปรดิวเซอร์ ชาวไต้หวัน เขาก้าวเท้าเข้าสู่วงการมายาด้วยการเป็นนักร้อง เพราะไปเตะตาโปรดิวเซอร์เพลง ตั้งแต่เขาเรียนอยู่ชั้นปีสองในมหาวิทยาลัย ผลงานการแสดงเรื่องแรกของเขาคือ ม่านประเพณี รักเรานี้ชั่วนิรันด์ ในปี 1994 เขาร่วมงานกับผู้กำกับ เอ๋อตงเซิน ครั้งแรกในปี 1999 ใน The Truth about Jane and Sam ในปี 2007 เขาแสดงร่วมกับ จาง ซี่ยี่ ในหนังโรแมนติคคอมมิดี้ รักสะดุด ต้องฉุดเธอกลับ นอกจากนี้เขายังร่วมแสดงกับแอ็คชั่นสตาร์ระดับโลก ดอนนี่ เยน ใน ไซอิ๋ว กำเนิดพญาวานร ในปี 2014
ม่อย้งชิวชิว(เจียงอวี้เหยียน)
ม่อย้งชิวชิว: เจ้าสำนักหนองเจ็ดดาว เธอคืออดีตคู่หมั้นของคุณชายสาม รู้สึกโกรธเกลียดเขาเพราะคุณชายทิ้งเธอไปในวันแต่งงาน ก่อให้เกิดเป็นความเกลียดชังระหว่างตระกูลของเธอและเขา เพื่อล้างแค้นที่ถูกหักอก เธอจึงยุยงอี้จับซาให้ปลิดชีพคุณชายสามทิ้งเสีย แต่เมื่อเธอได้ยินข่าวการตายของคุณชายสามเธอกลับโศกเศร้าจนแทบเสียสติ
เจียงอวี้เหยียน: นักแสดงและนักร้องชาวจีน เธอจบการศึกษาด้านการแสดงจากสถาบันภาพยนตร์แห่งกรุงปักกิ่งในปี 2002 เธอสามารถ่ายทอดบท “แฟนสาวจอมป่วน” ได้อย่างยอดเยี่ยม ในภาพยนตร์เรื่อง The Pretending Lovers เมื่อปี 2010 แสดงร่วมกับหวงโบ เธอได้รับการเสนอชื่อเข้าขิงรางวัลนักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยมในเเทศกาลหนังชางชุนครั้งที่สิบและรางวัลสมาคมภาพยนตร์จีนครั้งที่ 10 ในเรื่อง นานกิง โศกนาฏกรรมสงครามมนุษย์ ในปี2012 เธอได้รับรางวัลเดนนี่ จากการแสดงละครเวทีที่ดัดแปลงจากนิยายชื่อดัง July and Anson ในปีเดียวกันนั้นเธอตีพิมพ์หนังสือรวมเรื่องสั้นเรื่องแรกของเธอ และได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงราลวันจากสมาคมภาพยนตร์ฮ่องกง จากภาพยนตร์เรื่อง ดับแผนล่า กระสุนสั่งตาย ที่มีเอ๋อตงเซินเป็นโปรดิวเซอร์
เซี่ยวหลี (เจียงเมิ่งเจี๋ย)
เซี่ยวหลี: นางโลมปลายแถวแห่งโรงเตี๊ยม เสี่ยวหยู เธอไม่เคยเรื่องมากเกี่ยวกับลูกค้า และเต็มใจที่ตกเป็นเครื่องระบายความใคร่ วันหนึ่งขณะที่เธอกำลังถูกพวกกักขฬะสองคนทำร้ายอยู่ ภารโรงลึกลับนาม อากิกซึ่งคืออดีตคุณชายสามแห่งหมู่บ้านะกระบี่เทวดาได้ยื่นมือเข้ามาช่วย เป้าหมายสูงสุดของเสี่ยวลี่คือเก็บออมเงินให้มากพอที่จะไถ่ตัวเองออกไปจากโรงเตี๊ยมแห่งนี้ได้ และมีเหลือเพื่อซื้อที่นาเล็กๆไว้ให้เธอและอากิกได้ใช้ชีวิตที่เหลือเยี่ยมสามัญชน
เจียงเมิ่งเจี๋ย: นักแสดงสาวชาวจีน เธอจบการศึกษาจากสถาบันการเต้นแห่งกรุงปักกิ่ง เอกบัลเลต์ เธอได้รับการจับตา มองมากหลังจากแสดงละครเรื่อง Dream of the Red Chamber ต่อมาเธอได้รับรางวัลไป่เหอ สาขานักแสดงหญิงยอดเยี่ยมจาก To My Wife
Sword Master คือการนำเสน่ห์ของยุคทองหนังกำลังภายในกลับมาให้คนรุ่นใหม่ได้สัมผัส เสริมด้วยเทคนิคด้านภาพอันน่าตื่นตาอลังการ งานสร้างเรื่องนี้รับประกันได้ว่าทัดเทียมระดับฮอลลีวู้ดเลยทีเดียว แต่ยังคงความความที่เป็นรูปแบบเฉพาะของหนังเอเชีย เพราะทั้งเรื่องถ่ายทำที่สตูดิโอ เหิงเตี่ยน ซึ่งเป็นสตูดิโอถ่ายหนังที่ใหญ่ที่สุดในโลก ไม่ใช่หนังทุกเรื่องที่จะถ่ายทำที่นี้ได้เพราะมันมีค่าใช้จ่ายสูงมาก ไม่ใช่แค่งานฉากแต่การออกแบบคิวบู๋ก็ทำได้ชดช้อยไม่ต่างอะไรกำการเต้นระบำ ที่พร้อมสะกดทุกสายตา
ร่วมประจักษ์เป็นสักขีพยานในมหากาพย์แห่งการดวลครั้งยิ่งใหญ่ของสองยอดมือกระบี่แห่งยุทธภพ มันส์สั่นสะเทือนใต้หล้า สะท้านทั่วปฐพีใน “SWORD MASTER”
15 ธันวาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์
ข่าวประชาสัมพันธ์