รวมความเชื่อแปลกๆ จากโลกภาพยนตร์ที่ทั้งถูกและผิด

แชร์เรื่องนี้:
รวมความเชื่อแปลกๆ จากโลกภาพยนตร์ที่ทั้งถูกและผิด

                      อย่างที่รู้ๆ กันว่าภาพยนตร์คือเรื่องที่แต่งขึ้นมาทำให้ทางผู้ผลิตภาพยนตร์ต้องปรับกฏของธรรมชาติและหลักการต่างๆ เพื่อให้ภาพและเรื่องที่โผล่ออกมาบนจอนั้นเข้ากับเรื่องนั้นๆ ซึ่งสิ่งที่โผล่ขึ้นบนจอนั้นก็ทำให้เกิดความเชื่อที่ทั้งถูกและผิดขึ้นมา จะมีอะไรบ้างเราไปดูกันเลยดีกว่าครับ

 

ลำแสงเลเซอร์จากปืนเลเซอร์สามารถมองเห็นได้เป็นเส้นๆในภาพยนตร์ไซไฟนั้นเรามักจะได้เห็นปืนยิงลำแสงเลเซอร์เป็นอาวุธหลักของเรื่องอย่างใน Star Wars , Star Trek ซึ่งเป็นอาวุธที่ดูเท่ห์มากและไม่ต้องเปลี่ยนซองกระสุนด้วย พร้อมกับทำให้ฉากในภาพยนตร์อลังการอย่างเช่นฉากการยิงต่อสู้กันของยานอวกาศ แต่ว่าถ้าปืนเลเซอร์ที่ใช้ยิงต่อสู้กันจริงๆ ถูกสร้างขึ้นมาในชีวิตจริงนั้น เราคงจะไม่ได้เห็นแบบในภาพยนตร์แน่นอนเพราะลำแสงเลเซอร์ต้องการการสะท้อนเพื่อที่จะมองเห็น และการที่แสงเลเซอร์มองไม่เห็นนั้นจะทรงพลังมากกว่าเพราะการที่แสงเข้มถึงขนาดมองเห็นหมายถึงการกระจายตัวของโปรตอนทำให้ลำแสงมีความรุนแรงน้อยลง ใครสนใจเรื่องแสงเลเซอร์สามาถ อ่านต่อได้ที่นี่เลยครับ http://laserstars.org/amateur/movies/myths.html

 

 

ตำรวจต้องบอกสิทธิ์ของผู้ที่ถูกจับ

ประโยคยอดฮิตอย่าง ในภาพยนร์อเมริกาอย่าง “คุณมืสิทธิ์ที่จะไม่พูด” ที่ตำรวจจะพูดขึ้นเป็นประโยคแรกหลังจากจับผู้ต้องสงสัย ซึ่งถ้าตำรวจลืมพูดผู้ต้องหาสามารถพ้นจากการโดนจับกุมได้ ในตามความเป็นจริงแล้วมันเป็นคำพูดสำหรับคนที่กำลังจะโดนสอบปากคำโดยรัฐเท่านั้น ไม่จำเป็นสำหรับคนที่จู่ๆ ก็โดนจับ

 

 

ข้ออ้างว่าเป็นบ้าเพื่อให้พ้นข้อกล่าวหาในภาพยนตร์ที่มีทนายของคนที่เป็นฆาตกรนั้น ทนายก็พยายามจะอ้างว่าลูกความของทนายเป็นคนจิตไม่ปกติเพื่อให้ฆาตกรรอด ในความเป็นจริงนั้นการอ้างว่าเป็นบ้านั้นแทบจะไม่มีการใช้เลย ใช้ในแค่ 1% ของคดีทั้งหมดที่เคยมีมาก็ว่าได้ และถึงจะถูกใช้มันก็ได้ผลแค่ 25% ของคดีทั้งหมดเท่านั้นซึ่งถ้าพิสูจน์ได้ว่าเป็นบ้าจริงฆาตกรก็ต้องอยู่ในที่บำบัดด้านจิตจนกว่าจะหายเป็นปกติ

 

 

การแฮคข้อมูลเป็นการกระทำของอาชญากรเท่านั้นเรามักจะได้เห็นการขโมยหรือเข้าถึงข้อมูลในภาพยนตร์ด้วยการแฮคระบบคอมพิวเตอร์โดยโจรหรือตัวเอกที่เป็นการกระทำที่ผิดกฏหมาย ใช่ครับการเข้าถึงข้อมูลแบบนี้ในเรื่องจริงผิด เพียงแต่ว่าการแฮคแบบนี้ในของจริงก็มีคนที่แฮคแบบถูกกฏหมาย นั่นคือการการที่บริษัทต่างๆ จ้างคนให้มาแฮคหาช่องโหว่ในระบบเพื่อที่จะได้ปิดช่องโหว่นั้นได้ ทำให้การแฮคไม่ใช่การกระทำของคนที่ทำผิดกฎหมายอย่างเดียว

 

 

T-Rex ไม่สามารถมองเห็นสิ่งที่ไม่เคลื่อนไหวได้ในภาพยนตร์ Jurassic Park จะมีฉากที่ได้กล่าวว่า T-Rex ไม่สามารถมองเห็นสิ่งที่ไม่เคลื่อนไหวได้ซึ่งในชีวิตจริงตัวละครในเรื่องจะได้กลายเป็นอาหาร T-Rex แน่นอนเพราะในชีวิตจริงตาของ T-Rex จากการศึกษาว่ากันว่ามีตาอยู่ในระดับเดียวกับเหยี่ยวเลยก็ว่าได้ ใครสนใจในวิทยาศาสตร์เรื่องนี้อ่านต่อได้ที่นี่เลยครับ http://mentalfloss.com/article/31503/it-true-t-rex-could-only-see-things-were-moving

 

 

การแฮคสัญญาณจราจรการที่เราเห็นภาพยนตร์ที่มีเทคโนโลยีมาเกี่ยวข้องหลายเรื่องงมีฉากการแฮคสัญญาณไฟจราจรให้เขียวแดงตามความต้องการในภาพยนตร์นั้น เรียกได้ว่าของจริงกีมีทางเป็นไปได้เช่นกัน นักวิจัยในอเมริกาได้พบว่าสัญญาณไฟจราจรหลายแห่งนั้นเชื่อมต่อกับ Wi-Fi และแฮคด้วยการแค่ใส่รหัสผ่านให้ถูกต้องแค่นั้น (อ้างอิง)  เรียกได้ว่าเทคโนโลยีนี่มันน่ากลัวจริงๆ เลยนะครับนี่

 

 

แฮคกล้องวงจรปิดเรามักจะได้เห็นภาพยนตร์แอคชั่นหรือสายลับที่มีการแฮคกล้องวงจรปิดเพื่อซ้อนภาพทำให้ตัวเอกลอบเข้าไปในสถานที่นั้นๆ ได้ซึ่งในความเป็นจริงก็ได้มีการวิจัยแล้วเช่นกันว่า กล้องรักษาความปลอดภัยนั้นสามารถแฮคได้จริงผ่านระบบ IP ที่ใช้เข้ามาดูกล้องวงจรปิด (อ้างอิง)

 

 

รหัสผ่านถูกเเฮคได้เเบบง่ายๆในความเป็นจริงเเล้ว รหัสผ่านที่ถูกเเฮคได้ง่ายคือรหัสผ่านง่ายๆ หรือรหัสที่เป็นคำที่มีใน Dictionary หรืออายุ ชื่อเล่น วันเดือนปี เป็นต้นการที่ตั้งรหัสผ่านยากๆ อย่าง a3Bg&%kLi02a นั้นจะทำให้คนที่มาเเฮคเราด้วยวิธีปกติอย่างสุ่มคำไม่ได้เเน่นอนเพราะเว็บไซต์ปัจจุบันหรือโปรเเกรมถ้าใส่รหัสผ่านผิดสักพักเเล้วจะทำการล็อคหรือยืนยันผ่านโทรศัพท์มือถือ เป็นต้น

 

 

เป็นยังไงบ้างครับกับความเชื่อจากโลกภาพยนตร์ที่หลายๆ ข้อหลายๆ คนคงจะเคยเห็นเเละคิดตามกันเเน่เลยใช่มั้ยครับ ก็เรียกได้ว่าเพราะเป็นภาพยนตร์เพื่อความบันเทิงไม่ใช่สารคดีการจะเปลี่ยนความเป็นจริงเพื่อความสนุกก็ไม่ใช่เรื่องเเปลกอะไร

ที่มา howtogeek screenrant

แชร์เรื่องนี้:

เรื่องที่คุณอาจสนใจ